ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 481

สรุปบท ตอนที่ 481 เสี่ยวอวิ๋นเช่อมาแล้ว: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอนที่ 481 เสี่ยวอวิ๋นเช่อมาแล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอนนี้ของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย โรแมนติคทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 481 เสี่ยวอวิ๋นเช่อมาแล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เสียงนั้นฟังดูคุ้นหูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อได้ยินในตอนนี้ทำให้ดูเหมือนจะสนิทสนม!

เหลิ่งชิงฮวนไม่หันหน้าหนี “โฉวซือเส่า ท่านยังมีอารมณ์พูดจาพูดประชดประชัน อีกหรือ พวกเขากำลังจะลักพาตัวข้าไปเป็นพระชายาแห่งแคว้นหนานจ้าว ท่านไม่สนใจบ้างเลยหรือ”

“เป็นพระชายาแห่งแคว้นหนานจ้าว? หนานจ้าวอยากจะทำลายประเทศตนเองงั้นหรือ ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะไปทำร้ายพวกเขา สร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนได้นะ”

ทันทีหลังจากสิ้นเสียงเย้ยหยัน ชุดสีแดงปักด้วยมันดาลาก็ลอยผ่านมา แม้ว่าวิชานินจาของหน้ากากผีจะลึกลับขนาดไหนก็ไม่ไวไปกว่าดาบของโฉวซือเส่า ดาบทั้งสองเล่มถูกยกขึ้น เลือดแดงสาดกระเซ็น

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ท่านมาได้อย่างไร”

“อวิ๋นเช่อคิดถึงแม่ ส่วนข้าคิดถึงภรรยา เหตุผลเท่านี้เพียงพอหรือไม่”

“อวิ๋นเช่อมาด้วยงั้นหรือ” เหลิ่งชิงฮวนกังวลเล็กน้อย “สถานการณ์การแพร่ระบาดในอวี้โจวยังควบคุมไม่ได้ มันอันตรายมาก!”

“โทษข้าไม่ได้นะ ใครจะไปรู้ว่าเจ้าเด็กนั่นเจ้าแผนการใช้แมลงแอบสะกดรอยตามข้า ข้าไม่ทันรู้ตัวจนกระทั่งระหว่างทาง ข้ากังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาจึงต้องพามาที่อวี้โจวด้วยกัน อย่างไรเสียแม่หมออัจฉริยะอยู่ที่นี่ เขาคงไม่กลัวหรอก”

เฮ้อ อดห่วงไม่ได้จริงๆ พ่อไร้เดียงสาให้กำเนิดลูกเจ้าเล่ห์เช่นนี้ได้อย่างไร เด็กคนนี้เป็นลูกของมู่หรงฉีหรือไงกัน ฉันควรหาโอกาสทดสอบความเป็นพ่อลูกของพวกเขาสองคนเปล่า

“แล้วคนอื่นล่ะ”

“เมื่อครู่บังเอิญเจอตี้ลี่กำลังมาช่วยเหลือ ข้าล่วงหน้ามาก่อน ส่วนเหล่ยอวี้พาเขาไปอยู่แนวหลัง”

ที่นี่อันตรายมาก หากเสี่ยวอวิ๋นเช่อมาจะทำให้เรื่องมันวุ่นวายมากขึ้นหรือเปล่า

รีบตัดสินใจดีกว่า

“ป้องกันข้า ข้าจะไปช่วยเหรินเหอ แล้วเราจะหนีไปด้วยกัน อยู่อวี้โจวต่อไปไม่ได้แล้ว”

โฉวซือเส่าผู้เชื่อฟังเสมอยกปลายดาบขึ้นปกป้องเหลิ่งชิงฮวน พุ่งเข้าใส่ชายหน้าตาบูดบึ้งที่จับเหรินเหอเป็นตัวประกัน

ชายป่วยเอนกายอย่างเฉื่อยชาอย่างไม่กลัวอันตรายตรงหน้า

เหลิ่งชิงฮวนเหาะขึ้นสูงพลางปล่อยกองเข็มเงินไปยังชายสวมหน้ากากผีที่จับเหรินเหอเป็นตัวประกัน แน่นอนว่าในขณะเดียวกันเธอก็เตรียมของขวัญให้กับน่าเยี่ยไป๋อย่างใจกว้าง

พิษเฉพาะตัว

ขอแค่น่าเยี่ยไป๋ถูกพิษ เขาจะไม่เพียงแต่เชื่อฟังยอมปล่อยตัวเหรินเหอ และอาจถึงขึ้นยอมแพ้โดยไม่ต่อสู้ เมื่อนั้นภัยจากโรคระบาดจะคลี่คลายลงไปด้วย

เธอขว้างเข็มพิษในมือไปที่หน้าน่าเยี่ยไป๋ ตราบเท่าที่เขาสูดลมหายใจเข้าไปอีกสักระยะ พิษก็จะสามารถเข้าสู่ร่างกายได้

แต่ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าผู้คนไม่ควรมีจิตใจโลภและมั่นใจมากเกินไป

น่าเยี่ยไป๋บนเก้าอี้เสลี่ยงเริ่มเอามือกุมหน้าอก ขมวดคิ้ว หายใจลำบาก เห็นได้ชัดว่าพิษเริ่มก่อตัวขึ้น ทำให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เหลิ่งชิงฮวนขยับเข้าไปใกล้เสลี่ยงเพื่อช่วยชีวิตเหรินเหอ โดยไม่สนใจชายป่วยที่ขดตัวอยู่

เหล่าหน้ากากผีฝีมือไม่ธรรมดา แล้วเธอจะเอาชนะเขาได้ง่ายๆ ได้อย่างไร

เขาตวัดใบมีดในมือปิดกั้นเข็มเงิน ทันใดนั้นก็โจมตีเหลิ่งชิงฮวน บังคับให้เธอต้องเผชิญกับชายป่วยบนเสลี่ยงด้านหลัง

แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ

งั้นก็ไม่สนุกแล้วสิ ถ้าฉันอยากจะให้เขาตายด้วยยาพิษคงเป็นเรื่องยาก?

ชายสวมหน้ากากผีติดตามเขาทุกย่างก้าว แถมอวิ๋นเช่อยังอยู่ที่นั่น หากเขาไล่ตามชิงฮวนไปจะเป็นการเปิดโอกาสให้ชายสวมหน้ากากผีอย่างแน่นอน โฉวซือเส่ากังวลว่าจะเกิดการสูญเสียเพิ่มมากขึ้นจึงทำได้เพียงเฝ้าดูเหลิ่งชิงฮวนถูกพาตัวไกลออกไปเรื่อยๆ อย่างช่วยอะไรไม่ได้

เมื่อเหลิ่งชิงฮวนและชายป่วยหายไปจากสายตาอย่างสมบูรณ์ ชายสวมหน้ากากผีจึงล่าถอยและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

โฉวซือเส่ารู้สึกหงุดหงิดมาก นี่เป็นอาณาเขตของเขา แต่เขากลับปล่อยให้องค์รัชทายาทเคว้นหนานจ้าวพาชิงฮวนไปต่อหน้าต่อตา

เมื่อเห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เฟิงเหล่ยอวี้รู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้วจึงพาเสี่ยวอวิ๋นเช่อไปที่อื่น หลังจากพ้นเขตอันตราย นางก็โน้มตัวมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

โฉวซือเส่าอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้เฟิงเหล่ยอวี้ฟังสั้นๆ นางจึงไม่รอช้าส่งสัญญาณเรียกหอกระบี่มาปกป้องเสี่ยวอวิ๋นเช่อและช่วยเหลือเหลิ่งชิงฮวน ไม่ปล่อยให้องค์รัชทายาทแคว้นหนานจ้าวพาเหลิ่งชิงฮวนไปจากฉางอัน ไม่อย่างนั้นต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นอย่างแน่นอน

ทันทีที่สัญญาณถูกปล่อย เสียงกรอบแกรบมาดังขึ้นมาจากระยะไกล เริ่มเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ โฉวซือเส่าฝีมือไม่ธรรมดา พลังการได้ยินของเขาแข็งแกร่งมากว่าคนอื่น เขาสามารถแยกแยะตำแหน่งได้โดยการฟังเสียงและได้เปรียบในการมองเห็นในเวลากลางคืน จากนั้นเงาตะคุ่มปรากฏขึ้นตรงหน้าโฉวซือเส่า

เขาไม่ได้มาจากหอกระบี่หรือหน้ากากนกอินทรี แต่มันสายเกินไปที่จะหลีกเลี่ยงในตอนนี้

ผู้มาเยือนหยุดเดิน พลางมองโฉวซือเส่าและพูดอย่างสงสัย “หรือว่าท่านจะเป็นคุณชายโฉวซือเส่าผู้มีชื่อเสียงจากตระกูลกูลโฉว?”

รู้จักข้างั้นหรือ

โฉวซือเส่ามองผู้มาเยือน ทันใดนั้นก็คิดออก “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงจะเป็นเสิ่นหลินเฟิง รัชทายาทเสิ่นจากจวนกั๋วกงผู้จับกุมอันดับหนึ่งในฉางอัน”

แม้จะไม่ได้พบหน้ากันแต่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามกันมานาน ทั้งคู่ต่างรู้จักตัวตนของกันและกัน

เสิ่นหลินเฟิงพยักหน้าพลางมองไปรอบ ๆ เมื่อเขาก้มศีรษะลงเห็นเสี่ยวอวิ๋นเช่อซึ่งจ้องมองและทำหน้ามุ่ยด้วยความหงุดหงิด ดูแล้วเด็กน้อยคนนี้น่าจะอายุประมาณห้าขวบ แม้ว่าหน้าตาของเขาจะยังไม่ชัดเจนมากนักทว่ากลับดูคุ้นตาอย่างน่าประหลาด ทำให้อดใจสั่นไหวไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา