ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 471

สรุปบท ตอนที่ 471 แอบช่วยเหลืออยู่เงียบๆ: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

อ่านสรุป ตอนที่ 471 แอบช่วยเหลืออยู่เงียบๆ จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล

บทที่ ตอนที่ 471 แอบช่วยเหลืออยู่เงียบๆ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฉลิมพล อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ฮ่องเต้ได้เรียกประชุมหมอหลวงรุ่นใหญ่ทั้งหลายของราชวงศ์มานั่งจุดตะเกียงสุ่มหัวศึกษาหารือเรื่องนี้ตลอดทั้งคืน ในที่สุดท่านหมอใหญ่ก็สรุปผลลัพธ์ที่ทุกคนปรึกษาหารือกันออกมา

สูตรยานี้ผสมกับยาชนิดหนึ่ง ซึ่งก็คือยาเม็ดคังหวันที่เป็นสูตรลับพิเศษที่มีแต่ฮุ่ยชุนทั่งผู้เดียวที่ผลิตขึ้นมาได้ ส่วนผสมนี้เป็นสิ่งที่ฮุ่ยชุนทั่งที่เดียวที่มีจริง ๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถเลียนแบบออกมาได้

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรอย่างหมดหนทาง ต่อให้คนเขาถวายสูตรยาออกมา แต่ก็ยังต้องใช้ตัวยาของเขาอยู่ดี การขูดรีดเช่นนี้ถูกล็อกเป้าหมายเอาไว้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในรายงานด่วนนี้ เจ้าหน้าที่ของเมืองยังพูดถึงความดีความชอบของตระกูลโฉวเอาไว้อยู่ไม่น้อย โดยรายงานตามจริงถึงเรื่องที่ตระกูลโฉวได้บริจาคเงินทุนเพื่อจัดตั้งถิ่นฐานใหม่ให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งถือว่าเป็นความเมตตาอย่างที่สุด

โชคยังดีที่แม้ว่าฮ่องเต้จะขี้เหนียวลากดินเหมือนกรองเด้ต์ แต่เขายังให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ดังนั้นจึงรีบสั่งให้ฮุ่ยชุนทั่งได้รับการยกเว้นภาษีเป็นเวลาสามปีและจัดสรรเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงเพื่อใช้ในการรักษาผู้ประสบภัยในอวี้โจว แน่นอนว่าถ้าเหลือต้องคืน น้อยไปจะเพิ่มเติมให้ ใช้ไม่หมดยังต้องคืนกลับมา

ปวดใจ ปวดเนื้อ ปวดตับ ปวดฟัน ปวดหัว เรื่องระหว่างพวกเรายังมีอะไรที่ต้องสะสางกันอีกทีหลัง ข้าอยากจะรู้นักเป็นใครกันกล้าหาญมาขูดรีดองค์ฮ่องเต้อย่างข้า

เมื่อมีพระราชโองการออกมา แต่งตั้งให้ฮุ่ยชุนทั่งปฏิบัติตามรับสั่งผลิตยาออกมาแบบนี้ก็ยิ่งสะดวกในการผลิตมากขึ้น สามารถเดินหน้าได้ในการผลิตทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างเต็มกำลัง

สถานการณ์การแพร่ระบาดในเมืองอื่น ๆ ยังไม่รุนแรง สามารถควบคุมได้ง่าย แต่สิ่งที่ยากที่สุดก็คือเมืองอวี้โจว ที่ต้องบรรเทาทั้งภัยพิบัติและยังต้องควบคุมการระบาดของโรค และยังมีสิ่งที่ยากยิ่งไปกว่านั้นก็คือการเกิดจลาจล

ประชาชนไม่อาจอยู่อย่างเป็นสุขได้ ย่อมต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชีวิตให้รอด ทั้งทุบตีปล้นสะดม และก่อจลาจลสามารถพบเห็นได้ทุกที่ทุกเวลา

โชคดีที่เหลิ่งชิงฮวนได้รับหน้าที่ผลิตยาครั้งนี้ไป สามารถช่วยแบ่งเบาความกังวลให้กับเสิ่นหลินเฟิงลงได้บ้าง ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกว่ายังมีเรื่องเยอะที่ต้องจัดการจนรับมือไม่ไหว อยากจะมีสักสามเศียรหกกร เหนื่อยล้าทั้งกายและใจ จนภูมิต้านทานในร่างกายลดต่ำลง จึงง่ายต่อการถูกเชื้อโรคแทรกซึมเข้าร่างกาย เขาติดเชื้อโรคระบาดและล้มป่วยลง

ในเวลานี้สูตรยาของเหลิ่งชิงฮวนยังไม่ได้ถูกส่งมาที่อวี้โจว สถานการณ์ของการแพร่ระบาดยังคงไม่มีความหวังสักนิด

เสิ่นหลินเฟิงรู้สึกว่า ไม่แน่ว่าตัวเองคงได้ตายอยู่ที่นี่แล้วจริง ๆ

น่าเศร้าใจจริง ๆ เป็นข้ารับใช้ของกษัตริย์ก็เหมือนกับอยู่ใกล้เจ้าป่าที่มีอันตรายรอบด้าน

เหลิ่งชิงฮวนรีบไปที่อวี้โจว และเข้าพักอยู่ในเรือนที่สะอาดแห่งหนึ่ง อันดับแรกที่ต้องทำก็คือไปที่โรงงานผลิตยาของฮุ่ยชุนทั่งในไฮว่โจวเสียก่อนไปจัดการวางแผนการผลิตยาชิงเวินตาน

อวี้โจวเป็นแหล่งปลูกวัตถุดิบยาสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในฉางอัน วัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ก็สามารถหาและเห็นอยู่ได้ทั่วไป จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะนำไปผลิต เมื่อบวกกับได้เหลิ่งชิงฮวนมานั่งกำกับเองแบบนี้ ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหมดจึงได้รับการแก้ไขจนหมดไป

เพียงแต่ที่ราบลุ่มแม่น้ำฮวงโหหลังจากประสบภัยน้ำท่วมก็มีซากปรักหักพังหลงอยู่มากมาย และยังมีดินทรายตกตะกอนอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไร่นาและบ้านเรือนที่ปลูกไว้ดี ๆ ถูกทำลายลง ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่อยู่อาศัยและอดอยากไม่มีอาหารกิน ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าน้ำท่วมจะลดลงไปแล้ว แต่พื้นที่เพาะปลูกปีหน้าก็อาจจะไม่มีผลผลิตที่ดีให้ได้เก็บเกี่ยว ความทุกข์ยากทั้งหลายก็ตกเป็นของชาวบ้านอยู่ดี ทั้งหมดล้วนเกิดจากการที่พวกข้าราชการโลภมากโกงเงินในการซ่อมแซมทำนบกั้นน้ำ และยังไม่คิดอีกว่าเป็นต้นตอของเหตุที่เกิด

ยิ่งไปกว่านั้น เร็ว ๆ นี้เกิดการจลาจลจำนวนมาก เธอเดินอยู่ท้องถนนอาจจะเกิดภัยคุกคามจากผู้ประสบภัยโดยไม่ทันตั้งตัวได้ มีการรวมตัวกันที่ใดที่หนึ่งเพื่อออกปล้นร้านขายอาหาร ปล้นพ่อค้าผู้มั่งคั่ง ทุก ๆ วันได้เห็นผู้คนบาดเจ็บและล้มตายจำนวนมากกับตาตัวเอง ทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังของตัวเองนั้นมีน้อยนิดมาก หากต้องการกอบกู้สถานการณ์นี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการไม่เจียมตัวแค่ไหน ต่อให้พยายามมากแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

หวังเพียงว่ายาของตัวเองจะพลิกสถานการณ์จากร้ายให้เป็นดีได้ และสามารถบรรเทาความวิตกกังวลของผู้ประสบภัยได้

เทียนซื่อที่ไปสมทบกับเฟยอิงเว่ยก่อนหน้านั้น รีบเข้ามาจากข้างนอกและล็อกประตูอย่างแน่นหนา “เมืองไฮว่โจวแห่งนี้วุ่นวายไปหมดแล้ว ทุกคนเหมือนเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว

“เรื่องที่เกิดขึ้นดูไม่ชอบมาพากลต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่เป็นแน่ เรื่องที่ให้เจ้าไปสืบได้ความว่าอย่างไรบ้าง?” เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยถาม

“ถามมาอย่างชัดเจนแล้ว การจลาจลครั้งนี้มีคนคอยกระจายข่าวลืออยู่จริง ค่อยปลุกปั่นความรู้สึกของผู้ประสบภัย รวมถึงยาชิงเวินตานของพวกเราด้วย ยังไม่มีพระราชโองการลงมาแต่ข่าวลือก็ได้แพร่กระจายออกไปเรียบร้อยแล้ว”

“คนที่ปลุกปั่นสร้างเรื่องคือใครหรือ?”

เทียนซื่อส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าแหล่งข่าวมาจากไหน แต่ยังไงก็ไม่ใช่คนในพื้นที่แน่นอนขอรับ”

ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งคึกคักมากยิ่งขึ้นไปใหญ่ ตอนนี้อวี้โจวมีโรคระบาดหนัก ใคร ๆ ก็อยากที่จะหลบเลี่ยงกันทั้งสิ้น ทำไมถึงยังมีคนวิ่งเข้าหาเสียได้กลัวว่าโลกใบนี้จะไม่วุ่นวายอย่างนั้นหรือ?

“ให้โรงงานผลิตยาได้มีการเพิ่มกำลังยามเพื่อป้องกันการจลาจล เจ้าได้ไปแจ้งผู้ดูแลแล้วหรือยัง?”

เทียนซื่อพยักหน้า “ฮูหยินคำนวณได้อย่างแม่นยำจริง ๆ ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ใกล้กับโรงงานผลิตยามีบุคคลน่าสงสัยปรากฏตัวให้เห็นอยู่ตลอดเวลา ท่าทีลึกลับลับ ๆ ล่อ ๆ ดูแล้วมีฝีมืออย่างมาก คงวางแผนที่จะแอบเข้ามาข้างในโรงงานผลิตยา ไม่รู้ว่ามีใครอยากจะขโมยสูตรยาของพวกเราไปหรือเปล่า?”

เหลิ่งชิงฮวนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้นะ ในเมื่อราชสำนักได้ส่งมอบการผลิตยานี้ให้กับฮุ่ยชุนทั่งแล้ว และที่อวี้โจวก็แจกจ่ายให้ฟรีไม่สามารถทำกำไรให้ได้ จะเอาสูตรยานี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด ข้าแค่กังวลว่าหากข่าวของชิงเวินตานถูกแพร่กระจายออกไป จะมีผู้ประสบภัยบุกมาปล้นสะดมมากกว่า"

มีคนจากข้างนอกเข้ามา ติดตามเข้ามากับพวกหมอหลวง

ในมือของหมอหลวงถือกล่องยาหนึ่งกล่องเข้ามา ท่าทางดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก “รัชทายาทเสิ่น รอดแล้ว ฮ่องเต้มีรับสั่งให้มีม้าเร็วมาส่งยามาให้ท่าน บอกว่าเจียงหนานฮุ่ยชุนทั่งได้ศึกษาค้นพบยารักษาโรคระบาดได้แล้ว และมีราชโองการลงมาแล้ว จะเริ่มมีการผลิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อีกไม่ช้าก็สามารถแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยได้ในทันที”

เสิ่นหลินเฟิงพยายามบังคับตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่ง และยกเปลืองตาขึ้นเพื่อมองดูเม็ดยา “นี่คือเม็ดยาที่ว่านั่นหรือ?”

หมอหลวงพยักหน้า “ข้าน้อยได้ตรวจดูแล้ว มันเป็นยารักษาโรคระบาดจริงๆ”

“คนจากเมืองหลวงเล่า? เรียกเข้ามาหน่อย ข้ามีเรื่องจะถาม”

“องครักษ์ที่เฝ้าประตูบอกว่า ผู้ที่มามอบยามอบให้แล้วก็ออกไปทันที”

ยังไงกัน? ใครกันที่ทำงานไม่ได้เรื่องเช่นนี้? ทำไมถึงไม่เข้ามาสอบถามสถานการณ์การบรรเทาภัยพิบัติ ไม่กลัวว่าหลังจากกลับเมืองหลวงไป หากฮ่องเต้ตรัสถามขึ้นมา ถามอะไรก็ตอบไม่ได้สักอย่าง จะรายงานได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้นตัวเองกำลังติดโรคระบาดอยู่ กลัวว่าคนในครอบครัวจะเป็นห่วงเอา จึงไม่ได้ส่งจดหมายกลับไปยังเมืองหลวงทำไมฮ่องเต้ถึงรู้ได้?

ดังนั้นย่อมไม่ได้มาตามราชโองการอย่างแน่นอน

“เจ้าบอกว่า ยานี้ผลิตโดยฮุ่ยชุนทั่งงั้นหรือ?”

“ใช่แล้วขอรับ มีคนบอกว่าที่ฮุ่ยชุนทั่งกำลังเร่งผลิตในปริมาณมากอยู่ และจะพร้อมแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในไม่ช้านี้”

“ดูเหมือนว่า ข้าคนนี้จะติดหนี้บุญคุณฮุ่ยชุนทั่งเสียแล้ว รอให้อาการป่วยหายเป็นปกติเมื่อไร ตัวข้าจะเดินทางไปขอบคุณด้วยตัวเอง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา