ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 439

บนโลกใบนี้มีคำคำหนึ่งที่เรียกว่าพรหมลิขิต

มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่กลับเป็นสิ่งที่ประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้

ขอเพียงแค่มีพรหมลิขิตก็สามารถฟันฝ่าทุกอุปสรรคได้ทุกอย่าง ช่างน่าอัศจรรย์ใจ

ข้ากับชิงฮวนก็น่าจะเป็นเช่นนั้น

เมื่อฟันเฟืองของโชคชะตาหมุนเวียน แม้ว่ามันจะหมุนเป็นวงกลมพวกเราก็ยังสามารถเดินไปด้วยกันได้

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกับเหลิ่งชิงฮวน นางก็สามารถพูดโน้มน้าวและใช้คำพูดอันเฉียบคมโต้กลับของฑูตเมืองหนานจ้าวได้จนเขาตอบกลับไม่ถูก ข้าจะบอกว่าเด็กสาวคนนี้ห้ามเข้าไปแหย่นางเข้าอย่างเด็ดขาด ใครจะรู้กันเล่าว่าเสด็จย่าจะมอบนางให้กับข้าเป็นพระชายาฉี

สำหรับข้าแล้วผู้หญิงเป็นสิ่งที่จะมีหรือไม่ก็ได้ พวกนางเป็นภาระอีกทั้งยังทนรับดาบที่ยาวสามฟุตของข้าไม่ได้ พอนึกแล้วข้าก็ปวดหัว

เสิ่นหลินเฟิงกับพวกเหลี้ยกล่อมให้ข้าพาพวกเขาไปพบพระชายาฉีในอนาคต ในเวลานั้นข้าเพิ่งรู้จักกลุ่มของเฟยอิงเว่ย ตัวข้าคิดแต่เรื่องตีฟันรันแทง จึงไม่ได้สนใจเหลิ่งชิงฮวน

ยาวเดือนสามเมื่อดอกจื่อเถิงเบ่งบาน ฝนตกลงมาโปรยปรายไม่ขาดสาย ข้าที่ปลอมตัวเป็นเฟยอิงเว่ยเข้าไปอยู่ภายในและติดตามผู้นำลัทธิอินทรีทอง เมื่อเดินทางมาถึงสำนักแม่ชีหนานซาน ข้าก็ไม่เห็นเงาของเขาแล้ว ขณะที่กำลังตามหาเขาอยู่ไปทั่วนั้นเองชิงฮวนที่ได้มาพำนักค้างคืนที่สำนักแม่ชีก็เข้ามาในห้องโถงใหญ่

ข้ารีบร้อนในทันที และทำได้เพียงแค่ซ่อนตัวที่ด้านหลังของรูปปั้นหินเจ้าแม่หนี่วาห์เท่านั้น

ใครจะรู้กันเล่าว่าไม้จันทน์ของนางจะหล่นตกลงในกระเป๋า หลังจากที่จุดมันขึ้นแล้วกลิ่นธูปก็กระจายออกไป ข้ากับนางก็โดนยานี้พร้อมกัน

ในสำนักนางชีนั้นอันตรายมาก ข้าแยกไม่ออกว่านี้คือกับดักที่เฟยอิงเว่ยว่าเอาไว้หรือไม่ ข้าได้แต่แอบหวาดกลัวอยู่ภายในใจ

ชิงฮวนที่ได้ยินคำพูดลามกดังมาจากนอกห้องโถง นางก็รีบหลบไปข้างหลัง ตัวตนของข้าก็ถูกพบ ภายใต้สภถานการณ์ที่รีบเร่งนี้ข้ารีบดับเทียนและพาชิงฮวนออกไปด้านนนอกโถงและมุ่งไปยังด้านหลังภูเขา

ภายใต้ดอกจื่อเถิงและท่านกลางเสียงนกร้อง หนุ่มสาวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขทั้งคืน

ข้าถามนางว่านางเป็นบุตรสาวบ้านไหน น้ำเสียงไพเราะของนางขาดเป็นช่วงๆ “เหลิ่ง..ชิง...” จากนั้นก็ขาดหายไป

เพียงแต่น่าเสียดายที่คืนนั้นมืดมิด ข้าจึงมองเห็นหน้าของชิงฮวนไม่ชัด จำไดพียงแค่ที่หน้าอกของนางนั้นมีปานรูปดอกบัวแดงอยู่ที่หน้าปกตอนที่ฟ้าแลบ

ข้าเองก็ไม่รู้ว่าสัญลักษณ์ดอกบัวแดงนั้นที่แท้แล้วคือสัญลักษณ์ดอกบัวแดงของหญิงสาวชางวัง ข้าเห็นมันเป็นแค่ปานสีแดงเท่านั้นและเอาแต่ฝังใจเรื่องนี้แอบซ่อมเอาไว้ในใจ

ต่อมาเหลิ่งชิงฮวนทนไม่ไหวจนสลบไป ข้าก็นำนางส่งกลับไปที่สำนักแม่ชี เดิมที่ข้าคิดที่จะรอให้นางฟื้นขึ้นมาเพื่อถามถึงตัวตนของนางและเตรียมที่จะไปสู่ขอและรับผิดชอบนาน แต่ก็มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น ในเวลานั้นเองข้าก็ได้เห็นร่องรอยของเจ้าลัทธิอินทรีทองอีกครั้ง

ข้าตามสืบเรื่องของเขาอยู่นาน ไม่ง่ายเลยที่จะได้เบาะแสของเขามา ดังนั้นในตอนนั้นเองก็ไม่ได้สนใจเหลิ่งชิงฮวนที่สลบอยู่อีกจากนั้นข้าก็นางไปไว้ในห้องพักห้องหนึ่งและลอบหนีออกไป เขาตามฉีจิ่งอวิ๋นออกจากสำนักแม่ชีและประมือกับเขา

พวกเราทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน ในตอนนั้นเองข้าก็ได้เห็นเบาะแสจากวรยุทธิของเขาและสงสัยถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา ตอนนี้ฉีจิ่งอวิ๋นยังอยู่ในเมืองซีเฉิงที่อยู่ไกลออกไปจนข้าไม่สามารถยืนยันการคาดเดานี้ได้

ในเวลานั้นเองข้าก็ได้เบาะแสเพียงหนึ่งเดียวของเฟยอิงเว่ยมาจากสำนักแม่ชีหนานซาน ที่นั้นเป็นที่เดียวที่พวกเขาติดต่อกับคนหนานจ้าว ถ้าหากว่าเรื่องที่ข้าเคยไปที่สำนักแม่ชีหนานซานถูกเปิดเผยออกมาจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่ใครจะรู้กันเล่าว่าคืนนั้นผงอภิรมย์จะมีที่มาเช่นนี้ นี่เป็นแผนการของเจ้าลัทธิอินทรีทองหรือเปล่า

อีกทั้งคนที่อยู่ในสำนักแม่ชีหนานซานล้วนเป็นคนของเฟยอิงเว่ย ข้าไม่จึงไม่สามารถไปสืบค้นฐานะของชิงฮวนอย่างเปิดเผยได้ ข้าจึงได้ส่งคนปลอมตัวไปเป็นผู้แสวงบุญเพื่อสืบข่าวจากแม่ชีในสำนัก คนในสำนักแม่ชีบอกกับข้าว่าคนที่อยู่ในห้องบูชาคืนนั้นคือเหลิ่งชิงหลางคุณหนูรองของจวนมหาเสนาบดี

ข้าไม่รู้เลยสักนิดว่าคืนนั้นชิงฮวนเองก็อยู่ในสำนักแม่ชีด้วย ดังนั้นข้าจึงทึกทักไปเองว่าคนที่อยู่กับข้าท่ามกลางดอกจื่อเถิงในคืนนั้นน่าจะเป็นเหลิ่งชิงหลาง

ข้าไปขอหลักฐานจากจวนมหาเสนาบดีด้วยตัวเอง ผลคือข้าได้เห็นเหลิ่งชิงฮวนผลักเหลิ่งชิงหลางลงน้ำเข้าพอดีจรทำให้เสื้อผ้าของเหลิ่งชิงหลางไม่เรียบร้อย บนหน้าอกของนางมีสัญลักษณ์ดอกบัวแดงแห่งความบริสุทธิ์นั้นข้าเองก็เดาไปเองว่ามันคือรอยปาน

ข้าช่วยเหลิ่งชิงหลาง นางมีทท่าทางขาดกลัวและพยายามกลั้นเสียงเอาไว้ ข้าคิดแต่เพียงว่าชิงฮวนใช้ฐานะลูกสาวคนโต จึงเป็นการเลี่ยงไม่ได้ที่นางจะมีท่าทางหยิ่งผยองและโอหัง บวกกับคนเป็นพ่ออย่างมหาเสนาบดีเหลิ่งนั้นไม่ชอบนางอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นว่าปกติแล้วนิสัยนางเป็นอย่างไรก็หมดคำพูด

ดังนั้นข้าจึงยืนกรานที่จะยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้และแต่งใหม่กับอีกคน แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นดังที่หวัง ใจของข้ารู้สึกอึดอีดและต่อต้านอย่างหนัก

ในคืนวันแต่งงานชิงฮวนได้คิดสั้นฆ่าตัวตาย หมอในจวนมาตรวจก็พบว่านางกำลังตั้งครรภ์

นางปากดี ยโสโอหัง เหลาะและและมีนิสัยใจคอโหดเหี้ยม นั่นเป็นความคิดแรกที่ข้ามีต่อเหลิ่งชิงฮวน ข้าจะให้ผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในบ้านได้อย่างไรจะทำให้เกียรติยศของจวนอ๋องฉีต้องด่างพร้อย

เป็นเพียงแต่ได้พบหน้ากันที่จวนมหาเสนาบดี ข้าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย นี่คือโทษที่นางมาหลอกลวงข้า ถ้าหากว่านางไม่ได้สมบูรณืแบบและเรื่องที่นางตั้งครรภ์ก่อนแต่งหลุดออกมา ชีวิตของนางก็นับว่าจบสิ้นกันแล้ว

เมื่อเทียบกับชีวิตหนึ่ง ข้าคิดว่าตัวเองนั้นต่อให้ได้รับคำแนะนำจากคนอื่นมาบอกให้ข้ารักอนุมากกว่าภรรยารอง จุดนี้มันคุ้มค่าที่จะเสีย

สำหรับคนที่เขารังเกียจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แล้วไม่ว่านางจะพูดหรือจะทำอะไรก็ผิด ต่อให้นางจะมีความสามารถด้านวิชาแพทย์สูงส่งและเลื่องลือไปทั่วและช่วยชีวิตเสด็จย่าเอาไว้ได้ ข้าเองก็จะคิดว่านางมีเหตุจูงใจในการทำ รอให้นางฟื้นขึ้นมาแล้วเขาแทบรอไม่ไหวที่จะเข้าวังไปพร้อมกับนางและอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา