ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 400

เด็กคนนี้เป็นลูกของมู่หรงฉีจริงหรือ? หรือว่ามู่หรงฉีหลอกเธอ ที่จริงแล้วเขากับเหลิ่งชิงหลางลอบมีอะไรกับก่อนช่วงเทศกาลจงชิวแล้วเพียงแต่เธอไม่รู้เท่านั้นเอง

เมื่อนึกถึงฟังผิ่นจือ อันธพาลหนุ่มปลอมตัวเป็นหญิงเข้ามาในเรือนจื่อเถิง คำตอบนี้ยิ่งทำให้น่าสนใจ

เด็กคนนี้เป็นลูกของฟังผิ่นจือหรือว่ามู่หรงฉีกัน

เรื่องนี้จะเป็นไปได้หรือไม่นั้นเหลิ่งชิงหลางตั้งท้องลูกของฟังผิ่นจือและวางแผนตอนเทศกาลจงชิว เพื่อให้ตัวเธอและลูกมีที่พึ่ง?

เธอกลัวว่าตัวเธอจะไล่ถามเรื่องให้เปิดเผยออกมาบวกกับการเป็นวัวสันหลังหวะก็เลยทำให้กระทบกระเทือนครรภ์?

ตอนนี้ฟังผิ่นจือได้ตายไปอย่างไร้หลักฐาน เด็กจะเป็นลูกของใครนั้นจำเป็นต้องถามมู่หรงฉีจึงจะรู้ มีเพียงแค่เขาที่รู้ดีอยู่แก่ใจ

มีประโยคหนึ่งที่กล่าวเอาไว้ดี ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เหลิ่งชิงฮวนใจดีแต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับผลแบบนี้ อีกทั้งเหลิ่งชิงหลางนั้นมาโยนความผิดให้กับเธอ เกรงว่าคงจะไม่รู้ว่าตัวเองได้โผล่หางออกมาแล้ว

เด็กคนนี้ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ จะให้เป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด สักวันหนึ่งความจริงก็จะปรากฏออกมา

เหลิ่งชิงฮวนใช้เข็มมภมรยับยั้งอาการของเหลิ่งชิงหลางเอาไว้ เธอเงียบไปอยู่นานโดยไม่พูดอะไรออกมา ในที่สุดมู่หรงฉีก็อดที่จะถามขึ้นไม่ได้ว่า “นาง...เด็กเป็นอย่างไรบ้าง”

เหลิ่งชิงฮซนตอบเสียงเรียบ “พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แล้วแต่บัญชาของสวรรค์ ข้าได้พยายามเต็มที่แล้วจะอยู่อดปลอดภัยนั้นเป็นบัญชาฟ้า”

มู่หรงฉีพูด “อืม” ออกมาเสียงเบา จากนั้นก็ “ขอบคุณ”

คำขอบคุณนี้ทำให้จิตใจที่อ่อนไหวของเหลิ่งชิงฮซนหนักอึ้งขึ้นอีกครั้งราวกับว่าเขากับเหลิ่งชิงหลางถึงจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนตัวเธอเป็นแค่หมอที่รักษาให้รอดจากความตาย เป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง ดังนั้นเขาถึงได้พูดขอบคุณอย่างเกรงใจและเหินห่างแบบนี้

เธอถอยออกไปอย่างเงียบๆ

ในใจของเธอรู้สึกสับสนและต้องการเวลาและช่องว่างในการจัดการกับความคิดอันสับสนของตัวเอง

เสิ่นหลินเฟิงกับฉีจิ่งอวิ๋นได้กลับไปแล้ว บ่าวรับใช้ภายในจวนก็ต่างวิ่งออกไปอย่างวุ่นวายเพราะว่าเรื่องที่เหลิ่งชิงหลางแท้ง แต่ก็เห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรและช่วยอะไรไม่ได้

พระสนมฮุ่เฟยเฝ้าอยู่ตรงหน้าเหลิ่งชิงหลาง แม้แต่มู่หรงฉีเองก็ไม่ได้ตามออกมา

ไม่ว่าเหลิ่งชิงหลางจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนหรือไม่ เด็กในท้องของเธอนั้นก็เป็นที่เป็นห่วงของพวกเธอ

เหลิ่งชิงฮวนสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะเอนตัวลงบนเตียง เธอเงยหน้ามองฟ้า แสงแดดยามเที่ยงสาดส่องมาลงบนใบหน้าของเธอ มันแผดเผาดวงตาของเธอจนรู้สึกแสบจนน้ำตาไหลลงมา

มู่หรงฉีที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ด้านหลังของเธอเมื่อไร เขาเรียกชิงฮวนเบาๆจากนั้นก็พูดกับเธออีกครั้ง “ขอบคุณ”

“หมอหลวงบอกว่าตอนนี้ครรภ์ปลอดภัยดีแล้ว ยังต้องพักรักษาตัวบนเตียงไปก่อน”

เหลิ่งชิงฮวนพยายามยกมุมปากขึ้น “ทำไมท่านต้องขอบคุณหม่อมฉันด้วย”

“ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ยอมช่วย”

“ท่านคิดว่าหม่อมฉันจงใจทำให้เหลิ่งชิงหลางแท้งงั้นหรือ และเซ่อเซียงบนเสื้อผ้าของนางก็เป็นคนโปรย”

มู่หรงไม่ได้ตอบว่าใช่ แต่ก็ไม่ได้ตอบว่าไม่ใช่ เขาเพียงแต่ถามเธอว่า “งั้นเจ้าคิดว่าเป็นใครกัน จิ่งอวิ๋น? หรือว่าหลินเฟิง?”

เหลิ่งชิงฮวนนิ่วหน้าและมองไปที่มู่หรงฉีอย่างจริงจัง “ทำไมท่านถึงไม่คิดว่าตัวเหลิ่งชิงหลางเป็นคนทำเองล่ะ”

มู่หรงฉีส่ายหน้า “เพราะว่าเหลิ่งชิงหลางเฝ้าคอยเด็กคนนี้มากกว่าใคร นางคิดจะใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการยกฐานะตัวเองนางไม่มีทางทำเล่นๆกับเรื่องนี้แน่”

“ผงเซ่อเซียงแค่นิดหน่อย หม่อมฉันคิดว่าคนที่รู้วิชาแพทย์ต่างรู้ว่าหากไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับมันนักก็ไม่เป็นอะไร พูดไปยังคงสงสัยหม่อมฉัน? หลินเฟิงกับจิ่งอวิ๋นไม่ได้มีบุญคุณความแค้นอะไรกับเหลิ่งชิงหลาง พวกเขาจะลงมือได้อย่างไร”

“เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้วชิงฮวน ข้าไม่เคยสงสัยเจ้า”

“แต่สุดท้ายแล้วหม่อมฉันก็เป็นคนผิด” เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจ “หม่อมฉันช่วยนางก็แค่เพราะไม่อยากให้พวกเรามีปัญหากัน ไม่อยากให้ท่านเสียใจเท่านั้นเอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา