ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 416

สรุปบท ตอนที่ 416 พระชายาจะหนีไปจริงๆ รึ?: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 416 พระชายาจะหนีไปจริงๆ รึ? จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 416 พระชายาจะหนีไปจริงๆ รึ? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในตอนแรกที่เหลิ่งชิงฮวนพูดว่าจะออกบวช นั่นเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น นางมิเคยคิดที่จะอยากไปในสถานที่น่าเศร้าอย่างสำนักแม่ชีหนานซานด้วยตนเองเลย แต่เมื่อโฉวซือเส่าพูดเช่นนี้ นางจึงตัดสินใจว่าจะมิกลับไป

“พาข้าไปด้วยสิ”

“การที่เราจะลักลอบเข้าไปในอาณาบริเวณนั้น จะต้องทำในตอนกลางคืนเท่านั้น เจ้านี่โง่เหมือนเป็ด หากตามไปด้วยจะมิเป็นภาระรึ?”

เหลิ่งชิงฮวนมุ่ยปาก “หากมิพาข้าไปด้วย บุรุษอย่างพวกท่านสองคนคงมิมีทางเข้าไปในสำนักแม่ชีได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าพาข้าไปด้วย พวกท่านจะเดินเตร่เข้าไปแบบโจ่งแจ้งก็ยังได้”

โฉวซือเส่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ

“จะไปเยี่ยงไรล่ะ”

เหลิ่งชิงฮวนลูบท้อง “กลับไปจุดธูปแก้บนไง”

เหตุผลนี้ช่างเข้าท่า โฉวซือเส่าพยักหน้า “ตกลงตามนั้น”

อีกมุมหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุดกำลังจับตามองเหลิ่งชิงฮวนที่ถือมีดออกมาจากศาลาว่าการของเสิ่นหลินเฟิง และรีบไปถามเสิ่นหลินเฟิงว่าพระชายามาทำอันใด

เสิ่นหลิงเฟิงก็เห็นว่าเหลิ่งชิงฮวนมีบางอย่างผิดปกติ จึงเฝ้ามองนางจากไปด้วยความกังวล และบอกจุดประสงค์ที่นางมาที่นี่ให้รองแม่ทัพอวี๋ฟัง

“นางบอกว่าอยากจะใช้สุนัขตำรวจของข้าซ้อมผ่าตัดทำหมันน่ะ”

รองแม่ทัพอวี๋สูดลมหายใจ แล้วสั่งให้ทหารอารักขานายหนึ่งกลับไปที่จวนเพื่อรายงานที่อยู่ของพระชายาให้ท่านอ๋องฉีผู้น่าเคารพทราบ ก่อนจะตักเตือนชายชราด้วยเช่นกัน : มีดในมือของพระชายามีไว้ทำอันใด ให้เขาค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

หลังจากนั้นตนก็พาทหารอารักขาคนอื่นๆ ไล่ตามเหลิ่งชิงฮวนไปอย่างเงียบๆ จนไปถึงหอหงปิน

รองแม่ทัพอวี๋รู้ว่าพระชายาของตนชอบรับประทานอาหารในหอหงปินมาก แล้วก็มักจะมีคนรู้จักหิ้วกล่องอาหารเข้ามาส่งที่จวน ก็เลยมิแปลกใจเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คือกินอิ่มแล้วเป็นกบฏงั้นรึ?

เขาเฝ้าดูพระชายาของตนขึ้นไปยังห้องนั่งชั้นสองอันงดงามอย่างชำนาญลู่ทาง แต่มิได้ตามเข้าไป หลังจากออกมาจากหอหงปินแล้ว ก็เฝ้ามองอยู่ไกลๆ ให้มั่นใจว่านางปลอดภัยไร้กังวล ใครจะกล้าไปเกลี้ยกล่อมพระชายาที่กำลังโกรธเกรี้ยวกันเล่า?

แต่ต่อมา เขาก็เห็นม้าเร็วควบม้ามาอย่างรวดเร็ว คนผู้นั้นลงมาจากหลังม้า และโยนแส้ม้าไปให้คนรู้จักในร้านค้า ก่อนจะตรงไปยังชั้นสองเช่นกัน

หนุ่มน้อยผู้นั้นเรียกได้ว่างดงาม เขาสวมชุดสีแดง สะพัดความสวยงามและความกำเริบเสิบสาน เพียงแค่เคลื่อนไหวอย่างง่ายๆ ดอกลำโพงม่วงบนเสื้อคลุมก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา ทำให้เขามีเสน่ห์และสวยหยาดเยิ้ม

ชุดสีแดง ดอกลำโพงม่วง

โหย คุ้นๆ แฮะ มิใช่ท่านอ๋องของตน ภาพนี้คือ โฉวซือเส่า ผู้สืบทอดแห่งฉางเจี้ยนเก๋อที่จับกุมฆาตกรทั่วทุกสารทิศงั้นรึ?

เขายังคงไปมาหาสู่กับพระชายาอย่างลับๆ อยู่หรือ? ความรู้สึกของคนรู้จักที่มาส่งอาหารของภัตตาคารล้วนบังหน้างั้นรึ?

พระชายาจะเป็นเช่นนี้ได้เยี่ยงไร? ท่านอ๋องรักนางสุดหัวใจ รักเดียวใจ มิใช่สิ สองรักแต่ใจเดียว แล้วนางจะปรี่มานัดพบกับชายอื่นลับหลังท่านอ๋องมิได้เชียวนะ?

ข้ามองท่านผิดไปจริงๆ !

แม้ว่าในใจของรองแม่ทัพอวี๋จะมิพอใจเหลิ่งชิงฮวน แต่ก็ยังลังเลเล็กน้อยว่าจะบอกให้ท่านอ๋องทราบดีหรือไม่

สิ่งนี้ก็เหมือนกับการที่ท่านเห็นสามีของเพื่อนสนิทมีชู้ บอกก็คงยุ่งเหยิงกันไปใหญ่ ถึงอย่างไรรองแม่ทัพอวี๋ก็ลำบากใจเป็นอย่างมาก เขาสะกดทัพไว้มิให้เคลื่อนไหวอยู่พักหนึ่ง และมิได้ส่งคนไปร้องเรียนใดๆ ทำเพียงจับตามองไปที่ประตูของหอหงปินอย่างกระวนกระวายใจ ร้อนรนกังวลใจแทนเหลิ่งชิงฮวนอยู่ลับๆ

เมื่อรองแม่ทัพอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ร้อนรนใจ พระชายาคงจะมิได้โกรธจนหนีไปกับชายอื่นใช่หรือไม่? นี่เห็นท่าจะมิดีแล้ว

แล้วจะไปรายงานกับท่านอ๋องฉีเยี่ยงไรเล่า? แม่ทัพอวี๋เกาหัว และรู้สึกเป็นทุกข์มาก

เสวียนจีจือที่แสร้งเป็นคนขับรถเคาะประตู และไร้การตอบรับจากคนด้านในอยู่นาน จึงหยิบปิ่นออกมาจากหัว สอดเข้าไปในรอยแยกของประตูและสะกิดเบาๆ สลักด้านในก็เปิดออก

ทั้งสามก้าวเข้าไปในประตู รอบๆ วังเวงเงียบสงัดไร้เสียง เมื่อคนออกไปแล้ว อาคารก็ว่างเปล่า ค้นหาทั่วสำนักก็มิมีแม่ชีสักคน เตาฟืนก็เย็นแล้ว เถ้าธูปก็เย็นเช่นกัน

โฉวซือเส่าส่งคนมาจับตาดูความเคลื่อนไหวของแม่ชีเป็นประจำ ตอนนี้ยีงมิได้รับข่าวคราวอันใดเลย เห็นได้ชัดว่าคงจะออกไปได้มินาน

การปิดล้อมราชสำนักคราวก่อน ก็ยังเหลือแม่ชีสูงวัยสองรูปในสำนักแม่ชีแห่งนี้ที่มิรู้เรื่องอันใดเลย แกล้งทำเป็นมิรู้มิชี้ ตอนนี้กลับหายไปกันหมด เห็นได้ชัดว่า ที่นี่มิมีค่าอันใดแล้ว!

ในเมื่อมิมีผู้ใด ทั้งสามยังใจกล้ามองและค้นหาไปรอบๆ

ก่อนคนเหล่านี้จะถอยกลับไป จะต้องจัดวางอย่างรอบคอบ นอกจากเสื้อผ้าและที่หลับที่นอนในสำนักแม่ชีแล้ว พระไตรปิฎก หม้อ ชาม ก็มิเหลืออันใดแล้วเช่นกัน ยิ่งมิต้องพูดเบาะแสที่มีประโยชน์เลย

สุดท้ายก็ยังเป็นความเก่งกาจของเสวียนจีจือ ตรงโถงด้านข้างพระพุทธรูปที่มองมิค่อยเห็น ก็พบเข้ากับกลไกจริงๆ หลังจากเปิดมันออก ก็มีทางลับลงไปยังชั้นใต้ดิน

ทั้งสามเดินลงมาพร้อมคบเพลิง ด้านล่างมีชั้นตำราอยู่หลายตู้ เมื่อเปิดออกมาก็เจอกับความว่างเปล่า ตามร่องรอยของฝุ่นจะเห็นได้ว่าของด้านในเพิ่งจะถูกทำให้ว่างเปล่าไป

ทุกอย่างล้วนยืนยันการคาดเดาของโฉวซือเส่าแล้วว่า องครักษ์อินทรีใช้สถานที่แห่งนี้ติดต่อซื้อขายกันอย่างลับๆ กับชาวหนานจ้าว นั่นเป็นสาเหตุให้ข้อมูลลับทั้งหมดซ่อนอยู่ในนี้

และการตายของเจ้าสำนักขององครักษ์อินทรี มิต้องสงสัยว่ามันจะเป็นอุบายกลยุทธ์จักจั่นลอกคราบ

น่าเสียดายที่อีกฝ่ายก้าวนำไปหนึ่งก้าว ทุกอย่างล้วนแพร่กระจายไปแล้ว สิ่งนี้จึงทำให้เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกถึงวิฤตอีกครั้งภายในชั่วพริบตา

เป็นไปได้อย่างยิ่งที่อีกฝ่ายจะหวนคืนกลับมาได้อีกครั้ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา