ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 442

ในที่สุดเหลิ่งชิงฮวนก็ฟื้นคืนสติขึ้นมา เมื่อเธอลืมตาขึ้นก็เห็นเตียงนอนที่คุ้นเคยอีกทั้งยังมีใบหน้าของโตวโตวกับแม่นมเตียวที่มีสีหน้ากังวล เมื่อครู่นี้เธอรู้สึกว่าตัวเองได้กลับมาบนโลกมนุษย์อีกครั้ง

เธอค่อยๆยิ้มออกมาให้กับทั้งสองคน “ข้าหิวแล้ว”

แม่นมเตียวดีใจจนทำตัวไม่ถูก “บ่าวจะไปทำอาหารมาให้พระชายาเจ้าค่ะ”

แม่หวัง “หม่อมฉันจะไปแจ้งท่านอ๋อง”

โตวโตว “คุณหนูทำให้โตวโตวตกใจแทบแย่เลยนะเจ้าคะ ท่านกระหายหรือไม่เจ้าคะ บ่าวจะรินน้ำให้ท่าน”

เหลิ่งชิงฮวนหยัดกายขึ้นนั่งแล้วบิดขี้เกียจ “ข้าแค่หลับไปงีบหนึ่งเท่านั้น พวกเจ้าจะตกอกตกใจอะไรกัน”

“งีบหนึ่ง? เท่านั้น? คุณหนูท่านหลับไปถึงสองวันสองคืนเลยนะเจ้าคะ!”

เหลิ่งชิงฮวนแทบสำลัก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะโดนยาของตัวเองย้อนกลับมาเล่นงานเข้าได้ “ตอนนั้นข้าใจร้อนเลยไม่ได้สนใจอะไร เลยใส่ยามากไปหน่อย”

“คุณชายโฉวอะไรนั้นได้ยินว่าถูกพิษของท่านและอาเจียนออกมาเป็นเลือดจนไม่สามารถรักษาชีวิติเอาไว้ได้ แทบจะทำให้พวกเราตกใจแทบแย่เลยนะเจ้าค่ะโชคดีที่คุณชายฉีฟื้นขึ้นมาไม่อย่างนั้นท่านอ๋องคงร้อยใจจนแทบเป็นบ้า”

โฉวซือเส่ากระอักเลือด? หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนกระตุก “โฉวซือเส่ากระอักเลือด? เขาได้รับบาดเจ็บตรงไหน? ตอนนี้พ้นขี้อันตรายแล้วหรือยัง?”

โตวโตวส่ายหน้า “ไม่ทราบเจ้าค่ะ อย่างไรก็ตามคนที่ส่งไปสืบข่าวก็กลับมารายงานเช่นนี้ มันฟังดูลึกลับ เกรงว่าน่าจะไม่รอดเจ้าค่ะ”

เหลิ่งชิงฮวนจะยังนั่งติดที่ได้อย่างไร หลังจากที่เธอสลบไปไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถ้าหากว่าโฉวซือเส่าได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะช่วยเธอล่ะ อย่าไรเสียยาสลบก็ไม่ได้มีสมองมันแยกไม่ออกว่าคนไหนคือคนดีหรือคนเลว ถ้าหากว่าโฉวซือเส่าโดนยาสลบไปแล้วถูกฉีจิ่งอวิ๋นฉวยโอกาสเอาล่ะ

เธอลุกยืนขึ้นทันทีแล้วเลิกผ้าห่มแพรออก “ไม่ได้การ ข้าจะต้องไปดูสักหน่อย”

“แต่ท่านเพิ่งจะฟื้น...”

“ช่วยคนเป็นเรื่องสำคัญ อยู่รอดูเฉยไม่ได้ ว่าแต่ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกัน”

“ท่านพี่ต้องร้อนใจขนาดนี้ด้วยหรือเจ้าคะ”

ที่ด้านหลังของนางมีเสียงปริศนาพูดขึ้นมาว่า “ผู้ชายบ้านป่าทีมีเงินแค่ไม่เท่าไรจะมาเทียบกับท่านอ๋องที่ทั้งงสูงส่งและมีวรยุทธ์เป็นเลิศได้อย่างไรกันถึงได้ทำให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้ เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาก็ไม่แม้แต่จะไปพบหน้าท่านอ๋องแต่กลับไปลอบพบกับเขา”

เหลิ่งชิงฮวนหันไปก็เห็นเหลิ่งชิงหลางกำลังเท้าเองมือข้างหนึ่งของนางกำลังจับข้อมมือของมู่หรงฉีเอาไว้แล้วเดินเข้ามาด้านใน ใบหน้าของนางนั้นมีรอยยิ้มเยียบเย็น

เหลิ่งชิงฮวนชะงักค้างไป โดยเฉพาะเมื่อเธอมองไปที่ข้อมือของมู่หรงฉี ง่ายๆแบบนั้น จับกันสนิทแบบนั้น อีกทั้งมู่หรงฉีกลับไม่ได้สะบัดมันออกใบหน้าของเขาเองก็ไม่ได้มีความไม่พอใจเลยสักนิด

สองวันที่เธอหมดสติไปเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เหลิ่งชิงหลางที่เห็นใบหน้าชะงักค้างไปของเธอก็ยกยิ้มขึ้นอย่างได้ใจ “อย่างไรเสียตอนนี้ท่านพี่ก็เป็นพระชายาฉี จำเอาไว้ด้วยว่าต้องรักษาหน้าของท่านอ๋องเอาไว้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ท่านเพิ่งจะลอบนัดกับฉีจิ่งอวิ๋นออกไปที่ภูเขาอยู่หลายวัน ท่านอ๋องไปช่วยท่านกลับมาท่านก็ควรทำตัวให้อยู่ในกรอบถึงจะถูก ทำไม่ทานถึงได้ไม่ระวังตัวแบบนี้ ถึงได้ไม่รู้จักพอ พอฟื้นขึ้นมาก็ใจร้อนจนแทบรอไม่ไหว”

เหลิงชิงฮวนทำเป็นหูทวนลมกับคำพูดของเหลิ่งชิงหลางทำราวกับว่าเธอกำลังผายลมออกมา เพียงแต่เธอยังคงมองไปที่มู่หรงฉีอย่างเหม่อลอย

เนื่องจากเมื่อผู้หญิงคนอื่นเยาะเย้ยถากถามเธอแบบนี้นั้นเขากลับอยู่เฉย! ไม่มีแม้แต่ปฏิริริยาอะไรเลย

แม้แต่โตวโตวที่อยู่ข้างๆก็สงสัย

เหลิ่งชิงฮวนอ้าปากพูดขึ้นว่า “มู่หรงฉี ท่านหมายความว่าอย่างไรกัน”

มู่หรงฉีมองเธออย่างเยียบเย็น “เจ้ากล้าที่จะทำแต่จะไม่ให้คนอื่นพูดงั้นหรือ”

หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนสั่นไหว หรือว่าฉีจิ่งอวิ๋นจะไปพูดอะไรให้เขาเข้าใจผิด?

“ระหว่างข้ากับฉีจิ่งอวิ๋นไม่ได้เป็นอะไรกัน ถึงแม้ว่าเขาจะลักพาตัวข้า แต่เขาก็เคารพข้ามาโดยตลอด เขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีต่อข้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา