ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 474

เทียนซื่อไม่ต้องรอให้นางสั่งก็ออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกทันที สักพักก็ขมวดคิ้วเดินกลับมา “เป็นคุณชายชุดขาวที่ป่วยกระเสาะกระแสะคนหนึ่งที่ทำเรื่องอึกทึกครึกโครมวุ่นวายจนเสียงดัง ดังนั้นจึงดึงดูดความสนใจของชาวบ้านให้แห่มามุงดูเป็นจำนวนมาก”

คนป่วยผู้นั้นนะหรือ?

“เขามาทำอะไรกัน?”

สีหน้าของเทียนซื่อค่อนข้างแปลกใจ “มาส่งป้ายที่ทำด้วยทองคำแผ่นหนึ่งมาให้ฮูหยิน”

ชายผู้นี้ใช้จ่ายทองคำอยากกับก้อนอิฐจริง ๆ เลยนะ? หรือว่าจะให้ความสำคัญกับชีวิตเล็ก ๆ ของตัวเองมากเกินไปงั้นหรือ?

ลูกไม้นี้ เหมือนกับลูกไม้ของประธานจอมเผด็จการในบทละครน้ำเน่าไม่มีผิด พวกประธานเอะอะอะไรก็ชอบใช้เงินสิบล้านเพื่อซื้อคืนแรกของสาวน้อยที่บริสุทธิ์ เหลิ่งชิงฮวนคิดมาตลอดว่าผู้ชายที่มีเงินมักจะพิการทางสมองเสมอ

หรือว่าวันนี้ ตัวเองจะเจอเข้าให้เสียแล้ว?

คนที่รู้จักตอบแทนบุญคุณคนมีจำนวนอยู่ไม่น้อย แต่ว่าเหลิ่งชิงฮวนเชื่อในหลักการข้อหนึ่งก็คือคนที่ทำดีด้วยจะต้องหวังผลอะไรบางอย่างอยู่เป็นแน่

ตัวเองก็แค่ทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ชายผู้นี้ยังคงไม่ลดละมาส่งทองคำให้แบบนี้ นอกจากนี้เขาที่มีร่างกายผอมแห้งแบบนี้โตมาได้ถึงขนาดนี้ เงินทองของพ่อเขาที่หามาได้ยังเหลืออยู่ไม่ล้มละลายไป ช่างเป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นนัก

ดังนั้นคนป่วยผู้นี้ถ้าไม่ได้ต้องการตัวเองจนต้องใช้ทองคำมาฟาดหัวให้สลบ ไม่งั้นก็คงมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างเป็นแน่

แน่นอนว่าเหลิ่งชิงฮวนเอื้อมมือไปสัมผัสมวยผมทรงที่บ่งบอกว่าตัวเองแต่งงานแล้วของตัวเอง จึงปัดทิ้งปัจจัยแรกที่คิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวออก น่าจะเป็นเหตุผลหลังที่เป็นไปได้มากกว่า

ถ้าเช่นนั้นตัวเองคงต้องลองออกไปดูเชิงหน่อยเสียแล้ว

เธอลูบผ้าคลุมหน้าเบา ๆ แล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างเย็นชา

ทันทีที่เทียนซื่อเปิดประตูออก เหลิ่งชิงฮวนมองออกไปเล็กน้อย เจ้าหมอนี่เองมิน่าล่ะทำไมถึงดึงดูดชาวบ้านชาวช่องแห่มามุงดูจำนวนมาก เพราะคนอื่นไม่ได้มาเพื่อชำเลืองมองดูแผ่นป้ายทองคำที่สะดุดตาอันนั้น แต่มาดูคนป่วยผู้นั้นทำตัวกราดเกรี้ยวทะยานฟ้า

ที่หน้าประตูเรือน มีรถม้าจอดอยู่ ไม่ได้ดูโอ่อ่าเท่าไร และไม่ได้หรูหราราคาแพงมากนัก หลัก ๆ ก็คือ ผ้าที่กางคลุมเกี้ยวนี้ไม่ได้ใช้ผ้าใยไหมแต่อย่างใด แต่เป็นผ้าโปร่งสีชมพูหวานแวว เหมือนกับมีมุ้งกันยุงกันหัวยังไงยังงั้น

หากเป็นหญิงสาว ถ้ามีสายลมพัดผ่านทำให้ผ้าโปร่งที่เบาบางผืนนี้พลิ้วไหวไปมา และยังมองเห็นได้เลือนรางเช่นนี้ คงเป็นภาพราวกับภาพในความฝันก็ไม่ปาน ทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกเหมือนกับว่าได้พบเห็นเทพธิดามาจุติอยู่บนโลกมนุษย์ก็ไม่ปาน

แต่กลับเป็นสุภาพบุรุษอย่างนี้ ท่านไม่รู้สึกหรือไงว่านั่งบนเกี้ยวแบบนี้ ภาพลักษณ์มันดูเข้ากันได้หรือไม่?

แต่ก็ดูเข้ากันอยู่นะ

คนอื่นอาจจะไม่เข้า แต่คนป่วยผู้นี้ช่างเหมาะสมโดยแท้ เขาเอนหลังพิงเกี้ยวอย่างเกียจคร้าน เอามือข้างหนึ่งเท้าที่หน้าผากไว้ ส่วนมืออีกข้างค่อย ๆ ลูบแมวอ้วนที่นอนอยู่บนตัก เส้นผมสีหมึกปล่อยสยายลงมา ใบหน้าและดวงตามองต่ำ แสดงท่าทางเหมือนหญิงงามที่มีร่างกายอ่อนแอเบาะบาง

และยิ่งไปกว่านั้นคนที่แบกเกี้ยวไม่ใช่ชายฉกรรจ์ที่กำยำ แต่เป็นสาวงามที่มีใบหน้างดงามและมีท่าทางอ่อนช้อย

คนอื่นๆ หากจะขอลูกสะใภ้มาแต่งงานด้วยยังยาก แต่ท่านกลับใช้ให้พวกนางมาแบกเกี้ยว ไม่ใช่เป็นการทำลายสิ่งของให้เสียไปเปล่าประโยชน์ตามอำเภอใจหรอกหรือ?

พอเหลิ่งชิงฮวนเดินออกมา คนป่วยผู้นั้นที่นั่งอยู่บนเกี้ยวช้อนตาขึ้นมา และปรับเปลี่ยนท่าทางที่สบายตัวอีกครั้ง จากนั้นก็เอ่ยปากออกมาอย่างเกียจคร้าน

“ฮูหยินเหลียงเจียง มันไม่ง่ายเลยที่จะสืบหาที่อยู่ของท่าน”

เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้เหลิ่งชิงฮวนถึงกับใจเต้นตึกตักขึ้นมา

ถ้าคนผู้นี้อยากรู้ว่าตัวเองพักอยู่ที่ไหนไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่สำคัญก็คือเขารู้จักตัวตนของตัวเองได้อย่างไร?

คนผู้นี้เป็นใครกันแน่?

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มออกมาเล็กน้อย “พบกันโดยบังเอิญอีกแล้ว คุณชายฉู่ใส่ใจในตัวข้าขนาดนี้ รู้สึกเหมือนได้รับความสนใจจนแอบตกใจอยู่เล็กน้อย”

คนป่วยผู้นั้นหัวเราะเล็กน้อย “คำพูดที่ว่าพบกันโดยบังเอิญเช่นนี้หากใช้เพื่อจำกัดความมิตรภาพระหว่างข้ากับท่าน มันค่อนข้างดูผิวเผินห่างเหินเกินไปหน่อย คนแซ่ฉู่อย่างข้าไม่ใช่คนที่จะเนรคุณคน เพื่อที่จะแสดงความรู้สึกขอบคุณต่อฮูหยินเหลียงเจียง จึงมามอบแผ่นป้ายทองคำให้ท่านโดยเฉพาะ”

“ถ้าเช่นนั้นต้องขอบคุณมากจริงๆ หากปฏิเสธไปอาจเป็นการแสดงความไม่เคารพได้”

ชิงฮวนจึงสั่งให้เทียนซื่อ และตี้ลี่ ทั้งสองคนไปรับแผ่นโลหะที่หนักอึ้งอันนี้ไป และก็เห็นว่าตัวอักขระที่หล่อด้วยทองคำด้านบนเขียวว่า มือวิเศษของฮุ่ยชุน ฮูหยินเหลียงเจียง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา