ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 495

อีกฝ่ายนึ่งไม่ได้พูดอะไรเขาทำเพียงมองเธออย่างเงียบๆ

เหลิ่งชิงฮวนถามอีกครั้งว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”

อีกฝ่ายหนึ่งไม่พูดอะไรเขาทำเพียงแค่ชี้ปไปที่มุมหนึ่งและพูดเสียงเบาว่า “สิ่งที่เจ้ากำลังตามหาน่าจะอยู่ตรงนั้น”

“ทำไมเจ้าถึงรู้ว่าข้ากำลังหาอะไรอยู่” เหลิ่งชิงฮวนมักจะรู้สึกว่าเวลาที่อีกฝ่ายพูดนั้นเขาจงใจเปลี่ยนเสียงของตัวเอง ดูเหมือนว่าเธอจะฟังได้ถึงอะไรบางอย่าง

แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบคำถามของเธอ เขาทำเพียงแค่มองมาที่เธออย่างค้นหาจากนั้นเขาก็หันหลังกลับแล้วเปิดหน้าต่างกระโดดออกไปและหายตัวไปในยามค่ำคืนอย่างเงียบเชียบ

เป็นคนที่แปลกจริงๆ

ทำไมเขาถึงรู้ว่าเธอกำลังตามหาอะไร

ทำไมเขาถึงยังช่วยเธอไว้อีก หรือว่าเขาไม่เข้าใจว่าแมลงกู่นั้นหมายถึงอะไร

เหลิ่งชิงฮวนยักไหล่เธอเปิดไฟฉายอีกครั้งและส่องไปยังมุมที่ผู้ชายประหลาดคนนั้นชี้ไป ที่ตรงนั้นมีชั้นไม้วางอยู่บนนั้นมีหม้อดินเผาอยู่แถวหนึ่ง

เหลิ่งชิงฮวนเดินเข้าไปและเปิดมันออกจากนั้นเธอก็สำรวจด้านใน เพียงไม่นานเธอก็หาสิ่งที่เธอกำลังตามหาอยู่เจอ รูปร่างของมันเหมือนกับกเห็บไม่มีผิด แต่ว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่าและถูกเลี้ยงอยู่ภายในไห ที่ด้านในมีพวกมันอยู่ประมาณยี่สิบถึงสามสิบตัวดูยั้วเยี้ยไปหมด ที่ปากของพวกมันมีเขี้ยวอันแหลมคมอยู่

น่าจะเป็นมันไม่ผิดแน่

เหลิ่งชิงฮวนเก็ยหม้อดินเผานี้ลงไปในแหวนนาโนของตัวเองอย่างไม่ลังเล

เธอแค่อยากที่จะจุดไฟเผาแมลงที่ทำร้ายคนพวกนี้ แต่น่าเสียดายคำพูดนั้นจะทำให้น่าเยี่ยไป๋รู้ตัว เธอเองก็จะหนีไปไม่ได้

เธอดับไฟฉายในมือลงและทำเหมือนกับคนเมื่อครู่คือกระโดดออกไปทางหน้าต่าง

จากความทรงจำเมื่อเธอเข้ามาที่นี่เหลิ่งชิงฮวนหลบองครักษ์ลาดตระเวนเข้ามาอย่างพลิ้วไหวและต้องการหาจังหวะที่จะหนีออกไปจากเมืองปี้สุ่ย กำแพงเมืองเองก็ไม่ได้ยากไปกว่าความสามารถของเหลิ่งชิงฮวน ขอเพียงแค่ออกไปจากเมืองและเดินทางตอนกลางคืนได้ ไม่แน่ว่าวันพรุ่งนี้จะออกไปนอกเขตหนานจ้าวได้และกลับไปที่เมืองฉางอันอีกครั้งและไปเจอกับโฉวซือเส่า

น่าเสียดายที่สิ่งที่มนุษย์ลิขิตก็ไม่สู้สิ่งที่ฟ้าลิขิต

องครักษ์ในวังไม่ใช่มีเอาไว้ประดับวัง วิชาตัวเบาที่เธอฝึกมาอย่างยากลำบากห้าปีถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีฝีมือดีเหมือนโฉวซือเส่าหรือคนอื่นๆ ในระหว่างที่เธอกำลังกระโดดนั้นเองเท้าของเธอก็ลื่นและเหยียบไปบนแผ่นกระเบื้องที่ปิดไม่สนิทจนทำให้องครักษ์รู้สึกตัว

“ใครน่ะ”

อีกฝ่ายตะโกนออกมา

เหลิ่งชิงฮวนรีบม้วนตัวไปทีหนึ่งแล้วซ่อนตัวอยู่ใต้ชายหลังคา

“เกิดอะไรขึ้น” มีคนถามด้วยเสียงเคร่งขรึมอย่างไม่พอใจ

“เมื่อครู่มีเงาคนผ่านไปขอรับ พวกเราสงสัยว่าเป็นนักฆ่า”

“องค์รัชทายาทกำชับเอาไว้แล้วว่าจะต้องระวังเอาไว้ให้ดีอย่าให้ขโมยเข้าไปในพระราชวังได้ ทุกคนไปค้น อย่าได้เลินเล่อ”

คนที่อยู่ด้านล่างรับคำสั่งพร้อมกัน พวกเขาส่งองครักษ์ฝีมือดีขึ้นมาตรวจสอบจริง ร่องรอบของเหลิ่งชิงฮวนแค่มองดูก็เห็นแล้ว หัวใจของเธอเต้นโครมครามและลังเลว่าควรจะปรากฏตัวออกมาทื่อๆและสู้ๆแบบไม่คิดชีวิตกันคนของแคว้นหนานจ้าว

“อยู่ตรงนั้น!” จู่ๆก็มีคนชี้ไปทางฝั่งตรงข้าม “ตามไป!”

องครักษ์ทั้งหทดรีบวิ่งไปทางที่คนคนนั้นชี้อย่างพร้อมเพรียงกัน

เหลิ่งชิงฮวนที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติแล้วเธอจึงยื่นศีรษะออกไปสำรวจอย่างระมัดระวังและหันออกไปมองทางด้านที่พวกเขาไป

คบเพลิงในวังถูกจุดสว่าง พวกเขาก็ตะโกนเสียงดังและรวมตัวกับไกลๆ

เหลิ่งชิงฮวนไม่เห็นเงาของผู้คนและไม่ได้ยินเสียงของการต่อสู้ เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น โฉวซือเส่ากับเสิ่นหลินเฟิงตอนนี้ยังถูกคนของน่าเยี่ยไป๋ตามฆ่า น่าจะมาไม่ถึงวังเร็วขนาดนี้ หรือว่าพวกเขาจะจงใจล่อเสือออกจากถ้ำเพื่อให้เธอรอดไปได้?

หลังจากที่เข้ามาในแคว้นหนานจ้าวแล้วตัวเธอก็มีเทพเจ้าแห่งความโชคดีคุ้มครองแล้วหรือ? ในช่วงเวลาสำคัญยังมีคนเข้ามาช่วย เรื่องร้ายกลายเป็นเรื่องดี

มีรอยเท้าอยู่มากมายตรงหน้า ที่นี่มีคนเคยมาอีกแล้ว เหลิ่งชิงฮวนก็เห็นน่าเยี่ยไป๋กำลังยื้อยุดกับผู้หญิงบอบบางคนหนึ่งและรายล้อมไปด้วยข้ารับใช้ภายในวัง เขาเดินตามเธอไป

คำพูดหยุดชะงักไป

คนที่อยู่ด้านนอกและด้านในซุ้มต่างประสานสายตาและพูดออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจอย่างไม่ได้นัดหมายว่า “เป็นเจ้า?”

หญิงสาวที่อยู่ด้นนอกซุ้มอยู่ในชุดกระโปรงสีเขียวและสวมรองเท้าบูทหนังวัวยาว มองดูแล้วทั้งสวยและเท่ในคราวเดียวกัน พอดีกับที่เหลิ่งชิงฮวนมองไปที่องค์หญิงแคว้นหนานจ้าว

เพียงแต่ในเวลานี้นั้นไฟในห้องนั้นสว่างจึงทำให้เธอเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

ไม่น่าเล่าเมื่อครู่นี้ที่อยู่ในห้องแมลงกู่นั้นตัวเธอรู้สึกว่าเสียงของหล่อนนั้นคุ้นๆเหมือนกับว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ที่แท้ก็เป็นคนคุ้นเคยกันนี่เอง

ภายในคืนเข้าหอเธอก็ได้พบกับคนคุ้นเคย ความสุขของคนสองคนแต่คือความทุกข์และความน่าสงสารของตัวเธอ

น่าเยี่ยไป๋แปลกใจ “พวกเจ้ารู้จักกัน?”

ไม่ใช่แค่รู้จักแต่โลกช่างแคบ เหลิ่งชิงฮวนมองเห็นน้องสาวของน่าเยี่ยไป๋ชัดเจน องค์หญิงแคว้นหนานจ้าวไม่ใช่ใครอื่นแต่เธอคือตัวแทนของลัทธินักบุญหญิงที่เข้าไปที่เมืองหลวงเพื่อกำจัดยายหลิงจากนั้นก็โยนความผิดมาให้กับเธอ

ถึงแม้ว่าจะผ่านไปห้าปีแล้วหญิงสาวตรงหน้าก็มีหน้าตาที่โตขึ้น เนื้อหนังที่เหมือนกับเด็กๆนั้นหายไปแล้วแต่เหล่งชิงฮวนยังคงจำเธอได้

ในตอนนั้นโฉวซือเส่าสงสัยในตัวเธอและคิดว่าที่มาของเธอนั้นไม่ธรรมดาน่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับคนของแคว้นหนานจ้าว แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นองค์หญิงของแคว้นหนานจ้าว

ว่าก็ว่าแล้วเมื่อห้าปีก่อนเธอลอบฆ่าฮ่องเต้และตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอทั้งหมดนั้นก็มีเหตุผลของมันอยู่ แต่ว่าเด็กผู้หญิงอายุสิบสี่สิบห้าปีกลับรู้ถึงการเย็บแผลและชักในอยู่ในที่มืด ตอนนี้เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปห้าปีแล้ว คนคนนี้น่าจะไม่ใช้คนธรรมดา?

น่าจาอี๋นั่วเพียงพริบตาเดียวนางก็จำเหลิ่งชิงฮวนได้ก็ได้แต่ชะงักไปชั่วครู่ และถามอย่างสงสัยว่า “เจ้าคือฮูหยินเหลียงเจียง?”

เหลิ่งชิงฮซนพยักหน้า “ใช่แล้ว”

“เจ้ายังไม่ตาย?”

“โชคดีน่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา