ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 475

สรุปบท ตอนที่ 475 เกิดจลาจลในผู้ประสบภัย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 475 เกิดจลาจลในผู้ประสบภัย – ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล

บท ตอนที่ 475 เกิดจลาจลในผู้ประสบภัย ของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ในหมวดนิยายนิยาย โรแมนติค เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฉลิมพล อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

แต่ว่าคนป่วยผู้นี้รู้จักกับตัวเองได้เพียงแค่วันเดียว แม้ว่าจะมีเครือข่ายข่าวกรองที่เก่งกาจแค่ไหน ภายในระยะสั้นเพียงแค่วันเดียว เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเป็นคนของโฉวซือเส่า? หรือว่าเขาจับตามองตัวเองมานานแล้ว การพบกันที่ดูเหมือนกับบังเอิญเมื่อวานนี้เป็นเพียงแค่แผนการที่ถูกจัดฉากเอาไว้ล่วงหน้าแล้วงั้นหรือ?

พวกคนมีเงินมักมีความคิดรอบคอบ เขาเปิดเผยช่องโหว่ที่ใหญ่เช่นนี้ให้กับตัวเอง หรือคิดว่านี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร เลยไม่ถือสาและไม่จำเป็นต้องปกปิดมัน

เหลิ่งชิงฮวนเองก็ถามอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน “ไม่ทราบว่าท่านมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร เป็นคนที่ไหน ไม่ทราบว่าท่านจะบอกให้ข้ารู้เพื่อเปิดหูเปิดตาได้หรือไม่?”

คนป่วยผู้นั้นยิ้มเล็กน้อย “ถ้าเช่นนั้นก็เชิญข้าเข้าไปข้างใน พวกเราค่อย ๆ มาคุยกัน?”

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจยาวๆ “มาล่อลวงภรรยาที่มีสามีแล้วอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ท่านช่างมีความกล้าหาญที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่กลัวว่าจะสร้างความหึงหวงให้กับสามีของข้าหรอกหรือ ด้วยรูปร่างเล็กและผอมแห้งของท่าน คงไม่สามารถทำให้ข้าพอใจได้จริงๆ ต้องขอโทษด้วย เชิญท่านตามสบายเถอะ ข้าน้อยไม่อาจต้อนรับได้”

เมื่อหันหลังกลับไป ก็ปิดประตูใส่เขาไม่รับแขก

เทียนซื่อถามด้วยความสงสัย “ฮูหยินปกติท่านจะมีความเมตตาเสมอ เหตุใดถึงได้ปฏิบัติคุณชายฉู่ที่อุตสาหะมาไกลออกไปพันลี้เช่นนี้?”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเยาะเย้ย “เขามีอำนาจมีอิทธิพล รอบตัวเขายังมีสาวใช้งดงามมากมาย ต้องการอะไรจากข้ากันเล่า? เขาน่าจะจับตามองข้ามานานแล้ว ยังรู้ถึงประวัติของข้าอย่างละเอียด และจงใจจัดฉากเหล่านี้เพื่อตีสนิทข้า คนผู้นี้มีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง มีแรงจูงใจไม่บริสุทธิ์ ไม่อาจคบค้าสมาคมด้วยได้”

หลังจากได้รับคำเตือนจากนาง เทียนซื่อก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน “แล้วคนพวกนี้ตั้งใจทำแบบนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร? เพื่อรักษาโรคจริง ๆ งั้นหรือ?”

เหลิ่งชิงฮวนส่ายหัว “อาจจะไม่ใช่ ค่อย ๆ ดูท่าทีไปก่อนค่อยคิดไปทีละขั้นละกัน นอกจากนี้ที่แห่งนี้ถูกเปิดเผยเสียแล้ว ไม่ควรจะอยู่นาน รีบเก็บข้าวของเตรียมตัวออกเดินทาง”

ตี้ลี่กับเทียนซื่อปฏิบัติตามคำสั่งทันที เหลือเพียงรอให้เหรินเหอไปส่งจดหมายกลับมา ก็เริ่มออกเดินทางได้

คนป่วยผู้นั้นรู้สึกหมดสนุกแล้วจึงพาคนกลับไป

ทั้งสามรออยู่ในเรือน รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่เห็นเหรินเหอกลับมา ในใจแอบบ่นเล็กน้อย ที่นี่อยู่ไม่ห่างไกลจากโรงงานผลิตยามากนัก หากขี่ม้าไปถึงที่นั่นใช้เวลาไม่นานก็ถึง และดูจากทักษะของเหรินเหอแล้ว แม้ว่าบนท้องถนนจะไม่สะดวกเพียงใด แต่ก็ไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุได้

เว้นเสียว่าจะเกิดเรื่องที่โรงงานผลิตยาทำให้ล่าช้า?

ตอนที่เหลิ่งชิงฮวนกำลังสั่งให้เทียนซื่อออกไปดู บนถนนก็มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้น ทำให้บานประตูที่ลานบ้านเกิดเสียงดังสนั่น

“เปิดประตู ออกมา คนข้างในออกมาเดี๋ยวนี้”

เทียนซื่อออกไปที่นอกเรือน และมองผ่านร่องประตูเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาด้วยสีหน้าซีดเซียวอย่างตกใจ “ท่าไม่ดีแล้วฮูหยิน เป็นกลุ่มผู้ประสบภัย”

“ผู้ประสบภัย? พวกเขาต้องการทำอะไร?”

“บอกว่าต้องการขอให้ฮูหยินช่วยให้พวกเขารอดต่อไปได้ ขอให้ฮูหยินช่วยบรรเทาทุกข์ให้”

เหลิ่งชิงฮวนเข้าใจในทันทีและหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “มิน่าล่ะถึงได้มาส่งป้ายทองคำอย่างเอิกเกริกครึกโครมเยี่ยงนี้ ต้องการให้ชาวบ้านในเมืองทั้งหลายเล่าลือเป็นทอด ๆ ต่อ ๆ กันไป ให้ทุกคนรู้ว่าบ้านหลังเล็ก ๆ แห่งนี้มีเงินทอง

พวกเรายังออกไปปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนแบบนั้นอีก ชาวบ้านจึงรู้ว่าในเรือนแห่งนี้มีแค่หญิงที่แต่งงานแล้วกับคนไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถรังแกได้ เมื่อจนตรอกย่อมต้องเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจน นี่ไม่ใช่การมาขอความช่วยเหลือจากข้าแล้วแต่เป็นการมาปล้นต่างหาก”

“ถ้าเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี? โจรชั่วจัดการง่าย แค่ฆ่าทิ้งเสียก็หมดเรื่องแล้ว แต่เป็นแค่กลุ่มผู้ประสบภัยที่ไม่มีอาวุธอะไร พวกเราไม่สามารถลงมือได้”

“ทองคำเล็กน้อยสำหรับข้าแล้วไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไร ข้าเพียงแค่สงสัย เจ้าคนป่วยผู้นั้นทำแบบนี้ แท้จริงแล้วต้องการบีบบังคับข้า? หรือว่ามีเหตุผลอย่างอื่นกันแน่?”

เหลิ่งชิงฮวนพับแขนเสื้อขึ้น “ไป ออกไปพบพวกเขากันเถอะ”

สองทางเลือกนี้ พวกท่านลองเลือกด้วยตัวเองเถอะ”

หัวโจกผู้นำกลุ่มได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกระวนกระวายใจทันที คนโง่ก็ยังรู้เลยว่านี่คือการยุแยงตะแคงรั่วให้หวั่นไหว มียัยหนูสองคนนี้กำลังออกตัวทำให้ทุกคนกลัว ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ผู้ประสบภัยกลุ่มนี้คงคิดว่าเป็นตนลูกพลับที่บีบให้เละได้ง่าย จึงพุ่งเป้ามาลงมือตัวเอง

“ทุกคนอย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของนาง นางคนนี้ต้องมีเงินอย่างแน่นอน ไม่แน่ในเรือนอาจมีเงินมีทองและเครื่องประดับต่าง ๆ นานาซ่อนเอาไว้มากมายเท่าไรก็ไม่รู้ พวกเราบุกเข้าไปกันเถอะ บางทีครึ่งชีวิตหลังจากนี้อาจจะไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าแล้วก็ได้ มีคำกว่าวที่ว่ากฎหมายไม่เอาความกลุ่มมวลชน ทางการจะทำอะไรกับพวกเราได้งั้นหรือ?”

ผู้ประสบภัยที่อยู่ข้างหลังมองหน้ากันไปมา เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้าอยู่อย่างนั้นอยู่สักพัก ไม่มีใครสามารถตัดสินใจอะไรได้

เหลิ่งชิงฮวนมองไปที่คนผู้นั้นอย่างเหยียดหยาม “ถ้าพูดถึงเรื่องเงิน ข้ากลับรู้สึกว่าคุณชายฉู่ท่านนั้นที่มามอบป้ายทองคำให้ในวันนี้ต่างหากที่มีเงินมากมายและร่ำรวยจริงๆ ทำไมพวกท่านถึงได้มีปัญหากัดข้าไม่ปล่อย? หรือเพียงเพราะว่าข้าเป็นหญิงที่แต่งงานแล้วเลยดูน่ารังแกงั้นหรือ? กลางวันแสก ๆ บุกมาปลุกปั่นก่อความวุ่นวาย รุมปล้นกันเช่นนี้ ไม่กลัวว่าทางการจะลงโทษเจ้างั้นหรือ?”

ชายฉกรรจ์เห็นนางต่อว่าอย่างมีคารมคมคาย กลัวว่านางจะพูดมากเยอะไปกว่านี้ และจะทำให้ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง ดังนั้นจึงไม่อยากเปิดโอกาสให้นางได้พูดอะไรอีก

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว สวรรค์ไม่ให้ทางรอดแก่พวกข้า พวกข้าเองก็ถูกสุนัขรับใช้ของทางการอวี้โจวบังคับให้ต้องจนตรอกจริง ๆ ดังนั้นท่านจงมอบเงินออกมาแต่โดยดี พวกข้าจะไม่สร้างความลำบากให้กับท่านอย่างแน่นอน หากพูดดี ๆ ด้วยแล้วไม่ยอมก็ต้องใช้กำลังบังคับ”

“ในเมื่อพวกท่านตั้งใจแน่วแน่เช่นนี้ งั้นก็เชิญเถอะ ข้าจะสอนให้เจ้ารู้ความหมายที่แท้จริงของคำว่าพูดจาดี ๆ กันไม่ชอบต้องใช้กำลังบังคับว่าเป็นเช่นไร”

อาวุธถนัดมือของเหลิ่งชิงฮวนไม่ใช่ดาบ แต่เป็นแส้อ่อนซึ่งทำมาจากไหมสีทอง หลอมเป็นเหล็กกล้าทนต่อไฟ ปกติจะพันเอาไว้ตรงเอวเหมือนดังริบบิ้นสีทอง เวลาใช้แค่ดึงออกมาและตีลงเป็นเส้น จากนั้นก็คลี่ตัวออก เวลาเก็บก็ม้วนเหมือนหนอน เวลาคลี่ออกเหมือนดังมังกร ฝึกฝนจนใช้งานได้ขั้นเทพ ยืดหดได้อย่างอิสระตามใจหวัง

พอดึงแส้สีทองออกมา เพียงสะบัดมือเล็กน้อย ก็มีเสียงหวีดหวิวดังขึ้น สะเทือนหูเสียจนหูจะหนวก จากนั้นก็ตามมาด้วยแสงสีทองที่สะท้อนประกายออกมาแวววาว ในไม่ช้าชายฉกรรจ์ที่เป็นผู้นำมวลชนก็ถูกทำให้หมุนตัวติ้วๆและทะยานขึ้นสู้ฟากฟ้า จากนั้นก็ถูกแขวนอยู่บนต้นอู๋ถงที่อยู่ในลานบ้าน มือและเท้าของเขากระพือขึ้นลงไปมา ตกใจจนเกือบจะฉี่ราดออกมาเสียแล้ว

การข่มขู่เช่นนี้รุนแรงกว่าดาบที่เปิดตัวเมื่อครู่นี้อย่างแน่นอน ผู้ประสบภัยทั้งหลายถอยหลังกลับไปอย่างหวาดหวั่นและมองหน้ากันไปมา เช่นนี้ก็ไม่มีใครกล้าทำเป็นหัวโจกขึ้นมาอีกแล้ว

ภายใต้สถานการณ์ที่กำลังตึงเครียดทั้งสองฝั่ง อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงคนที่อยู่ด้านหลังอุทานออกมาอย่างตกใจ “คนของทางการมาแล้ว! เป็นใต้เท้าผู้ตรวจการ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา