ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 419

เหลิ่งชิงฮวนย้อนคิดอย่างละเอียดอีกครั้ง จุดน่าสงสัยที่ถูกขุดคุ้ยออกมาจากเรื่องราวเศษเล็กเศษน้อยนับตั้งแต่ได้รู้จักกับฉีจิ่งอวิ๋น ช่างขัดแย้งกับเหตุผลที่จะปลอบใจตัวเองให้ปฏิเสธตัวตนที่แท้จริงของเขาเสียเหลือเกิน

ตนกับมู่หรงฉีก็เพิ่งจะทะเลาะกันเรื่องของเหลิ่งชิงหลางไปหยกๆ หากบุ่มบ่ามเข้าไปบอกเขาว่าสหายของเขานั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น เขาจะคิดว่าตนปั้นน้ำเป็นตัวเพื่อหาเรื่องเขาหรือไม่

ในขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นที่หน้าประตู ตามด้วยเสียงคำนับของแม่นมเตียว ที่แท้ มู่หรงฉีรีบกลับมาเมื่อได้รับรายงาน

เหลิ่งชิงฮวนไม่สนใจเรื่องที่ตนเองยังโกรธเคืองอยู่ แล้วรีบลุกขึ้นปราดเข้าไปหาเขา อย่างไรเสีย ธุระนั้นสำคัญกว่า เก็บความคับข้องใจส่วนตัวเอาไว้ก่อน แล้วค่อยมาสะสางในภายหลัง

มู่หรงฉีเลิกม่านขึ้นและก้าวเท้าเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เขาเหลือบมองเหลิ่งชิงฮวนก่อนจะยิ้มเยาะอย่างเย็นชา

“เที่ยวเล่นเสียสนุกเลยสินะ?”

ในถ้อยคำเหล่านี้แฝงไปด้วยความประชดประชัน

เหลิ่งชิงฮวนอธิบาย “ข้าแค่ออกไปผ่อนคลายอารมณ์เท่านั้น ทำไมพวกทหารอารักขาต้องตื่นตระหนกขนาดนี้ล่ะ”

“จริงหรือ?” มู่หรงฉียกยิ้มที่มุมปาก “ดูท่าแล้ว อารมณ์ของเจ้าคงจะดีขึ้นไม่น้อยเลย ข้ายังคิดว่าเจ้าจะอารมณ์ร้ายเหมือนสิงโตเสียอีก”

ตาทึ่มนี่กำลังหาเรื่องกันอยู่ใช่ไหม ตอนนี้ข้าอุตส่าห์สงบศึกไม่เอาเรื่องเจ้าเป็นการชั่วคราว แต่เจ้ากลับหันมาแว้งกัดข้าน่ะหรือ

เหลิ่งชิงฮวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ข้ามีเรื่องต้องคุยกับท่าน เราพักเรื่องนี้ไว้ก่อนเถอะ”

“อย่าเลย มีเรื่องอะไรก็พูดให้ชัดเจนกันไปเลยดีกว่า” มู่หรงฉีพูดอย่างเย็นชา “ตัวเองทำผิดแล้วยังกล่าวโทษผู้อื่นได้อย่างฉะฉานเช่นนี้”

ถ้อยคำเหล่านี้ด่านางตรงๆ ไม่พอ ซ้ำยังเต็มไปด้วยหนามแหลม เวลานี้ เหลิ่งชิงฮวนเริ่มรู้สึกงงงวย “ใครทำอะไรผิดหรือ”

มู่หรงฉีก้าวเท้าเข้ามาใกล้ “ผู้ชายที่มาส่งเจ้าวันนี้เป็นผู้ใด”

เหลิ่งชิงฮวนนิ่งเงียบ ตอนนั้นโฉวซือเส่าอยู่บนรถม้านี่นา ทำไมเขาถึงรู้ได้ล่ะ

มู่หรงฉีซักไซ้ไล่ถามต่อ “แล้วผู้ชายที่ออกนอกเมืองไปกับเจ้า เป็นผู้ใดอีกล่ะ เหลิ่งชิงฮวน เจ้ากล้าพูดออกมาหรือไม่”

“ทำไมข้าจะไม่กล้า ข้าไม่ได้ทำเรื่องผิดทำนองคลองธรรมซะหน่อย” เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้าขึ้น นางเริ่มหงุดหงิดแล้ว

“ใช่สิ เจ้าไม่ได้ทำเรื่องผิดทำนองคลองธรรม ไม่เช่นนั้นจะกล้าพากลับมาที่จวนอย่างผ่าเผยเพื่อหยามน้ำหน้าข้าเช่นนี้หรือ ไม่ใช่ว่าเจ้าปลอมตัวหนีตามเขาไปแล้วหรอกหรือ ไฉนจึงกลับมาอีก”

ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เหลิ่งชิงฮวนโกรธจนลืมเรื่องสำคัญไปหมดแล้ว

“มู่หรงฉี ข้ากลับมาแล้วมันขวางหูขวางตาท่านใช่ไหม ข้าไม่ควรกลับมาใช่หรือเปล่า ท่านพูดออกมาตรงๆ เลยก็ได้ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย หากข้ากลับมาอีกก็เป็นไอ้ลูกหมา ท่านจะพูดจาอ้อมค้อมแบบนี้ก็เพื่อโจมตีข้าใช่ไหมล่ะ

ข้าออกนอกเมืองไปสำนักแม่ชีหนานชานเพื่อสืบเรื่องของเฟยอิงเว่ย เมื่อเสร็จแล้วก็รีบกลับมาที่เมืองหลวงนี่ ทำไมท่านถึงได้คิดว่าพวกเราทำเรื่องโสมมและเลวร้ายขนาดนั้น ในใจท่านคิดแต่เรื่องงี่เง่า ไม่ได้แปลว่าผู้ชายทุกคนจะเป็นเหมือนท่านสักหน่อย!”

เพราะความโมโห เหลิ่งชิงฮวนเผลอโพลงออกไปโดยไม่ทันคิด

มู่หรงฉีมองกลับมาอย่างเย็นชา ในดวงตามีเปลวไฟกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่ง จนแทบจะกลืนกินเหลิ่งชิงฮวนอยู่แล้ว

“นี่เป็นความคิดจากใจจริงของเจ้าใช่หรือไม่ ในสายตาของเจ้า ข้าสู้คนอื่นไม่ได้! ที่ทะเลาะกับข้าในวันนี้ก็เป็นแค่ข้ออ้างที่เจ้าจะไปจากข้า”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ต้องการอธิบายแล้ว และขี้เกียจจะอธิบายอีกด้วย โอ่งน้ำส้มสายชูนี้หมักมาตั้งแต่ชาติไหนกันเนี่ย ถึงเพิ่งจะถูกซือมากวงทุบทำลายทิ้งในวันนี้ นางพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และข่มอารมณ์ไว้

“วันนี้ ข้าไม่อยากเถียงกับท่านเรื่องนี้ มู่หรงฉี ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกท่าน เฟยอิงเว่ยหนีรอดไปได้จริงๆ เจ้าสำนักอินทรีทองที่พวกท่านไล่สังหารครั้งก่อนคนนั้นน่าเป็นตัวปลอม เจ้าสำนักอินทรีทองตัวจริงยังคงเป็นอิสระและอยู่นอกกฎหมาย แล้วเมื่อกี้นี้ ระหว่างทางที่ข้ากลับมา ข้าได้เจอกับ...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา