วันนี้มู่หรงฉีไม่คิดจะออกไปไหนเหลิ่งชิงหลางจึงอารมณ์ดี นางสั่งให้คนยกสำรับขึ้นมาและให้เขาอยู่กินข้าวที่เรือนจื่อเถิง
จือชิวที่สวมชุดผ้ามีสีสันราวกับผีเสื้อเดินเข้าๆ ออกๆ จู่ๆ ก็รู้สึกวูบวาบในใจ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบนศีรษะ ตัวสั่นหายใจหอบก่อนจะเป็นลมล้มลงไปกับพื้น
เหลิ่งชิงหลางตกใจรีบลุกขึ้นไปดู “เป็นอะไรไป”
หญิงชราในจวนรีบเข้ามาจับหน้าอกและกดบริเวณเหนือริมฝีปากแต่จือชิวก็ไม่ตอบสนอง นางรีบสั่งให้คนไปตามหมอ หลังจากตรวจสอบดูสักพักก็ได้ข้อสรุป “ดูเหมือนจะเป็นอาการหัวใจขาดเลือดหล่อเลี้ยง สมองขาดอากาศ เลือดลมไม่ไหลเวียนจนทำให้เป็นลม”
เมื่อฝังเข็มเงินลงไปที่จุดเหนือริมฝีปากไม่นานจือชิวก็ค่อยๆ ได้สติ
“ตอนแรกยังดีๆ อยู่เลย ทำไมเจ้าถึงเป็นลมไปได้? ร่างกายของเจ้าก็แข็งแรงมาตลอด ไม่เคยได้ยินว่าเจ้ามีอาการป่วยอะไรเลย” เหลิ่งชิงหลางเอ่ยถาม
จือชิวยังคงมึนงง ร่างกายอ่อนแรงปวกเปียกลุกไม่ไหว “บ่าวรู้สึกใจสั่นหายใจไม่ออก ร่างกายไร้เรี่ยวแรงราวกับโดนพิษ”
“โดนพิษ?” เหลิ่งชิงหลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้ากินอะไรไป?”
จือชิวคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างหนักแน่น “มีเพียงลิ้นจี่ตะกร้าที่คุณหนูใหญ่คืนมาเท่านั้นเจ้าค่ะ ต้องเป็นลิ้นจี่ที่ผิดปกติแน่ๆ”
“ข้าและท่านอ๋องก็กินลิ้นจี่นั่นแต่ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ” เหลิ่งชิงหลางเหลือบมองมู่หรงฉีเพื่อบอกใบ้บางอย่าง
“ต้องเป็นนังเด็กโตวโตวที่แอบวางยาพิษแน่ๆ! นางบอกว่าให้ข้านำกลับมาให้คุณหนู เห็นได้ชัดว่านางพุ่งเป้ามาที่คุณหนู”
มู่หรงฉีเหยียดริมฝีปากก่อนจะลุกขึ้นออกจากเรือนจื่อเถิงไปโดยไม่พูดอะไร
เหลิ่งชิงหลางไม่ลืมที่จะเติมเชื้อเพลิงลงในเปลวไฟ “พี่สาวของหม่อมฉันเก่งเรื่องการวางยาพิษ ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นอีกทั้งยังไม่มีหลักฐาน นางต้องไม่ยอมรับแน่ ท่านอ๋อง ช่างเถอะเพคะ”
มู่หรงฉีไม่ได้เอ่ยอะไร เขาเดินไปไกลมากแล้ว
ตอนนั้นเป็นเวลาอาหารกลางวันพอดี เหลิ่งชิงฮวนกำลังนั่งกินข้าวกับพวกแม่นมเตียวเหมือนปกติ ทุกคนหัวเราะพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา แต่เนื่องจากอาการแพ้ท้องในช่วงสองสามวันนี้เธอจึงให้โตวโตวยกอาหารเข้ามาให้ในห้อง
มู่หรงฉีบุกเข้ามาในลานบ้านด้วยใบหน้าบูดบึ้ง แม่หวังและแม่นมเตียวรีบลุกขึ้นมาทำความเคารพแต่มู่หรงฉีเตะประตูห้องเข้าไปโดยไม่สนใจ
ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำส้มสายชู เหลิ่งชิงฮวนที่กำลังมองดูอาหารบนโต๊ะอย่างเป็นกังวล เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยท่าทีหงอยเหงา
เธอเห็นว่ามู่หรงฉีไม่มีปฏิกิริยาอะไรจึงเหลือบตามองอย่างเกียจคร้าน “มีเรื่องอะไรหรือ?”
มู่หรงฉีมองดูอาหารตรงหน้าอย่างเย็นชา ดูไม่น่ากินและก็เรียบง่ายเพราะว่าฝีมือของแม่นมเตียวก็ไม่ได้ดีมากนัก ไม่แปลกใจที่สตรีผู้นี้จะดูผอมแห้งอ่อนแอ แน่นอน แค่ ‘ดูเหมือน’เท่านั้น
เขาสั่งโตวโตวเสียงเย็น “ออกไป ปิดประตู”
โตวโตวมองไปที่คุณหนูของนางอย่างกังวล ก่อนออกไปอย่างกระวนกระวายและปิดประตู แต่ก็ยังคงเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู
“เมื่อครู่จือชิวเป็นลม”
เหลิ่งชิงฮวนดูเฉยเมย “อ้อ”
มู่หรงฉีขมวดคิ้ว “หรือเจ้าไม่มีอะไรอยากจะพูดหรือ?”
เธออยากจะพูดว่า สมน้ำหน้า
“เกี่ยวอะไรกับหม่อมฉันหรือเพคะ”
มู่หรงฉีตะคอก “นางเป็นลมเพราะกินลิ้นจี่ที่นำกลับไปจากเรือนของเจ้า”
“แล้วไงเพคะ?” เหลิ่งชิงฮวนจ้องมองเขาด้วยแววตาใสซื่อไร้เดียงสา
“เจ้ารู้อยู่แก่ใจดี!”
“หม่อมฉันไม่รู้เพคะ”
“ข้าเพิ่งเตือนเจ้าเมื่อสองวันก่อนว่าอย่าพยายามคิดหาวิธีทำร้ายชิงหลาง ครั้งก่อนเจ้ายังทำร้ายนางไม่พออีกหรือ?”
เหลิ่งชิงฮวนย้อนถามอย่างสงสัย “ครั้งก่อน? หม่อมฉันทำร้ายนางตอนไหนเพคะ”
มู่หรงฉีกลืนน้ำลายก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เหลิ่งชิงฮวน เจ้าไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อหน้าข้า ข้ารู้ว่าเจ้าน่ะเก่งสามารถวางยาพิษโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ต่อให้จับเจ้าไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...