หลังจากที่มู่หรงฉีและเหลิ่งชิงฮวนเข้ามาในวัง พวกเขาก็ตรงไปที่วังฉืออันซึ่งเป็นที่ที่ไทเฮาอาศัยอยู่
พวกเขาถูกแม่นมฉีขวางไว้ที่หน้าประตู “วันนี้ไทเฮาอารมณ์ไม่ดีพระนางทรงกำลังร้องไห้อยู่ หากท่านอ๋องฉีและพระชายาไม่มีเรื่องด่วนอะไรก็ค่อยมาวันหลังดีกว่านะเจ้าคะ”
มู่หรงฉีแปลกใจ “เสด็จย่าเป็นอะไร?”
แม่นมฉีถอนหายใจ “สี่กงกงป่วยมาหลายวันแล้วยังไม่หาย สองวันที่ผ่านมาเขาเริ่มไอเป็นเลือด หมอหลวงบอกว่าเขาอาจจะเหลือเวลาไม่นาน สี่กงกงรับใช้ไทเฮามาเกินครึ่งชีวิต พระนางจึงเสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับเอาแต่ร้องไห้”
มู่หรงฉีลังเลก่อนจะหันหลับไปมองเหลิ่งชิงฮวน “กลับก่อนเถอะ”
เหลิ่งชิงฮวนยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน “ก็แค่คำพูดของหญิงชราคนเดียวเท่านั้น”
หากไทเฮาอารมณ์ไม่ดีไปตลอด เช่นนั้นเธอก็ต้องยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ งั้นหรือ?
หากวันนี้ผ่านไปไม่ได้ แล้ววันหนึ่งเธอต้องตายอยู่ในเงื้อมมือของบุรุษผู้ชอบใช้ความรุนแรงนี้ล่ะ? ไม่สิ หากเขาคิดจะลงมือกับเธอถึงขั้นนั้น เธอจะต้องชิงลงมือก่อนแน่
แล้วหากว่าเขาเกิดตายอยู่ในเงื้อมมือของเธอจริงๆ ล่ะ?
เธอเอ่ยกับแม่นมฉีด้วยเสียงเรียบ “รบกวนแม่นมฉีเข้าไปรายงานให้หน่อยนะเจ้าคะ”
แม่นมฉีมองไปที่มู่หรงฉี เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไรนางจึงเปิดม่านและเข้าไปในห้องด้านหลัง ครู่หนึ่งก็เปิดม่านประตูอีกครั้งแล้วเอ่ยกับทั้งสองว่า “ไทเฮาให้มาเชิญพวกท่านเจ้าค่ะ”
มู่หรงฉียกเสื้อผ้าของเขาและก้าวข้ามธรณีประตูไปก่อน เหลิ่งชิงฮวนก้มหัวของเธอและเดินตามหลังเขาเข้ามา ก่อนจะคุกเข่าทำความเคารพ
ไทเฮาเอนกายอยู่บนเตียงไม้ ขมวดคิ้ว ท่าทางสง่างามและใจดี ไม่มีออร่าข่มเหงเป็นเพียงแค่หญิงชราธรรมดา ขอบตาของนางยังคงเป็นสีแดง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เข้าวังมาในเวลานี้ เกิดเรื่องอะไรหรือ?”
มู่หรงฉีเหลือบมองเหลิ่งชิงฮวนและพูดด้วยเสียงทุ้ม “หลานขออภัยโทษและขอความเมตตาจากเสด็จย่า ให้หลานหย่ากับคุณหนูใหญ่ตระกูลเหลิ่ง เหลิ่งชิงฮวน”
ไทเฮาไม่ได้พูดอะไรชั่วขณะหนึ่ง นางจ้องมองไปที่เหลิ่งชิงฮวนและเอ่ยช้าๆ “เจ้าลองว่ามา ว่าทำไมเจ้าถึงอยากจะหย่ากับฉีเอ๋อร์ ย่าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”
เหลิ่งชิงฮวนไม่กล้าเงยหน้า “ทูลไทเฮา ชิงฮวนไร้ความสามารถและไร้คุณธรรมทำให้ไทเฮาผิดหวัง ขอไทเฮาทรงเมตตา”
“หากข้าไม่อนุญาตล่ะ? เจ้าลืมไปหรือเปล่าว่าตอนที่ฉีเอ๋อร์ขอหย่าครั้งแรกใครเป็นดื้อดึง? หลังจากแต่งงานเข้าไปในจวนพวกเจ้าก็เอะอะจะขอหย่า คิดว่าเป็นเด็กเล่นพ่อแม่ลูกกันหรือ?”
คำพูดของไทเฮาเต็มไปด้วยความโกรธจนเหลิ่งชิงฮวนพูดไม่ออก
พ่อราคาถูกที่เธอเก็บมาเลี้ยงนั่นช่างหาเรื่องให้ลูกสาวจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ยอมที่จะเสียลูกเขยผู้มั่งคั่งคนนี้ไปถึงกับยอมใช้ธงนายพลของตนเพื่อทำให้เธอเป็นรอง เมื่อมู่หรงฉีพูดขึ้นมาก็กลายเป็นว่าเธอเองที่ดึงดันจะแต่งงานให้ได้
เหลิ่งชิงฮวนรู้ว่าไทเฮานั้นรับมือยากกว่าเหล่าไท่จวินหากพูดผิดเธออาจจะถูกตัดหัวได้ หลังจากเลือกคำพูดอย่างระมัดระวังแล้ว เธอจึงรับความผิดทั้งหมดไว้กับตัวเอง
“ชิงฮวนเติบโตในชนบทและไร้คนอบรมสั่งสอน บัดนี้พอคิดได้ก็รู้สึกละอายใจที่ทำตัวเหมือนสตรีหน้าไม่อาย หม่อมฉันไม่คู่ควรกับท่านอ๋องจริงๆ ขอไทเฮาปลดหม่อมฉันจะดีกว่าเพคะ”
มู่หรงฉีนิ่งเงียบเมื่อเห็นท่าทางแน่วแน่ของนางที่ยืนยันความคิดของตนครั้งแล้วครั้งเล่าต่อหน้าไทเฮาก็เอ่ยออกมาด้วยความโกรธ “ขอเพียงแค่เสด็จย่าอนุญาต หลานก็จะเขียนตำราหย่าให้นางตอนนี้”
“ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี!” ไทเฮาตวาดด้วยความโมโห “พวกเจ้าสองคนน่ะต่างก็หัวแข็ง ไม่ว่าใครจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่คิดจะฟังแล้วใช่ไหม”
ทั้งสองคุกเข่าลงกับพื้น ก้มหน้าไม่พูดไม่จา ท่าทางตั้งใจแน่วแน่
“ดี ดี ดี!” ไทเฮาเอ่ยคำว่าดีติดกันสามครั้ง “ในเมื่อข้าทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ข้าก็จะไม่สนใจ อยากทำอะไรก็ทำ ใครก็ได้นำกระดาษกับหมึกเข้ามา”
จู่ๆ ก็มีขันทีน้อยรีบเข้ามามือเปล่า คุกเข่าต่อหน้าไทเฮา เอ่ยเสียงสะอื้น
“ทูลไทเฮา สี่กงกงกระอักเลือดอีกแล้ว เขาส่งบ่าวมากราบทูลลา ขอให้ไทเฮาโปรดให้สี่กงกงออกไปนอกวังด้วย กงกงบอกว่าไม่ต้องการอยู่ต่อหน้าพระนาง ไม่อยากให้พระนางต้องเห็นเขาทรมาน เขาขอคำนับให้ไทเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ขออวยพรให้ไทเฮาสุขภาพแข็งแรงหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”
ขันทีคนนั้นโขกหัวของเขาอย่างหนักและสะอื้นในตอนท้าย
“จะเกิดจะตาย จะรวยจน ก็แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต กระหม่อมติดตามพระนางมาทั้งชีวิตก็เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจสัมผัสได้ ดังนั้นเมื่อหมดอายุขัยก็ไม่รู้สึกเสียดาย พระชายามิต้องปลอบโยนกระหม่อมหรอก”
ขณะที่เกลี้ยกล่อมเหลิ่งชิงฮวนก็เปิดใช้ฟังก์ชันCTของแหวนนาโนและสแกนปอดของเขาอย่างราบรื่น เธอเห็นจุดดำใต้ปอดด้านขวาซึ่งน่าจะเป็นจุดของโรค อาการแตกต่างกับโรคปอดอักเสบอีกทั้งยังตัดโรควัณโรคที่ถึงแก่ชีวิตออกไปได้เลย
“โรคของท่านนี่มันเล็กน้อยมากเลย” เหลิ่งชิงฮวนถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้าง”
“ที่จริงก็ปวดตรงนี้ นอนราบไม่ได้ แน่นหน้าอก ไอเป็นเลือด”
“แล้วท่านพูดคำตัดกำลังใจพวกนั้นออกมาได้อย่างไร” เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยเบาๆ “บอกข้าสิว่าท่านป่วยได้อย่างไร และเริ่มรู้สึกไม่สบายตั้งแต่เมื่อไหร่”
สี่กงกงไออีกครั้ง ใบหน้าของเขากลายเป็นสีม่วงดูเหมือนหายใจไม่ออก
ขันทีน้อยที่อยู่ข้างๆ ตบหลังเขาอย่างแผ่วเบา “สิบกว่าวันแล้ว เขาบ่นว่าเจ็บหน้าอกจากนั้นเขาก็เริ่มไอทั้งวันทั้งคืน หมอหลวงในวังต่างบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ”
“หรือว่าไม่มีอาการผิดปกติเลยในช่วงที่เริ่มมีอาการ เช่นไข้ซางหาน หรือการบาดเจ็บจากภายนอก”
ในที่สุดสี่กงกงก็หยุดไอ “พูดไปก็จะทำให้พระชายาหัวร่อเสียเปล่า กระหม่อมรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยก่อนที่จะล้มป่วย วันนั้นไทเฮาให้รางวัลแก่กระหม่อมด้วยอาหารสองจาน มีจานหนึ่งที่เป็นปลา กระหม่อมรีบกินจึงทำให้ก้างปลาติดคอ จึงรีบกลืนซาลาเปาแห้งๆ แล้วปล่อยผ่าน แต่คอของกระหม่อมกลับคันและไออยู่สองวันเช่นนี้แหละ”
เหลิ่งชิงฮวนพอจะคาดเดาได้ในใจ “คาดว่าก้างปลาน่าจะเจาะหลอดอาหารแล้วเจาะเข้าไปในปอดทำให้เกิดการอักเสบ”
“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?” สี่กงกงรีบโต้แย้ง “ของในกระเพาะจะเข้าไปในปอดได้อย่างไร”
“การฝืนกลืนก้างปลาควบคู่ไปกับการบีบตัวไม่หยุดของกระเพาะ จึงมีความเป็นไปได้ว่าก้างปลาน่าจะติดอยู่ในปอด ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกและไม่ใช่โรคที่รักษาไม่หาย”
สี่กงกงมองดูเหลิ่งชิงฮวนอย่างมีความหวัง “พระชายาหมายความว่ากระหม่อมยังมีโอกาสรอด? ก้างปลานี้ติดอยู่ในปอดและกระหม่อมไม่สามารถเอามันออกมาได้ ช้าเร็วก็ต้องไอจนตาย หรือจะสามารถกรีดอดแหวกท้องเอาออกมาได้หรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...