ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 522

เหลิ่งชิงฮวนครุ่นคิด จริงๆแล้ววิธีการนี้ก็ไม่เลวนะ ตัวเองถือโอกาสทำการผ่าตัดน่าเยี่ยไป๋คนใจดำคนนั้นหรืออะไรก็ได้ อย่างเช่น การใส่สายระบายทรวงอกหรือขดลวดตาข่ายก็ได้ เครื่องมือที่มีความแม่นยำทันสมัยนี้ ต่อให้แคว้นหนานจ้าวจะมีช่างชำนาญฝีมือมากแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถลอกเลียนแบบได้?

เมื่อถึงเวลานั้นชีวิตน้องๆของเขาก็จะถูกควบคุมอยู่ในน้ำมือของตัวเอง ปกป้องประชาชนทั้งสองแคว้นไม่ให้ลำบากจากสงคราม นี่เป็นความดีที่ยิ่งใหญ่

ถ้าฮ่องเต้ทำทีเป็นลดโทษมู่หรงฉี เพียงเพื่อสิ่งนี้เท่านั้น งั้นเธอก็สามารถถอยได้หนึ่งก้าวความยุติธรรมของบ้านเมืองเมื่อเทียบกับความคับข้องใจส่วนตัว อันไหนสำคัญกว่ากัน เธอย่อมชั่งน้ำหนักได้อย่างชัดเจน

เธอหวั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง ฮ่องเต้มอง ค่อยๆพยักหน้าอย่างพอใจ

ฮ่องเต้ยังคงเป็นกังวลจริงๆว่าเธอจะไม่ยอมที่จะรักษาน่าเยี่ยไป๋ ตอนนี้ดูเหมือนตัวเองจะกังวลมากเกินไป เด็กคนนี้คุณธรรมลึกซึ้ง โปร่งใส ฉลาดหลักแหลม

“ชิงฮวนเจ้าขจัดโรคละบาดถือมีเป็นคุณงานความดี หากสามารถช่วยชีวิตรัชทายาทแคว้นหนานจ้าวให้กลับฟื้นเป็นปกติได้ นั่นก็จะยิ่งเป็นคุณูปการอันยิ่งใหญ่อีกหนึ่งเรื่อง แน่นอนว่าข้าจักมีรางวัลมอบให้อย่างงาม ว่ามา เจ้าอยากได้สิ่งใดเป็นการตอบแทน?”

เหลิ่งชิงฮวนก็ไม่อ้อมค้อม “สามารถแบ่งเบาภาระฝ่าบาทได้ เป็นหน้าที่ของข้าราชบริพาร ไม่กล้าเรียกร้องบำเหน็จอะไร พระองค์ประทานอนุญาตให้ท่านอ๋องและเช่อเอ๋อร์กลับไปพร้อมกับหม่อมฉันก็พอแล้วเพคะ”

ไม่คิดเลยว่าฮ่องเต้จะตอบตกลงอย่างดีใจ

“เจ้าแยกห่างจากลูกไปตั้งนาน ไม่ง่ายเลยที่จะกลับมารวมกัน ให้เขาตามเจ้ากลับไปก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ข้าจะชื่นชมให้รางวัล หรือตำหนิลงโทษแยกอย่างชัดเจนเสมอ เจ้ามีความดีความชอบ จำเป็นต้องให้รางวัล หรือว่า จะให้เจ้ากับฉีเอ๋อร์จัดงานแต่งงานกันใหม่อีกรอบหนึ่ง?”

นี่ถือเป็นรางวัลอะไรกันเนี่ย? จับเสือมือเปล่า? พระราชโองการเดียวอยากที่จะได้ลูกสะใภ้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินอะไร ยังดูเหมือนเขามีความรักและความเมตตาเป็นพิเศษ

เหลิ่งชิงฮวนทำสีหน้าลำบากใจ “การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ คำสั่งของพ่อแม่ คำแนะนำของแม่สื่อนั้น ชิงฮวนไม่กล้าที่จะทำโดยพลการ เมื่อกี้ตอนที่จะออกจากบ้าน ท่านพ่อยังได้กำชับหม่อมฉัน ท่านบอกว่า ตอนนี้เงินสินสอดในเมืองหลวงได้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว ราคาค่างวดอย่างหม่อมฉันในตอนนี้ ประมาณการหม่อมฉันน่าจะขายออกได้ราคาดี อย่างน้อยแปดเก้าพันตำลึง สินสอดทองหมั้นอีกหมื่นตำลึง เพียงพอที่จะเลี้ยงดูท่านยามแก่ชราได้”

ขอโทษนะท่านพ่อ

ฮ่องเต้ยื่นมือไปจิ้มที่จมูกเหลิ่งชิงฮวน “ร้ายกาจนักนะ สมกับที่ออกมาจากบ้านตระกูลโฉวแห่งเจียงหนาน ครั้งก่อนรีดไถเงินข้าไปแสนตำลึงยังไม่พออีกหรือไง? ยังคิดที่จะขอค่าสินสอดอีกรอบ? ลูกชายของข้ายังกลัวว่าจะแต่งลูกสะใภ้ไม่ได้?”

เป็นการยืนยันความจริง ตลอดห้าปีนี้ ลูกชายของเขาไม่ได้แต่งงานกับลูกสะใภ้

เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มตาหยี “ฝ่าบาทหากทรงรู้สึกว่าเป็นการค้าขายที่ขาดทุน ก็ช่างมันเถอะเพคะ นี่มันได้ถือว่าเป็นการรีดไถ อย่างไรเสีย นี่ก็คือค่าสินสอด แล้วก็เงินค่ายาแสนตำลึงนั่นพระองค์สามารถไปหาจากแคว้นหนานจ้าวได้นะเพคะ ชีวิตของรัชทายาทแคว้นหนานจ้าว ไม่ใช่แค่แสนตำลึงนะเพคะ”

เอ๊ะ ที่พูดก็มีเหตุผล ตัวเองเพียงแต่ขี้งก ลูกสะใภ้คนนี้ทักษะนั้นเหนือกว่าตน สามารถรีดไถเอาเงิน ใครใช้ให้นางมีความสามารถในการรักษาจนฟื้นคืนชีพกลับมาล่ะ

ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ก็ควรที่จะไปถอนเอาจากชาวหนานจ้าว

ทั้งคู่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เข้ากันได้ดี

“คำไหนคำนั้น เรื่องเจรจากับแคว้นหนานจ้าว มอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าและพ่อของเจ้าไปจัดการก็แล้วกัน ไม่เพียงแต่ค่ายารักษาแสนตำลึงเท่านั้น ยังมีเสบียงอาหารของทหารสามเหล่าทัพที่เหน็ดเหนื่อย เงินบำรุงขวัญ คำนวณออกมาแล้วนั้นเยอะมาก พวกเจ้าสองพ่อลูกร่วมมือกัน ข้าเชื่อว่าแคว้นหนานจ้าวเอาเปรียบไม่ได้แน่นอน”

มองแวบเดียวก็รู้ว่าวางแผนมาเป็นอย่างดี วางแผนมาตั้งนานแล้ว สามารถฝืนทนได้

เหลิ่งชิงฮวนยิ้ม “เหอเหอ” แล้วถูมือ “หากขาดทุนมาก หม่อมฉันกับท่านพ่อยังมีส่วนแบ่งไหมเพคะ? ไม่สิ แบ่งตามสัดส่วน มีไหมเพคะ?”

เขามองเธออย่างไม่สบอารมณ์ “ได้คืบจะเอาศอก! ข้าปกครองประเทศง่ายหรือ? เจ้ายังวิ่งมาปอกลอกข้าถึงที่นี่ ต่อรองราคา หลานของข้ารู้สึกเห็นแก่เงินก็ตามแต่เจ้าเถอะ ไปไปไป! เห็นหน้าเจ้าแล้วหงุดหงิด!”

หาเรื่องให้ลำบากใจ เหลิ่งชิงฮวนยักไหล่ เห็นว่าดีก็ยอมรับ ฮ่องเต้คืนเสี่ยวอวิ๋นเช่อให้ตัวเองอย่างมีความสุขแบบนี้ เธอยังคงแปลกใจเล็กน้อย นี่ไม่ใช่นิสัยของชายแก่เลย

สี่กงกงฟังเจ้านายทั้งสองคนที่ใช้ความฉลาดไหวพริบในการสู้อยู่ด้านข้างมาโดยตลอด ยิ้มกว้าง “พระชายา เชิญ? ไทเฮากำลังรอท่านอยู่”

รอยยิ้มนี้ ฮ่องเต้มองริมฝีปากที่แห้งเหี่ยวของเขา ทำให้นึกถึงก้านพืชในไร่

“ช้าก่อน”

“เสด็จพ่อยังมีอะไรจะรับสั่งอีกเพคะ?”

เหลิ่งชิงฮวนรีบเปลี่ยนคำพูดทันที

ฮ่องเต้อ้ำอึ้งไปพักหนึ่ง มองซ้ายมองขวายังไงก็ไม่มีคนอยู่ด้านข้างอยู่ดี จึงเอ่ยปาก “ก็คือว่าฟันปลอมที่ครั้งก่อนเจ้าใส่ให้ข้าน่ะ ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว ข้าให้ช่างฝีมือฝ่ายแรงงานใช้ทองทำขึ้นมาตามแบบชิ้นนั้น พอใส่เข้าไปแล้วกลับรู้สึกแปลกๆ อีกทั้งใส่แล้วไม่สบาย”

ไม่นึกเลยว่าจะใส่ฟันปลอมทองคำจริงๆ?

แม่เจ้าโว้ย หรือว่าที่ฮ่องเต้หน้าบึ้งตึงตลอดเวลา แม้แต่รอยยิ้มก็ยังไม่มี กลัวว่าไม่ใช่กังวลเรื่องที่คนอื่นเห็นเงินทองแล้วเกิดความคิดชั่ว เคาะฟันของเขาหลุด?

เธออยากจะหัวเราะแต่ก็ไม่กล้าหัวเราะ กระแอมเบาๆ “ไม่เป็นไรเพคะ ทองก็ดีเพคะ กินอาหารไม่ต้องกลัวเสียหาย หากเสด็จพ่อรู้สึกว่ามันไม่สบาย หม่อมฉันช่วยดู ปรับเปลี่ยน ต้องมีหนึ่งอันที่บดเคี้ยวสม่ำเสมอเพคะ”

“ข้ายังรู้สึกว่า ครั้งก่อนที่เจ้าทำฟันปลอมให้กับข้า มันเป็นอำพันไม่ใช่หรือ? ในห้องสมบัติของข้านั้นมีของล้ำค่าทุกรูปแบบ ขอแค่เจ้าใช้แล้วได้ผล ต้องการเท่าไหร่ย่อมไม่มีปัญหา”

ถ้าหากพระองค์อนุญาต แหวนนาโนของเราก็สามารถเคลื่อนย้ายห้องสมบัติของเขาได้

เมื่อถึงเวลานั้นพระองค์อย่ามาเสียใจทีหลังนะ

ตอนนี้เหลิ่งชิงฮวนร้อนใจที่จะเจอหน้าเจ้าลูกรักจอมทโมน ตกปากรับคำไปก่อน จากนั้นก็รีบเดินตามสี่กงกงเข้าวังฉืออันอย่างรีบร้อน

เสี่ยวอวิ๋นเช่อไม่ได้เจอแม่ตัวเองมานานมากขนาดนี้ แปลงร่างเป็นลูกระเบิดก้อนเนื้อระเบิด พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของนางอย่างไว

“ท่านแม่ เช่อเอ๋อร์นึกว่าท่านแม่ไม่ต้องการข้าแล้ว!”

นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เหลิ่งชิงฮวนจากอวิ๋นเช่อไปนาน กอดร่างน้อยจ่ำม่ำของเขา ใจอ่อนสับสนวุ่นวายไปหมด ใบหน้าอ้วนกลมๆหันไปแล้วเบ้ปาก

ไทเฮาแกล้งนอนป่วยอยู่บนเตียง เห็นหลานสะใภ้ที่ตัวเองถูกใจที่สุด ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาแห่งความซาบซึ้งที่หางตา

ห้าปีที่ไม่ได้เจอกัน ไทเฮาแก่ลงไปมากจริงๆ ผมก็เปลี่ยนเป็นสีขาวเงินหมดแล้ว แม้ว่าผิวหน้าจะได้รับการบํารุงรักษาอย่างดี แต่ก็มีริ้วรอยซ้อนกันและเต็มไปด้วยร่องรอยของความผันผวนของกาลเวลา

เหลิ่งชิงฮวนถวายพระพรไทเฮาอย่างเรียบร้อย คุกเข่าอยู่ที่พื้น ความรู้สึกในใจประเดประดังเข้ามาพร้อมกันหมด

ย่าหลานสองถามไถ่หลังจากที่จากลากัน เหลิ่งชิงฮวนตรวจร่างกายให้นางอย่างละเอียด ข้าหลวงในวังด้านนอกก็เข้ามาบอกข่าว ว่ามู่หรงฉีมารับสองแม่ลูกกลับจวนแล้ว

ไทเฮามองสามคนครอบครัวนี้อย่างอิ่มอกอิ่มใจ ยืนอยู่ด้วยกันอย่างรักกันหวานชื่น ในแววตารักกันหวานดูดดื่ม คงมีคําพูดมากมายที่จะพูด ก็รีบส่งสายตาให้ทั้งสามคนกลับไปแล้ว

มู่หรงฉีรับกล่องยาเหลิ่งชิงฮวนมา เหลิ่งชิงฮวนดึงเสี่ยวอวิ๋นเช่อ เขาก็ยื่นมือไปทางเหลิ่งชิงฮวนอย่างเป็นธรรมชาติ

เหลิ่งชิงฮวนยังคงอึดอัดอยู่เล็กน้อย สะบัดเบาๆ

มือใหญ่ของมู่หรงฉี และอุ้งมือของเธอประสานกัน สิบนิ้วไขว้กัน ห่อมือเล็ก ๆ ที่อ่อนแอและไร้กระดูกของเธอไว้แน่นเหมือนกับเด็ก แกว่งไปแกว่งมาเบา ๆ เสื้อผ้ากระเพื่อมเบา ๆ บนรองเท้าบูทผ้าซาตินสีดํา ลายที่ปักด้วยไหมทองตรงมุมผ้ากระเพื่อมเหมือนน้ำ

เสี่ยวอวิ๋นเช่อหันหน้ามาเป็นครั้งคราว แอบเหลือบมองเขา ทำแก้มตุ่ย ไม่ได้พูดอะไร เงียบกริบ ไม่คึกคักจ้อกแจ้กจอแจเหมือนดั่งเช่นทุกคน ที่ตัวยังแบกสัมภาระเล็กๆหนึ่งใบ

เฟิงเหล่ยอวี้เดินตามหลังอยู่ไม่ไกล

ครอบครัวสามคน เป็นแบบนี้นี่เอง เดินผ่านวังหลวงไปอย่างไม่รีบร้อน เดินบนทางเดินยาวเหยียด ผ่านสายตาของพวกข้าหลวงในวังที่อิจฉามาตลอดทาง

ไม่พูด ไม่ส่งเสียง แต่กลับมีความอบอุ่นที่ค่อย ๆทะลักออกมาระหว่างทั้งสามคน สีหน้าแววตาล้วนเต็มไปด้วยความยินดีและความภาคภูมิใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา