ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 472

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้เอาเรื่องที่ส่งยาออกไปเก็บเอาใส่ใจ เพราะเมืองวี้โจวมีอาณาเขตกว้างขวาง พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ ทั้งสองคนคงจะไม่บังเอิญมาพบกันแบบนี้ได้หรอก?

เธอพาตี้ลี่และเหรินเหอทั้งสองคนไปดูรอบ ๆ เมืองไฮว่โจวเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของโรคระบาด หามาสองวันติด ๆ แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า

เสิ่นหลินเฟิงล้มป่วยลง ทำให้งานบรรเทาภัยพิบัติต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว มีแค่ทุกวันจะทำโจ๊กเพื่อให้ผู้ประสบภัยได้อิ่มท้องแล้ว สร้างและซ่อมแซมบ้านเรือน และทำความสะอาดถนนเพียงแค่นั้น ความคืบหน้าในการฟื้นฟูหลังเกิดภัยพิบัติยังคงล่าช้าอย่างมาก

เหลิ่งชิงฮวนเห็นว่ายังมีผู้ประสบภัยอีกจำนวนไม่น้อยที่เพราะหิวโหย ถึงกับกินเปลือกไม้ รากหญ้า ดินขาว ฯลฯ ประทังชีวิตเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ประสบภัยจำนวนไม่น้อยที่ขุดดินลึกถึงสามฟุตเพื่อค้นหาอาหารที่หนูที่ซ่อนเอาไว้อยู่ในโพรงและจับหนูมาเพื่อประทังความหิว

หนูที่ถูกน้ำท่วมจนล้นเอ่อขึ้นมาบนทำนบตรงชายฝั่งริมแม่น้ำฮวงโห ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงต้องซ่อมแซมทำนบกั้นน้ำทุก ๆ ปีและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พังลงในทุกปี

เมื่อน้ำใกล้ท่วมเข้ามาศัตรูตามธรรมชาติของมันมีหลากหลายชนิด ตัวอย่างเช่นงู ก็ประสบภัยพิบัติเพราะเรื่องนี้เช่นกัน แต่หนูนั้นไม่เหมือนกัน พวกมันมีความตื่นตัวสูงและเก่งในการปีนขึ้นไปบนที่สูง ๆ เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ ในเวลานี้มันจึงกลายเป็นอาหารอันโอชะที่ผู้ประสบภัยแย่งกันจับในเวลานี้

ประวัติศาสตร์สมัยโบราณมีโรคระบาดมากมายที่เกิดจากหนูเป็นพาหะนำโรค ขณะที่บนตัวหนูก็มีปรสิตหลายชนิดเช่น เหา หมัด ซึ่งเป็นพาหะนำโรคข้ามสายพันธุ์ได้ เหลิ่งชิงฮวนค้นหามาแล้วสองวันแต่ยังไม่มีผลลัพธ์ใด ๆ จึงหันมาให้ความสนใจไปที่หนูเหล่านี้

หลังจากที่เธอได้รับหนูตัวหนึ่งมาจากผู้ประสบภัย ก็สวมถุงมือและวางแผนที่จะผ่ามันเพื่อตรวจสอบ

เพิ่งจะเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้เสร็จ ก็มีแมวสีเทาอ้วน ๆ ตัวหนึ่งที่วิ่งมาจากไหนไม่รู้วิ่งออกมาและร้อง เหมียว จากนั้น มันก็คาบหนูที่เธอเพิ่งได้มาออกไปทันที

เหลิ่งชิงฮวนไม่ทันได้ตั้งตัวป้องกัน แต่ว่าแมวตัวนี้ทั้งอ้วนทั้งตัวกลม ขนของมันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและมันวาวแวววับ น่าจะมีคนเลี้ยงและให้อาหารอย่างดี ดูแล้วยังกินเก่งอีกด้วยไม่น่าจะขาดแคลนหนูตัวนี้

เหรินเหอที่ติดตามเธออยู่ข้างหลังตอบสนองรวดเร็ว ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก็บีบคอแมวอ้วนตัวนั้นด้วยมือเพียงข้างเดียว แมวอ้วนตัวนั้นเหมือนจะโกรธมาก เตะขาทั้งสี่ข้างไปมา แต่ปากที่คาบหนูนั้นยังคงไม่ยอมปล่อย แถมยังส่งเสียงขู่อย่างดุร้าย

“แม่นางท่านนี้ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นายท่านของพวกเราสั่งให้ข้ามาชดใช้ให้ ท่านยินดีจะจ่ายเงินสิบตำลึงเพื่อซื้อหนูตัวนี้ ขอให้แม่นางโปรดเข้าใจ”

เหลิ่งชิงฮวนหันหน้าไปมอง ก็เห็นว่ามีชายคนหนึ่งที่ดูจากรูปลักษณ์เหมือนจะเป็นคนรับใช้ที่ยืนยิ้มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอยู่ข้างหลังเธอ เขาโค้งคำนับให้ตัวเองและพูดจาอย่างมีมารยาท

ใช้เงินสิบตำลึงเพื่อซื้อหนูตัวหนึ่ง เสนอมาได้อย่างใจป้ำเสียจริง ๆ ดูเหมือนว่าเจ้าแมวตัวนี้ไม่เพียงแต่จะมีคนเลี้ยงเท่านั้น แต่ยังเลี้ยงแบบตามใจมากอีกด้วย

เมื่ออีกฝ่ายดีมาก็ไม่อาจไม่ทำดีด้วยได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเอ่ยขอโทษมาแล้ว เหลิ่งชิงฮวนจึงไม่ติดใจเอาความนัก พยักหน้าให้เหรินเหอ “ปล่อยมันไปเถอะ”

เหรินเหอเชื่อฟังสิ่งที่สั่งจึงปล่อยมือออก แต่ใครจะไปรู้ว่า เจ้าแมวตัวนี้เป็นแมวนิสัยเสีย ก่อนจะถูกปล่อยเป็นอิสระยังข่วนใส่เหรินเหอไปอีกหนึ่งที

เหรินเหอไม่ทันระวังตัว จึงร้อง ไอหยา ออกมา

“ให้ข้าดูหน่อย”

เหลิ่งชิงฮวนยกมือของนางขึ้นมาเพื่อตรวจสอบแผลที่บาดเจ็บทันที โชคยังดี เหรินเหอมีวรยุทธ์จึงหลบเลี่ยงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ได้โดนข่วนจนเลือดออก แต่ว่าก็ทิ้งรอยข่วนเอาไว้สามขีด

เหลิ่งชิงฮวนรีบใช้แอลกอฮอล์ล้างฆ่าเชื้อให้นางทันที แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว

หลังจากที่แมวอ้วนถูกปล่อยลงมาที่พื้นก็ปล่อยหนูตัวที่คาบลง ไม่เอาหนูตัวนั้นแล้ว จากนั้นก็กระโดดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของชายชุดขาวคนหนึ่ง

ชายผู้นั้นทั้งตัวสวมชุดสีขาว รูปร่างผอมบาง ผมสีดำปล่อยสยายปรกไหล่ สีผิวซีดขาว ไม่มีเลือดฟาด ดูเหมือนจะเป็นคนป่วย แต่ว่ารูปคิ้วเรียวยาว ดวงตาเปล่งประกาย ดูรูปร่างแล้วช่างหล่อเหลา

ขาของเขาทั้งสองข้างดูเหมือนจะไม่ค่อยสะดวกนัก เขานั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นที่ทำจากไม้ ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน เสื้อผ้าพลิ้วไหวราวกับตุ๊กตากระดาษยังไงยังงั้น และดูเหมือนจะถูกพัดไปตามสายลมก็ไม่ปาน บางทีลมเมื่อครู่นี้อาจจะพัดกระโชกแรงไปหน่อย ชายผู้นี้จึงกำมือขึ้นมาบังริมฝีปากเอาไว้แล้วกระแอมไอเบา ๆ สองครั้ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย นอกจากนี้บนใบหน้ายังมีเลือดแดงฟาดที่ผิดปกติ

ร่างกายที่มีกลิ่นอายของคนรวยที่ป่วยกระเสาะกระแสะเช่นนี้ แค่มองเพียงปราดเดียวก็ทำให้เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงเหลิ่งชิงเฮ่อพี่ชายของเธอที่ป่วยหนักในตอนนั้นขึ้นมา แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ดูตามโหงวเฮ้งของคนผู้นี้ หางคิ้วของเขาเก็บซ่อนความมืดมนเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นมีหัวตาที่ยกขึ้น ไม่สามารถเก็บซ่อนความดุดันเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์เสียเท่าไร ดังนั้นจึงไม่ใช่คนที่ดูสดใสร่าเริงอะไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา