ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 479

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ห้ามการทำลายหลักฐานของพวกเขา ถึงสุดท้ายหลักฐานเหล่านี้จะตกอยู่ในมือของเธอ คนพวกนั้นก็จะหาวิธีทำลายมันอยู่ดี

เธอเฝ้ามองจากระยะไกล พวกเขาทั้งสี่คนเปิดขวดเครื่องปรุงที่ปิดสนิททั้งสามขวด ก่อนจะเติมอะไรบางอย่างลงไป จากนั้นจึงปิดปากขวดอีกครั้ง กลิ่นไหม้เกรียมลอยอยู่ในอากาศ มีเสียงกรอบแกรบอยู่ข้างในซึ่งดูเหมือนกำลังหนีด้วยความตื่นตระหนก

จากนั้นพวกเขาใช้ดินเพื่อกลบขวดเครื่องปรุงทั้งสาม

เหลิ่งชิงฮวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงมาจากหลังคาโดยไม่ส่งเสียง ในขณะที่พวกเขากำลังง่วนอยู่กับการก้มหน้า จู่ๆ เธอก็ลงมือโจมตีและเอาชนะพวกเขาทีละคนด้วยเข็มเงินเพียงไม่กี่เล่ม

คนเหล่านั้นล้วนแต่ฝีมือธรรมดา เหลิ่งชิงฮวนจึงสามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

เธอพลิกข้อมือหยิบมีดผ่าตัดออกมาแล้วจ่อไปที่หน้าของหนึ่งในพวกเขา “บอกมาว่าชายป่วยคนนั้นมีที่มาอย่างไร หากเจ้าโกหก ข้าจะเฉือนเนื้อเจ้าให้สุนัขทีละชิ้น”

ชายคนนั้นจ้องมองเธออย่างดุดัน “อย่าจะฆ่าก็เอาเลยสิ อย่ามัวพูดพล่ามไร้สาระ”

หึ! สมกับเป็นชายตรีจริงๆ

“ได้ ข้าเชื่อเจ้า!”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มอย่างสดใส ก่อนจะตวัดมือขึ้น มีดผ่าตัดแล่นผ่านคอของเขาโดยไม่ส่งเสียง จากนั้นเขาจึงล้มลงกับพื้นและเสียชีวิต

เหลิ่งชิงฮวนในวันนี้ไม่ใช่หลิวอาโต่วอีกต่อไป ตอนนั้นหนึ่งชีวิตทำให้เธอรู้สึกลังเลเป็นเวลานาน แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าในโลกนี้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ห้ามใจอ่อนต่อศัตรู

การเชือดไก่ให้ลิงดูนั้นทำให้คนที่อยู่ด้านข้างตัวสั่นสะท้าน

ไหนบอกว่าจะเฉือนเนื้อที่ละชิ้น แบบนี้มันปาดคอกันเลยชัดๆ เหตุใดนังผู้หญิงคนนี้ถึงใจคอโหดเหี้ยมเช่นนี้!

ใบมีดคมหมุนวนอยู่บนปลายนิ้วของเหลิ่งชิงฮวนสองครั้ง ก่อนที่เธอจะถามด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเจ้าจะพูดได้หรือยัง”

ชายคนหนึ่งชำเลืองมองชายมีเครา ก่อนจะพูดอย่างตะกุกตะกัก “ข้า...ข้าไม่รู้”

เหลิ่งชิงฮวนจึงส่งเขากลับบ้านเก่าโดยไม่ลังเล

จนกระทั่งเหลือแค่ชายมีเคราและชายรูปร่างผอมอีกคน ทั้งสองกัดฟันแน่น สีหน้าเริ่มเปลี่ยนไปเพราะความตื่นตระหนก

ใครบ้างที่ไม่กลัวความตาย ทว่าชายมีเครายังคงปากแข็งเช่นเดิม

เหลิ่งชิงฮวนมองไปยังพวกเขาสองคนราวกับลูกไก่ในมือ เธอคว้าคอของชายร่างผอมและพาเดินออกไปซักถามเป็นการส่วนตัว

ชายมีเคราไม่กล้าขยับตัว ทำได้เพียงแค่แอบมอง เขาเห็นสหายตัวเองขดตัวเป็นลูกบอลและล้มลงกับพื้น แขนขาของเขากระตุกด้วยความเจ็บปวด โดยไม่รู้ว่าเหลิ่งชิงฮวนทำอะไรกับสหายคนนั้น

นั่นทำให้เขาตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

เมื่อเหลิ่งชิงฮวนหกลับมาเผชิญหน้ากับชายมีเคราด้วยความมั่นใจอีกครั้ง เธอเดินวนรอบตัวเขาพลางพูดด้วยน้ำเสียงคุกคาม “เขาบอกว่าเจ้าอยู่เบื้องหลังโรคระบาดที่เกิดขึ้น?”

ชายมีเคราเชิดหน้าขึ้น ท่าทางนั้นเหมือนกับพร้อมที่จะตายแม้ว่าเขาจะจ้องมองเธอด้วยสายตาดุดัน แต่เหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของเขาอย่างช่วยไม่ได้

“ชาวหนานจ้าวอย่างพวกเจ้าก็ใช้กลอุบายสกปรกแบบนี้เป็นเหมือนกันหรือ”

ภายใต้แสงตะเกียง ใบหน้าของชายมีเคราเปลี่ยนไปทันที

“เจ้า...เจ้ารู้ได้อย่างไร”

เหลิ่งชิงฮวนตะคอกเบาๆ เขย่าใบมีดในมือ “สหายของเจ้าทนการทรมานไม่ไหวจึงสารภาพทุกอย่างที่รู้ แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดถูกชี้มาที่เจ้า ข้าคิดว่าหากไว้ชีวิตเจ้าต่อไปก็ไร้ประโยชน์”

ต้องบอกเลยว่าวิธีการสอบสวนของเหลิ่งชิงฮวนนั้นร้ายกาจมาก เธอสามารถทำให้อีกฝ่ายตกใจกลัวได้จริงๆ

ชายมีเคราเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น แต่เขาพยายามสงบสติอารมณ์ “สิ่งที่มันพูดอาจไม่เป็นความจริงก็ได้”

พระเจ้า! ฉันเพิ่งตกปลาตัวใหญ่ได้เหรอเนี่ย! เหลิ่งชิงฮวนคิดไว้แล้วว่าตัวตนของคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นองค์รัชทายาทแคว้นหนานจ้าว! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีชีวิตรอด ต่อให้เห็นว่าเธอเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก็ยังคงหยิ่งผยองเช่นนี้

คงไม่ต้องไปหนานจ้าวเป็นพิเศษเพื่อการนี้หรอกนะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา