ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 497

ในเมื่อวันนี้ประโยคนี้บังคับให้เธอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงถามออกไปให้ชัดเจน

เหลิ่งชิงฮวนถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ตอนนั้นที่แคว้นฉางอันแมลงกู่บนตัวของยายหลิงเจ้าเป็นคนใส่เข้าไป?”

“ไม่ผิด” น่าจาอี๋นั่วยอมรับอย่างใจเย็น “ข้าได้ยินมาว่าลิทธิหญิงของฉางอันนั้นมีวิชาไสยศาสตร์ เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปและหลบซ่อนฐานะของตัวเองเอาไว้แ ข้าจึงข้าไปในลัทธินักบุญหญิงและคิดจะปราบพวกนางทั้งหมด

เมื่อข่าวที่ยายหลิงซ่อนตัวอยู่ในจวนอ๋องฉีนั้นแพร่ไปยังลัทธินักบุญหญิง ข้าย่อมไม่ปล่อยโอกาสอันดีที่จะเข้าไปในจวนอ๋องฉีนี้ไป ข้าจึงได้ขี่ม้าเข้าไปในเมืองหลวงด้วยตัวเอง

เมื่อมาถึงเมืองหลวงในตลาดก็กำลังวิพากษ์กันถึงเรื่องวิชาแพทย์อันไม่ธรรมดาของเจ้าพระชายาฉี ข้าอยากจะเห็นความสามารถของพระชายาฉีด้วยตาตัวเอง อยากลองดูเสียหน่อยว่าจะมีความสามารถพอที่จะรักษาโรคหัวใจของพี่ชายข้าได้หรือไม่ ดังนั้นข้าจึงไปที่ที่พักบนเขาเพื่อขอให้เจ้าช่วยอีกทั้งยังหาโอกาสเข้าหาเจ้า เพียงแต่หน้าเสียดายที่เจ้าระแวงข้ามากไปหน่อย มู่หรงฉีเองก็ให้ความสำคัญกับเจ้ามากข้าจึงได้ล้มเลิกความคิดนี้ไป

ต่อมายายหลิงถูกพวกเราบีบให้เข้าไปในวัง ในระหว่างที่ข้ากำลังส่งข่าวลับผ่านยายหลิงไปหาผู้แสวงบุญคนนั้น ข้าก็รู้ว่านางได้สงสัยในฐานะของข้าแล้ว ข้าย่อมไม่ปล่อยให้นางชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ เรื่อราวต่อมาเป็นอย่างไรเจ้ารู้อยู้แล้ว

ไม่ใช่ว่าข้ามีความแค้นกับเจ้าถึงได้จงใจทำร้ายเจ้า ที่จริงแล้วในในของข้านับถือเจ้ามาก แต่ว่ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า เจ้าปกป้องฉางอัน ข้าเองก็ทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องหนานจ้าว พวกเราแค่เดินกันคนละทางเท่านั้นเอง”

เหลิ่งชิงฮวนครุ่นคิด ในเวลานั้นน่าจาอี๋นั่วมีอายุเพียงแค่สิบสี่สิบห้าปี หากอยู่ในยุคปัจจุบันนางคงเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ แต่เธอกลับวางแผนอย่างลึกล้ำไปทีละขั้น สวรรค์ คนสมัยก่อนนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ แก่แดดเกินไปแล้ว

อีกทั้งเด็กคนนี้ยังมีจิตใจโหดร้าย แต่ละคนล้วนเอาตัวเองเป็นใหญ่และทำให้คนเมืองอวี้โจวตายไปไม่รู้ตั้งเท่าไร

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจออกมาเบาๆ “พอคิดดูแล้ว ตอนแรกที่เจ้าเรียนวิชากู่ก็น่าจะเพื่อเอามารักษาพี่ชายเจ้า? ตอนนี้มันกลายเป็นเครื่องมือในการฆ่าคนของเจ้าแล้ว เจ้าฆ่าคนไปจำนวนมาก สิ่งนี้ขัดต่อสวรรค์ จิตใจของเจ้าอยู่อย่างสงบได้อย่างไร”

น่าจาอี๋นั่วร้องหึออกมาเสียงเบา “ข้ารู้แต่ว่าถ้าหากว่าฉางอันเป็นใหญ่อยู่เพียงแคว้นเดียว มั่วเป่ย หนานจ้าวรวมถึงซีเหลียงก็จะถูกฉางอันผนวกเข้าไป ข้าเองก็ทำไปเพื่อปกป้องแคว้นและอาณาเขตของข้า ต่อให้ไม่เลือกวิธีการแล้วอย่างไรกัน? มู่หรงฉีเองก็อยู่ในสนามรบมาหลายปี ชีวิตที่เขาคร่าไปน้อยหรือไง”

เหลิ่งชิงฮวนไม่อยากพูดอะไรมากตัวเธอเองก็เกลียดสงคราม และยิ่งเกลียดพวกผู้ชายที่ขายอาณาเขตของตัวเองจนต้องคร่าชีวิตผู้อื่นไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพียงเพื่อสนองความดิบเถื่อนของตัวเอง แต่ในประวัติศาสตร์ของแต่ละยุคมีการเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางความขัดแย้งกันภายในใครจะบอกได้อย่างชัดเจนกันล่ะว่าคนไหนผิดหรืถูก

ถ้าหากว่าเธอเป็นผู้มีอำนาจก็มีเพียงประโยคเดียวคือ ถ้าใครไม่ทำข้า ข้าก็ไม่ทำเขา แต่ถ้าใครทำข้า ข้าก็จะฆ่าทิ้งเสีย

ฉันไม่ใช่คนที่จะไปฆ่าใครหรือไปวุ่นวายกับใครก่อน แต่ถ้าใครกล้าเข้ามาหาเรื่องฉัน ฉันจะต้องทำให้คนคนนั้นเสียใจจนอยากจะมุดกลับเข้าไปในท้องแม่เลย

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้พูดอะไร น่าจาอี๋นั่วมองมาที่เธอ จู่ๆเธอก็เบิกตาขึ้นแล้วถลึงตาจ้องมา “แมลงกู่! เจ้ามาที่หนานจ้าวเพื่อแมลงกู่ใช่ไหม”

จู่ๆเหลิ่งชิงฮวนรู้สึกตื่นตัวกับคำถามของเธอ เธอถลึงตาใส่เหลิ่งชิงฮวนอย่างดุร้ายจากนั้นก็วิ่งไปยังห้องแมลงกู่เพื่อตรวจสอบ

น่าเยี่ยไป๋จ้องเธอเขม็ง เขาใช้มือปิดปากของตัวเองเอาไว้แล้วกระแอมออกมาเบาๆสองสามทีก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า “ข้าเกลียดผู้หญิงที่ไม่เชื่อฟังข้าที่สุด”

“การที่ถูกท่านชอบไม่ใช่เรื่องที่ดี”

พอดีเลย ฉันเองก็เกลียดผู้ชายลามกแบบนายเหมือนกันอยากจะตบนายให้ตายเลย

ใบหน้าของน่าเยี่ยไป๋เย็นชาและอึมครึม “เจ้ารู้ไหมว่าผู้หญิงที่ข้าไม่ชอบสุดท้ายแล้วจะไปจบที่ไหน”

เหลิ่งชิงฮวนส่ายหน้า

จากสีหน้าของน่าเยี่ยไป๋เธอสัมผัสได้ถึงอันตรายอีกทั้งเธอก็สัมผัสได้ว่ารอบตัวเธอมีคนแอบมองดูอยู่ น่าเยี่ยไป๋อยู่ห่างจากเธออยู่หลายก้าว อีกทั้งเขาก็มีจิตใจที่แข็งแกร่งชักจูงได้ยาก เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะเขาได้อย่างราบรื่น เกรงว่าเพียงแค่ขยับตัวเธอก็จะถูกลูกธนูยิงจนพรุนแล้ว

“เกี้ยวของข้าเป็นเกี้ยวที่นั่งสบายที่สุด โดยเฉพาะบนเก้าอี้ พอนั่งไปบนนั้นแล้วเจ้าจะรู้สึกนุ่มและอ่อนโยน อีกทั้งยังรู้สึกนุ่มลื่นและละเอียดอ่อนเหมือนกับหยก เจ้ารู้ไหมว่ามันทำมาจากอะไร”

เหลิ่งชิงฮวนไม่มีเวลาว่างที่จะมาสนใจกับคำถามของเขา เธอจำได้แค่ว่าเก้าอี้นั้นเหมือนกับว่าจะนุ่มลื่นและยืดหยุ่น และมีสีขาวซีด...

จู่ๆเธอก็เงยหน้าขึ้น เนื่องจากเธอคาดเดาได้ถึงบางสิ่งที่น่าตกใจ

น่าเยี่ยไป๋ยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชาราวกับนกเค้าแมว “ตกใจหรือ ดูท่าว่าเจ้าน่าจะเดาถูกแล้ว ไม่ผิด เป็นผิวของหญิงงาม ข้าเลือกใช้แผ่นผิวหนังที่ขาวสะอาดไรริ้วรอยกว่ายี่สิบแผ่นถึงจะทำเก้าอี้ตัวนี้ออกมาได้ มันมีทั้งพื้นผิวและผิวสัมผัสที่ดีที่สุด ส่วนเจ้า...”

คำพูดของเขาชะงักไปและค่อยๆเอาใบหน้าเข้ามาใกล้เธอ “โครงกระดูกของเจ้ามีสัดส่วนที่ดีอีกทั้งยังมีผิวดุจหยก ถ้าหากว่าเอากระดูกของคนงามมาทำพักน่าจะไม่เลวเลย”

เหลิ่งชิงฮวนยอมรับว่าตัวเธอนั้นเป็นพวกใจกล้า ต่อให้จูออนปีนออกมาจากโทรทัศน์กลางดึกตัวเธอเองก็สามารถโยนมันกลับเข้าไปข้างในได้ แต่สำหรับเจ้าหนุ่มขี้โรคนี้ทำให้เธอรู้สึกสันหลังวาบและขนลุกชัน

เขามันโรคจิตจริงๆ

ไอ้คนป่วยเมื่อเห้นว่าบนใบหน้าของเธอมีความกลัวเขาก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เขากระแอมอยู่สองทีก่อนจะหยิบกล่องสีแดงออกมาจากในแขนเสื้อ

“กลืนมันลงไปอย่างว่าง่ายเสีย ขอเพียงแต่เจ้ามีแต่ข้าในหัวใจ ข้าให้ชีวิตที่มั่งคั่งกับเจ้าได้ไปตลอดชีวิต”

หนอนกู่จิตใจตรงกัน เหลิ่งชิงฮวนไม่ต้องดูก็รู้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไร

อย่างไรเสีบเธอก็เคยบวชมาก่อนครึ่งทาง หากขวดยังไม่เต็มและมีของเพียงอยู่แค่ครึ่งเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับปรมาจารย์วิชากู่อย่างน่าจาอี๋นั่ว เรื่องนี้เธอให้คะแนนไม่น้อยไปกว่าหนึ่งดาวครึ่ง

แต่เธอไม่ต้องการที่จะถูกแมลงกู่แล้วลงนักไอ้คนป่วยนี่อย่างโง่งม หากมีวันใดที่ขาทั้งสองข้างของเขาสามารถยืนหยัดขึ้นมาได้เองก็จบสิ้นกันพอดี ตัวเองคงจะไม่อกหักจนสิ้นหวังแล้วตรอมใจตายหรอกนะ

เหลิ่งชิงฮวนถอยหลังไปสองก้าวและฝืนให้ตัวเองสงบ “อย่าหาว่าข้าไม่เตือนท่านนะ ท่านถูกพิษของข้าแล้วไม่มีทางที่จะถูกแมลงกู่จิตใจตรงกันได้ มันจะทำให้ท่านตายได้”

ไอ้คนป่วยกลับไม่แยแส “ข้าไม่กลัวแม้แต่พิษเป็นร้อยชนิดจะกลัวพิษของเจ้าหรือ”

“ถ้าท่านไม่เชื่อก็ลองพยายามดูดซับมันดูว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร”

น่าเยี่ยไป๋เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เป็นอย่างที่นางพูด เขาพยายามดูดซับมันเพียงครู่เดียวเขาก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกับกำลังชักเครื่องสูบลม เขาหายใจเข้าออกอย่างยากลำบาก “เจ้า เจ้าวางยาพิษข้าจริงๆ? เป็นไปได้อย่างไรกัน”

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้าลงอย่างที่เธอคาดการณ์เอาไว้ “พิษร้อยชนิดของเจ้าสำหรับข้าแล้วมันไม่มีประโยชน์”

ไอ้คนป่วยหายใจเร็ว ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำราวกับกำลังถูกพิษ

เยาจิ่วรีบเข้ามาประคองเขา “รีบไปตามองค์หญิงมาเร็ว!”

มีองครักษ์วิ่งออกไปทันที

เหลิ่งชิงฮวนได้หดมือเข้าไปในแขนเสื้อ พิษร้อยชนิดของไอ้คนป่วยแค่เธอใช้สมองนิดหน่อยก็ทำให้ใส่ผงตำแยให้เขาจนเขาเกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้แล้วจนทำให้โรคหอบหืดของเขากำเริบ แต่เมื่อน่าจาอี๋นั่วมาต้องปิดเธอเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน

เธอทำได้เพียงใช้วิธีที่เข้าตาจนแบบนี้ไม่อย่างนั้นหากเธอถูกแมลงกู่สัมพันธ์จิตใจแล้วตัวเธอคงไม่เป็นตัวของตัวเองเหมือนกับซอมบี้

ผ่านไปนานจู่ๆก็เกิดความโกลาหลเกิดขึ้น มีแสงไฟลุกขึ้นมากทางห้องแมลงกู่

มีคนตะโกนขึ้นว่า “ไฟไหม้ ไฟไหม้ห้องแมลงกู่แล้ว!”

“องค์หญิง!” เยาจิ่วร้องอย่างตกใจ “องค์หญิงไปที่ห้องแมลงกู่!”

น่าเยี่ยไป๋เองก็ตกใจ เขากุมหัวใจของตัวเองแน่น เขาเหลือบมองใบหน้าสงบนิ่งของเหลิ่งชิงฮวนอย่างดุร้ายและออกคำสั่งกับองครักษ์อย่างเคร่งเครียดว่า “ใครก็ได้เข้ามา รับคำสั่งจากข้าให้ส่งองครักษ์ออกไปสองชุดเพื่อมาเฝ้าผู้หญิงคนนี้เอาไว้ ถ้าหากว่านางหนีไปได้ล่ะก็ก็ระวังชีวิตของพวกเจ้าเอาไว้”

จากนั้นเขาก็เหล่าองครักษ์และเยาจิ่วพาตัวออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา