ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 520

อย่างเช่น มู่หรงฉีมองลูกชายของตัวเอง ก็รู้สึกว่า เด็กคนนี้ดูกวนโอ๊ยเหมือนกัน

บุตรไม่เคยตำหนิว่าแม่ตนเองขี้ริ้วขี้เหร่ สุนัขไม่รังเกียจครอบครัวยากจน แต่ว่าเด็กคนนี้ ไม่นึกเลยว่าแม้แต่วังหลวงก็ยังรังเกียจ นี่เขาคิดที่จะขึ้นสวรรค์สินะ

เสี่ยวอวิ๋นเช่อเบ้ปาก “เหตุผลไร้สาระ ท่านแม่ของข้าบอกหมดแล้ว เวลาว่างก็ไม่มีอะไรทํา ก็ตีเด็ก ตีข้าไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผล ท่านดูรูปร่างข้าสิ ข้าไม่ได้อ้วนนะ แต่ถูกท่านแม่ตีจนบวมไปทั้งตัวต่างหาก หากท่านพ่อโฉวข้าขวางเอาไว้ เดาได้ว่าพวกเราสองคนคงไม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้ว”

ปากนี้เล่ห์เหลี่ยมใช้ได้เลยจริงๆ นี่เป็นผลผลิตของข้างั้นเหรอ? ดูเนื้อหนังเขาสิ เสื้ออผ้าแทบจะปริแตกหมดแล้ว

เฟิงเหล่ยอวี้อมยิ้ม เคยชินมานานแล้ว จึงหยิบแมลงไปแกว่งตรงหน้าเสี่ยวอวิ๋นเช่อ พูดแทรก “ฮูหยินเข้าเมืองมาแล้ว ส่งแมลงธูปมาแจ้งข่าว ขืนเจ้ายังพูดจาเพ้อเจ้ออีก ระวังฮูหยินจะมาได้ยินเข้าล่ะ”

เมื่อเสี่ยวอวิ๋นเช่อได้ฟังดังนั้น ก็ดึงสติกลับมาทันที

สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อย แม้ว่าอยู่ในวังหลวงมีอาหารเลิศรส อาภรสวยหรู สาวงามมากมาย แล้วก็ยังมีคนมากมายคอยโอ๋คอบประคบประหงมตัวเอง แต่ว่า ก็ยังต้องการอยู่กับท่านแม่ คิดมาตั้งนานแล้วว่าเหลิ่งชิงฮวนนั้นก็ต้องชอบมากแน่ๆ

เพียงแต่ว่า เหลิ่งชิงฮวนนั้นใจกว้าง ช่วงแรกตอนที่อยู่เจียงหนาน เพราะเรื่องการค้าก็มักจะทิ้งเขาไว้ ดังนั้นลูกชายที่เลี้ยงมาก็ใจกว้างเช่นกัน ไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นๆที่ขี้แงติดคน

“ท่านแม่กลับเข้าเมืองมาแล้วทำไมถึงไม่มารับข้าล่ะ? ข้าคิดถึงพ่อโฉวแล้ว”

มู่หรงฉีถูกทำให้หัวใจสลายบาดเจ็บไปทั้งตัว ใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าเสี่ยวอวิ๋นเช่อนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับโฉวซือเส่าเช่นนี้

มู่หรงฉีลูบปาก รีบร้อนจนทำตัวไม่เหมาะสม “เจ้าคิดว่า พ่อดีกว่าหรือพ่อโฉวดีกว่ากัน?”

“ไม่สามารถเปรียบได้” เสี่ยวอวิ๋นเช่อเหลือบมองเขา ความหมายนั้นชัดเจนมาก

“เดี๋ยวต่อไป หากแม่เจ้าตีเจ้าอีก พ่อจะต่อต้านแทนเจ้าเอง” มู่หรงฉีให้สัญญา

เสี่ยวอวิ๋นเช่อส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ “ไม่แปลกใจเลยที่เสด็จปู่พูดไว้ ท่านเองก็มีอนาคตไกล หรือว่าท่านไม่สามารถจัดการกับสะใภ้ของท่านได้? ช่างเถอะ หวังไม่ได้แล้วล่ะ ข้าไปล่ะ จะไปหาท่านแม่ ไม่เป็นไปข้าเองก็แต่งงานกับสะใภ้ที่เก่งกาจกว่าได้ เมื่อถึงเวลานั้นก็จะสามารถปกป้องข้าได้แล้ว”

เฟิงเหล่ยอวี้หัวเราะจนแมลงธูปที่ไหล่สั่น โดยเฉพาะเมื่อเห็นมู่หรงฉีทําหน้าตกตะลึง ท่าทางตกใจจนพูดไม่ออก เกรงว่าในใจคงจะช็อคมากเลยสินะ?

ค่อยเป็นค่อยไป เดี๋ยวก็ชินเอง อยากจะให้เสี่ยวอวิ๋นเช่อเปลี่ยน คาดว่าคงจะยากเกินไป

“เสด็จปู่ของเจ้าคงจะไม่ให้แม่เจ้ามารับตัวเจ้าอย่างแน่นอน” มู่หรงฉีหยุดครู่หนึ่ง “เจ้าอยากออกจากวังไหมละ? พ่อสามารถพาเจ้าไปดูการแสดงกายกรรมที่สะพานได้ ฝึกล่าสัตว์ ขี่ม้ายิงธนู”

เสี่ยวอวิ๋นเช่ออยู่ในวังจนเบื่อแล้ว “ข้ากลับคิดว่า ตอนนี้ท่านยังปกป้องตัวเองไม่ได้เลย? จะพาข้าออกไปเที่ยวเล่นได้ยังไงกัน?”

“งั้นเจ้าทําตามที่พ่อบอก พ่อรับรองได้เลยว่าอีกประเดี๋ยวเจ้าจะได้เจอแม่อย่างแน่นอน”

“จริงเหรอ?” เสี่ยวอวิ๋นเช่อเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“พ่อจะหลอกเจ้าได้ที่ไหนกันล่ะ? มานี่ พ่อจะสอนเจ้าเอง”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อลังเลใจอยู่เล็กน้อย แล้วก็เดินเข้าไปรวมกับเขา มู่หรงฉีกำชับเสียงเบาอยู่สองสามคำ

เสี่ยวอวิ๋นเช่อเบ้ปาก ดูถูกเป็นอย่างมาก “นึกว่าจะมีแผนการดีๆเตรียมไว้ซะอีก ก็แค่หนึ่งร้องไห้สองโวยวายสามผูกคอ ไม่กินไม่ดื่ม อดอาหาร ข้าเล่นกลอุบายพวกนี้จนเบื่อแล้ว เฮ้อ ข้ามีพ่อโง่ๆแบบนี้ได้ยังไงกันนะ”

มู่หรงฉีสำลักจนพูดไม่ออก ถูกตาเฒ่าวิจารณ์ก็ไม่เป็นไรหรอก ลูกชายยังขยี้ตัวเองแบบนี้ ตัวเองโดนโจมตีทั้งสองด้านเลย

เสี่ยวอวิ๋นเช่อเดินจากไปด้วยสีหน้ารังเกียจ กลับเข้าไปในวังหลวง ข้าวก็ไม่กิน นอนก็ไม่นอน จะออกจากวังไปหาแม่ให้ได้ ไม่รับปากก็ปล่อยให้ปวดท้อง

สมมติ เขาทำตัววุ่นวายซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่เป็นไร ฮ่องเต้ยิ่งใหญ่ทั้งเรื่องครอบครัวและราชการงาน ไม่กลัวว่าเขาวุ่นวาย แต่เสี่ยวอวิ๋นเช่อน้อยใจไม่กินข้าว น้ำตาคลอเบ้าดวงตากลมโตทั้งสองข้าง จ้องฮองไทเฮาตาปริบๆ ร้องไห้สำลักจนไม่มีเสียง ใครบ้างจะไม่ใจอ่อน?

ฮองไทเฮาตำหนิฮ่องเต้อย่างเต็มๆ ให้เขารีบไปพาตัวหลานสะใภ้กลับมา

ฮ่องเต้ไม่ยอมที่จะลดศักดิ์ศรีของตัวเอง รู้สึกว่าอายขายขี้หน้าเกินไป ฮองไทเฮาโกรธทุบอกใจเจ็บ

ฮ่องเต้ตบที่หน้าขา “ทหาร รีบส่งม้าเร็วไปที่จวนเสนาบดี ไปรับตัวพระชายาฉีเข้าวัง บอกนาง ไทเฮาประชวร ให้นางรีบเข้าวังโดยเร็ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา