ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 429

สรุปบท ตอนที่ 429 ถูกจับได้อีกแล้ว: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

สรุปตอน ตอนที่ 429 ถูกจับได้อีกแล้ว – จากเรื่อง ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล

ตอน ตอนที่ 429 ถูกจับได้อีกแล้ว ของนิยายนิยาย โรแมนติคเรื่องดัง ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดยนักเขียน เฉลิมพล เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนอบอุ่นขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าพี่สะใภ้เฉินกำลังออกหน้าปกป้องตัวเองอยู่ นางจึงรีบหลบไปอยู่ด้านข้างทันที ไอ้บ้านั้นก็ไล่ตามมาทันพอดี

“พี่สะใภ้เฉิน ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

“ได้ยินเสียงดังในห้องครัวตอนกลางคืน กลัวว่าถังข้าวสารจะปิดไม่สนิทและมีหนูเข้ามาขโมยกินได้”

“แล้วเจ้าทำไมถึงต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ด้วยเล่า?”

“พอผลักประตูเข้าไปก็เห็นบุรุษทั้งหลายกำลังเปลือยอาบน้ำอยู่ เป็นใครก็ต้องวิ่งหนีอยู่แล้วสิ?”

ไอ้บ้าคนนี้คาดว่าคงจะถูกลมหนาวทำให้หนาวเหน็บ จนสมองประมวลผลค่อนข้างช้า ผ่านไปตั้งนานกว่าจะร้อง “โอ้” ขึ้นมา เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่พูดมามีเหตุผล จากนั้นจึงกวักมือเรียก “ไปเถอะ ทีหลังทำตัวให้ดี ๆ หน่อย อย่าได้เที่ยววิ่งเล่นซี้ซั้วไปไหนต่อไหนตอนกลางคืน”

พี่สะใภ้เฉินขานตอบรับแล้วจึงหันหลังกลับไป แต่เพิ่งจะเดินกลับไปเพียงสองก้าวก็ถูกเรียกให้หยุดอีกครั้ง “ช้าก่อน!”

หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที

พี่สะใภ้เฉินค่อย ๆ หันตัวกลับมา “ยังมีอะไรจะกำชับอีกงั้นหรือ?”

ไอ้บ้านั้นชี้ไปยังกาน้ำชาที่อยู่ข้างประตู “นั้นเป็นของท่านหรือเปล่า?”

พี่สะใภ้เฉินตบศีรษะตัวเองหนึ่งที “ถ้าเจ้าไม่เตือนสติข้า ข้าก็คงลืมไปแล้ว ก่อนหน้านี้พระชายาบอกว่าต้องการใช้น้ำร้อนทำไมข้าถึงเผลอวางทิ้งไว้ที่นี่ได้เล่า”

ไอ้บ้าคนนั้นเดินเข้าไปในครัวสองก้าว ปัง เสียงประตูดังขึ้น ทำเอาเสียวสันหลังวาบ “เวลานี้แล้ว ยังมีใครยังจะดื่มน้ำอีก พรุ่งนี้ค่อยมาเอาและกัน”

พี่สะใภ้เฉินขานรับและยกกาน้ำชาขึ้นมา จากนั้นก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกได้เสียทีและค่อย ๆ เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ

“พี่สะใภ้เฉินขอบคุณท่านมาก”

พี่สะใภ้เฉินหันหลังกลับมาและส่งคืนกาน้ำชาให้เหลิ่งชิงฮวน “พี่สะใภ้เฉินอย่างข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ต้องขอโทษท่านด้วยจริง ๆ”

“อย่าได้พูดแบบนี้เลย เป็นข้าเองที่นำปัญหามาให้ท่าน”

เหลิ่งชิงฮวนสวมกำไลหยกขาวที่หุ้มด้วยทองคำสีแดงใส่เข้าไปในข้อมือของพี่สะใภ้เฉิน “ดูท่าแล้ว พรุ่งนี้พวกเขาคงจะกลับกันแล้ว คนเหล่านี้โหดเหี้ยมมาก ถ้าหากท่านมีโอกาสสามารถหนีได้ก็หนี ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”

พี่สะใภ้เฉินพยักหน้า พร้อมกับเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นเล็กน้อย “พระชายาท่านเองก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ อีกอย่างหากต้องอยู่กับกลุ่มผู้ชายพวกนั้นมากๆ จะต้องระวังตัวให้มาก”

เหลิ่งชิงฮวนยังไม่เข้าใจสิ่งที่นางต้องการจะสื่อจนกระทั่งพี่สะใภ้เฉินเดินจากออกไป เพิ่งจะเข้าใจว่าพี่สะใภ้เฉินกำลังมองนางเป็นผู้หญิงโรคจิตที่ไปแอบดูไปไอ้บ้านั้นอาบน้ำเสียแล้ว?

แม่เจ้า การเข้าใจผิดครั้งนี้ช่างใหญ่หลวงยิ่งนัก ไม่คิดหน่อยหรือว่า ตัวเองยังจะมีอารมณ์แบบนั้นอยู่อีกหรือ? อย่าได้ลอยไปเข้าหูพ่อหนุ่มขี้หึงอย่างมู่หรงฉีเชียวนะ

ตอนที่กลับมาถึงที่ห้องของตัวเอง ฉีจิ่งอวิ๋นก็ยื่นตัวออกมาครึ่งตัวจากทางหน้าต่างห้องของเขา “กลางดึกกลางดื่นไปทำอะไรมาหรือ?”

เหลิ่งชิงฮวนเขย่ากาน้ำชาในมือ “ไปเติมน้ำล้างเท้า”

“เจ้าสามารถสั่งให้คนของข้าไปทำสิ่งเหล่านี้ได้”

“หรือว่าเจ้าไม่รู้สึกว่าเมื่อครู่นี้ คนผู้นั้นถูกเจ้าอาเจียนใส่ แต่ก็ยังไม่รู้สึกน่าขยะแขยงสักนิดนะหรือ? ให้เขามาช่วยยกน้ำให้ ท่านกล้าใช้กล้าดื่มหรือ?”

ฉีจิ่งอวิ๋ขยับริมฝีปากตัวเอง คาดว่าคงรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย “นอนเถอะ”

แยกย้ายไปนอนนะถูกต้องแล้ว เจ้าเป็นคนป่วย ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เอาแต่เงี่ยหูกันข้าอยู่ตลอดเวลา จะให้ข้าลงมือกับเจ้าได้อย่างไรเล่า? ข้ายังอยากจะฉวยโอกาสตีเหล็กตอนที่ยังร้อนและใส่สีตีไข่ปรุงแต่งเพิ่มเติมให้ท่านอยู่นะ

เมื่อกลับมาที่ห้องของตัวเอง เหลิ่งชิงฮวนมองดูแหวนนาโนในมือ และคิดว่าจะซ่อนมันที่ไหนดี? ที่ที่สามารถพกติดตัวได้ตลอดเวลา และไม่ทำให้พวกเขาจับได้ทางที่ก็สุดคือพร้อมที่จะใช้งานได้ทุกเมื่อเมื่อจำเป็น

โชคดีที่ตัวเองเป็นคนผมยาว

ปิ่นปักผมของเหลิ่งชิงฮวนถูกยึดไปหมดแล้ว เส้นผมจึงต้องใช้เชือกที่มีปลายหางเป็นพู่ที่เขาเอาไว้ใช้มัดผ้าม่านมามัดผมแทนและทำเป็นทรงหางม้าหรือไม่ก็ถักเปีย

หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนสั่นไหวอีกครั้ง แบบนี้ยังถูกพบได้อีกหรือ? ที่มืดมิดไม่มีไฟอย่างนั้น กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำหรือไง? ถึงขนาดเบื่อจนต้องไปตรวจกองฟืนแล้วหรือ?

ฉีจิ่งอวิ๋นถอนหายใจ “ท่านไม่อยากอยู่กับข้าขนาดนี้เลยหรือ? ถึงขนาดอดใจรอไม่ไหวที่จะดึงดูดให้มู่หรงฉีมาที่นี่?”

เหลิ่งชิงฮวนยังคงพยายามแกล้งทำเป็นโง่อยู่ “ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าต้องการจะสื่อถึง?”

“ตอนเช้าท่านให้แม่จ้าวไปต้มน้ำร้อนที่ห้องครัว ควันที่ลอยออกมาจากปล่องไฟกลับเป็นสีชมพู โชคดีที่ข้าเห็นทันเวลา จึงสั่งให้คนไปหยุดเอาไว้ได้ทัน ถ้าหากเจ้ายังไม่เข้าใจว่านี่หมายความว่าอะไรอีก ข้าคงจะต้องสั่งให้คนไปสอบปากคำกับแม่จ้าวแล้วล่ะ”

ฉีจิ่งอวิ๋นมีความระมัดระวังตัวเองมากมายขนาดนี้เลยเหรอ

เหลิ่งชิงฮวนยอมรับออกมาอย่างตรงไปตรงมา “เป็นข้าเองที่ทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับแม่จ้าว”

ฉีจิ่งอวิ๋นหรี่สายตาลงมอง “สิ่งนั้นได้มาจากไหน? นอกจากนี้แหวนวงนั้นมีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่?”

เหลิ่งชิงฮวนพูดไร้สาระออกไปมั่ว “ก็แค่แร่สีแดงในห้องตำรามาผสมกับสารอย่างอื่นเล็กน้อย ส่วนแหวนวงนี้ ข้าเคยบอกไปแล้วว่า มันสำคัญต่อข้ามาก นั่นเป็นสิ่งที่ท่านแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ให้ข้าไว้ดูต่างหน้า”

ฉีจิ่งอวิ๋นไม่ได้พูดว่าเขาเชื่อและไม่ได้เอ่ยพูดว่าเขาไม่เชื่อ แต่ทำเพียงยกมือขึ้นไปลูบคลำที่แขนเสื้อของนางเพื่อค้นหา

สีหน้าของเหลิ่งชิงฮวนเปลี่ยนไปทันที “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

“ที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว พวกเราต้องย้ายไปที่อื่น แต่ก่อนที่จะย้ายออกไป ที่ตัวท่านจะต้องไม่พกสิ่งของอะไรที่น่าสงสัยติดตัวไปทั้งนั้น รวมถึงแหวนวงนั้นด้วย”

แม่งสิ ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันเช่นนี้ เจ้าถือโอกาสนี้เอาเปรียบข้าหรือ ข้าจะสู้ไม่ยอมเจ้าอีกต่อไป

เหลิ่งชิงฮวนเพิ่งจะมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัว แต่อยู่ ๆ ประตูด้านนอกก็ถูกเคาะเสียงดังขึ้น

ในช่วงเช้าที่เงียบสงบเช่นนี้ ยิ่งทำให้เสียงดังสนั่นจนแสบแก้วหู

สามารถมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ได้ ต้องไม่ใช่อื่นคนไกลที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแบบนี้ หรือว่ามู่หรงฉีจะมาจริงๆงั้นหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา