ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 443

สรุปบท ตอนที่ 443 ไปคิดบัญชีกับฉีจิ่งอวิ๋น: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอนที่ 443 ไปคิดบัญชีกับฉีจิ่งอวิ๋น – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอนนี้ของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย โรแมนติคทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 443 ไปคิดบัญชีกับฉีจิ่งอวิ๋น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หญิงสาวเวลาไปจับชู้มักจะชอบถอดเสื้อผ้าของชู้และข่วนหน้าผู้หญิงพวกนั้น แต่เหลิ่งชิงฮวนคิดว่าตบตีมือที่สามไปแล้วแต่อีกเดียวก็จะมีมือที่สี่ ขอเพียงแค่ทำให้ผู้ชายเชื่อฟังได้ในครั้งเดียวก็เหมือนกับการตัดรากถอนโคน แบบนี้ถึงจะดี

ถ้าตีไปแล้วพิการข้าทนได้ ถ้าบาดเจ็บไปข้าก็มียา!

เหลิ่งชิงฮวนหยิบกระบองหนามขึ้นแล้วสะบัดมันไปทางมู่หรงฉีจริงๆ

มู่หรงฉีที่ถูกควบคุมจิตใจอยู่ แต่มือของเขายังคงอยู่ เขาผลักเหลิ่งชิงหลางออกแล้วม้วนแขนเสื้อขึ้น เขารวบรวมกำลังภายในจนลมกรรโชกแรงและกลายเป็นพายุหมุนไปทางเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนมองดู ให้ตายสิ จริงจัง อีกทั้งเขายังไม่ออมมือให้ เขาเห็นเธอเป็นพวกผู้ชายหรือไง

ถ้าไม่ชนะก็ถอย คนที่เข้าใจสถานการณ์คือคนฉลาด คนอ่อนแอก็ถูกกระทำ

เธอหมุนตัวเพื่อหลบลมจากฝ่ามือของมู่หรงฉี กระบองหนามเองก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ มันไปอยู่ที่ด้านข้างเพื่อดูเรื่องน่าสนุก เหลิ่งชิงฮวนที่กำลังโมโหร้ายนั้นได้พุ่งออกไป

เหลิ่งชิงหลางตกใจจนกรีดร้องออกมา เธอกุมหัวของตัวเองเอาไว้ แต่มู่หรงฉีกลับยกมือขึ้นมาบังเอาไว้ให้!

กระบองหนาวจึงตำไปที่แขนของเขา เหมือนว่าเหลิ่งชิงฮวนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างปักเข้าไปในเนื้อ มือของเธอสั่นขึ้นมา

สมหน้าหน้า! นายก็ปกป้องไปสิ!

แต่ในเวลาต่อมามู่หรงฉีพลิกข้อมมือและออกแรงดึงกระบองหนามออก ชิงฮวนรู้สึกว่าง่ามนิ้วของเธอรู้สึกชา เธอปล่อยกระบองหนามออก เสียงกระบองหนามตกพื้นดัง “เพล้ง”

มู่หรงฉีเหมือนกับว่าได้ระบายความโกรธ เขายกเท้าขึ้นแล้วเตะกระบองหนามออกไปนอกหน้าต่าง

เหลิ่งชิงฮวนที่นอนหลับไปนานและเพิ่งฟื้นขึ้นมา พละกำลังของเธอจึงมีไม่มาก เธอขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

กระบองหนามนั้นเป็นของที่ได้รับพระราชทานมา ต่อให้มู่หรงฉีจะเข้าใจผิดต่อเธอ แต่ทำไมเขาถึงไม่เคารพมันแบบนี้?

ทำไมจู่ๆนิสัยของเขาถึงได้เปลี่ยนไปมากแบบนี้กัน

เธอกำหมัดแน่นและจ้องไปที่มู่หรงฉี “มู่หรงฉี ท่านรู้ไหมว่าตัวเองทำอะไรลงไป ท่านยังจำได้ไหมว่าหม่อมฉันเป็นใคร”

มู่หรงฉีกุมบาดแผลที่แขนเอาไว้ เขารู้สึกเจ็บจนในหัวมีเสียงดังสนั่น

หว่างคิ้วคู่สวยมีความลังเลพาดผ่านราวกับกำลังต่อสู้ดิ้นรน เขาพยายามที่จะทำลายดักแก้ที่ผูกมัดเขาเอาไว้ ริมฝีปากบางปากออกแต่กลับไม่พูดอะไรออกมา

เหลิ่งชิงหลางเห็นท่าไม่ดี เธอรีบหันหลังเพื่อบดบังทัศนวิสัยของเหลิ่งชิงฮวน เธอแสดงหินกักสัตว์ตรงหน้าของมู่หรงฉี

“ท่านอ๋อง ท่านบาดเจ็บแล้ว พวกเรารีบไปหาท่านหมอของจวน จำเป็นต้องไปถือสาเอาความกับหญิงบ้าด้วยหรือเพคะ”

มู่หรงฉีมองไปที่หินกักสัตว์แน่นิ่ง เขาเวียนหัว ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ต่อการต่อสู้ “ได้ พวกเราไปกันเถอะ”

เหลิ่งชิงฮวนชะงักค้างไป มองดูทั้งสองคนออกไปด้วยตาตัวเองและยังสงสัย “โตวโตว หลายวันที่ข้าไม่อยู่จวนอ๋องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”

โตวโตวที่โมโหจนตาแดงก่ำ เมื่อได้ยินเหลิ่งชิงฮวนถามขึ้นมานางก็ส่ายหน้า “บ่าวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เมื่อเช้านี้ท่านอ๋องยังดีอยู่ หลังจากที่ท่านหายตัวไปเขาก็ตามหาท่านอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง พอเขาพาท่านกลับมาที่จวนแล้วก็คอยเฝ้าอยู่ข้างกายท่านไม่ห้าง จนเมื่อคุณชายฟื้นขึ้นมาเข้าก็ได้ไปที่คุกหลวงอยู่สองครั้ง พอกลับมาแล้วก็ถามคำถามข้ากับแม่หวังสองสามประโยค จากนั้นก็ไปที่เรือนจื่อเถิง”

“ถามอะไร?”

“ถามว่าตอนที่เกิดเรื่องขึ้นที่สำนักแม่ชีหนานแล้วก็เรื่องสัญลักษณ์ดอกบัวแดงแห่งความบริสุทธิ์เจ้าค่ะ”

หรือว่าฉีจิ่งอวิ๋นจะพูดอะไรออกไป จนทำให้มู่หรงฉีสงสัยเรื่องเด็กในท้องจะเกี่ยวข้องอะไรกับเฟยอิงเว่ย บวกกับการยุยงของเหลิ่งชิงหลาง ดังนั้นเขาถึงได้โมโหแล้วพูดจาทำร้ายจิตใจคนแบบนั้น

เธอได้กลับมาที่เดิมอีกครั้ง ตัวเธอมีวาสนากับที่นี่

เหล่าผู้คุมนักโทษเห็นพระชายาฉีแล้วก็นึกถึงความหลัง เมื่อนางได้ออกไปจากคุกหลวงแล้วบางครั้งนางก็กลับมาเยี่ยมพวกเขา น่าเสียดายที่ตอนแรกทำไมถึงไม่เอาใจนางให้ดี ดูแล้วนางก็เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณธรรมและมิตรสหาย

เหลิ่งชิงฮวนแจ้งชื่อของฉีจิ่งอวิ๋น เหล่าผู้คุมลำบากใจ “ขอไม่ปิดบังพระชายา ฉีจิ่งอวิ๋นผู้นี้มีความผิดร้ายแรง ท่านอ๋องฉีได้มีคำสั่งลงมาว่าไม่ว่าใครก็ไม่อนุญาตให้เยี่ยมขอรับ”

“ฉีจิ่งอวิ๋นคนนี้เป็นคนที่ข้าจับ ข้าจะเอาไปสอบสวนสักหน่อยไม่ได้หรือ พวกเจ้าใช้ท่านอ๋องฉีเป็นข้ออ้าง นี่เรียกว่าเชื่อฟังแบบไร้ประโยชน์เข้าใจไหม ไม่เช่นนั้นตอนนี้กล้ากลับไปฟ้องเขาก่อนดีไหม?”

ด้วยความหวาดกลัว ผู้คุมนักโทษจึงปลดสลักแล้วถอยให้

เหลิ่งชิงฮวนเดินเข้าไปยังห้องที่ฉีจิ่งอวิ๋นถูกขังเอาไว้ โตวโวคอยเฝ้าอยู่ด้านนอก

ฉีจิ่งอวิ๋นเงยหน้าขึ้นทันทีและมองเธอ ดวงตาของเขาสว่างวาบ “ตื่นแล้ว?”

เหลิ่งชิงฮวนเหลือบมองโซ่เหล็กที่คล้องอยู่ที่มือและเท้าของเขา เมื่อเห็นสภาพที่ลำบากของเขาในตอนนี้ก็รู้สึกไม่ถูกต้องอยู่บ้าง

“อยู่กินเป็นอย่างไรบ้าง ก้อนหมั่นโถวกับผักดอง?”

ฉีจิ่งอวิ๋นพยักหน้า “ดูท่าว่าท่านจะเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์”

“กินของไปแค่นี้ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้หรือ ทำไมเจ้าถึงได้ไปพูดอะไรไร้สาระกับมู่หรงฉี ตอนนี้เจ้าทำร้ายพวกเราสองคนจนแทบจะกลายเป็นศัตรูกันแล้ว”

ฉีจิ่งอวิ๋นแปลกใจ “ท่านพี่ขี้เหนียวขนาดนั้นเชียวหรือ ข้าแค่พูดไปสองประโยคเขาก็หึงแล้วหรือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา