เหลิ่งชิงฮวนทำเป็นไม่รู้ตัว เธอฟังอย่างตั้งใจเธอได้ยินเสียงคนเหยียบใบไม้เบาๆจริงๆ ถึงแม้ว่าเสียงจะเบาแต่ว่าเสียงรอยเท้านั้นไม่พ้นหูเธอไปได้
เธอหันไปทันที เธอจับเข็มเงินเอาไว้แน่นและพร้อมที่จะปามันออกไปตลอด
อีกฝ่ายนั้นว่องไวมาก เมื่อหันไปเขาก็ไม่อยู่แล้ว เห็นเพียงชายเสื้อสีฟ้าแวบผ่านไป
เนื่องจากเขาอยู่ไกล เหลิ่งชิงฮวนคิดที่จะตามก็ไม่ทันเสียแล้ว
เธอเดินไปข้างหน้าแล้วเดดหญ้าขึ้นมาดู มีรอยเท้าลึกอยู่บนพื้นโคลนสองรอย ดูจากขนาดแล้วน่าจะเป็นชายหนุ่มโตเต็มวัย
ใครกัน? ทำไมเขาถึงไม่กล้าปรากฏตัวออกมาและออกมาพบอย่างเปิดเผยได้
เธอเต็มไปด้วยความสงสัยบวกกับเธอมีฝีมือจึงไม่กลัว แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจแต่ตามเขาไปจากร่องรอยที่หญ้าถูกเหยียบ
เส้นทางที่คดเคี้ยว เห็นได้ว่าเคยมีคนเดินผ่านทางนี้มาก่อน รอยเท้ามาถึงตรงนี้ก็หายไปแล้ว
เหลิ่งชิงฮวนเดินไปตามทางจนสุดทางก็เห็นสุสานเปิดที่มีหลุมฝังศพอยู่แห่งเดียวตรงกลาง ที่ด้านข้างมีต้นไหมเปอร์เซียปกคลุมอยู่ไปทั่ว
เธอเดินเข้าไปข้างหน้าด้วยความสงสัย ที่ป้ายหยกสีขาวหน้าหลุมฝังศพนั้นมีตัวหนังสือสลักชื่อคนเอาไว้อยู่ แต่ตัวหนังสือสีแดงบนนั้นเบลอแล้วแต่ก็สามารถอ่านได้ลางๆว่า “หลุมศพของเหลิ่งชิงฮวนภรรยาที่รัก”
หลุมศพของเธอเอง
เหลิ่งชิงฮวนจะทำตัวไม่ถูก เนื่องจากจู่ๆเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าเหลิ่งชิงเฮ่อได้เล่าเรื่องเหตุการณ์ให้วันนั้นอย่างออกรส
เหลิ่งชิงเฮ่อพูดว่า “ท่านอ๋องฉีร้องไห้จะเป็นจะตายและพูดคำบอกรักออกมาเศร้าโศก ทุกคนที่อยู่ที่นั่นร้องไห้ออกมาจนต่อให้คนตายไปแล้วก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ แต่ใครจะรู้กันเล่าว่าตอนที่ฝาโลงถูกเปิดออกนั้นเองด้านในก็มีเสียงสุนัขตัวเมียร้องดังออกมา อีกทั้งร้องครวญครางออกมาราวกับว่ามันกำลังประจบอย่างอย่างน่าสงสาร
ตอนนั้นสีหน้าของท่านอ๋องฉีก็สดใสขึ้นมา ดวงตาที่มีเส้นเลือดขึ้นเต็มไปหมเของเขาแทบจะถลนออกมา น้ำตาที่ตอนแรกที่นองหน้าของเขา ในเวลานั้นเองก็กลายเป็นเรื่องตลก เขาทั้งร้องไห้และหัวเราะออกมาราวกับคนโง่”
ตอนนี้เธอยืนอยู่ที่เธอเธอสามารถจินตนาการได้ว่าหลายปีมานี้มู่หรงฉีนั้นได้เอาความเศร้าโสกกดข่มมันลงไปได้อย่างไร เขากลืนเหล้าแรงๆลงไปในลำคอทีละอึกให้มันแผดเผาลงไป จากนั้นเขาก็ใช้นิ้วมืออันหยาบกระด้างของเขาลูบไปบนชื่อของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สุนัขตัวนั้นก็อยู่ที่ด้านหลังของเขาเงียบๆ
ความรู้สึกบางอย่างต้องเอาตัวไปอยู่ตรงนั้นถึงจะสัมผัสมันได้อย่างลึกซึ้ง
เธอเดินเข้าไปทีละก้าว จู่ๆก็มีเสียงร้องอย่างตกใจ จู่ๆมีเหงาสีดำออกมาจากด้านหลังของป้านสุสานที่มีขนาดสูงเท่าคนยืนกระโจนเข้ามาหาเธอ
เหลิ่งชิงฮวนที่กำลังเศร้าเสียใจอยู่นั้นถูกทำให้ตกใจอย่างกะทันหันเช่นนี้ก็รีบหลบแล้วถอยหลังไปสองสามก้าว
เสียงโซ่ดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าเงาดำนั้นถูกล่ามไว้กับหลุมศพ คนคนนี้ถูกมัดมือมัดเท้าและพยายามดิ้นรนเข้ามาเหลิ่งชิงฮวน ใบหน้านั้นน่ากลัวและร้องออกมาเสียงอู้อี้อย่างดุร้าย
เหมือนกับสุขนัขบ้าที่ออกมากัดคนพร้อมกับแยกเขี้ยวออกมา
เหลิ่งชิงฮวนจ้องมองไป คนคนนี้ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนเป็นผมเป็นฝัก อีกทั้งยังปกคลุมไปด้วยหญ้าแห้ง ใบหน้าดำคล้ำ บนใบหน้าเต็มไปด้วยโคลนและมองไม่ออกถึงผิวที่แท้จริง มีเพียงดวงตาที่มีสีแตกต่างจากคนทั่วไปเคลื่อนไหวไปมา
เสื้อผ้าที่สวมอยู่นั้นขาดรุ่งริ่งและเต็มไปด้วยโคลน มือสองข้างที่โผล่พ้นออกมานั้นก็ดำไปหมด ช่วงข้อต่อนิ้วก็เต็มไปด้วยโคลานสภาพแบบนี้ยิ่งกว่าไก่ขอทานเสียอีก
ใบหน้าของเธอดุร้ายแล้วจ้องมองเหลิ่งชิงฮวนอย่างเกลียดชังและร้ายกาจ เธอพุ่งเข้ามาเรียกเธอเผยให้เห็นฟันราวกับว่าจะฉีกกลืนเธอลงไป
สภาพนี้ช่างน่าเวทนา เกรงว่าเมื่อคนอื่นมาเห็นแล้วจะลงมือกับผู้หญิงคนนี้อย่างรุนแรงและป่าเถื่อน และพวกเขาเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเธอ
เหลิ่งชิงฮวนตกใจจนทำตัวไม่ถูก จู่ๆเธอก็นึกถึงเหลิ่งชิงหลางขึ้นมา
เธอเคยได้ยินโฉวซือเส่าเปรยขึ้นว่า ภายหลังจากที่เธอออกจากเมืองหลวงแล้วเหลิ่งชิงฮวนก็ถูกตัดเส้นเอ็นมือและเส้นเอ็นเท้า อีกทั้งยังถูกตัดลิ้น จากนั้นก็ถูกล่ามเอาไว้ที่หลุมฝังศพของเธอ
นี่คือเหลิ่งชิงหลาง?
เธอไม่อยากจะเชื่อ
ในความทรงจำของเธอเหลิ่งชิงหลางมักจะเชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจเสทอ ไม่ก็ออกคำสั่งกับคนอื่นด้วยท่าทางสูงส่ง หรือไม่ก็เยาะเย้ยประชดประชันเธอ หรือไม่ก็ทำเป็นน่าสงสารต่อหน้ามู่หรงฉี
ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรที่จะอยู่ในสภาพก่งผีกึ่งคนเช่นนี้
เธอถอยหลังไปสองก้าวด้วยความกลัวราวกับกำลังหนีเชื้อโรค “เจ้าคือเหลิ่งชิงหลาง?”
อีกฝ่ายหนึ่งเมื่อเห็นเธอแล้วก็เหมือนถูกกระตุ้น ถลึงตามองเธอด้วยความโกรธ โซ่เหล็กสั่นสะเทือนจนมีเสียงดัง เนื่องจากลิ้นของเธอถูกตัดจึงไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจนจึงทำได้เพียงแค่ด่าออกมาเสียงอู้อี้
“เหลิ่งชิงฮวน เจ้าไม่ได้ตายจริงๆด้วย ทำไมกัน ทำไม!”
เป็นเธอจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะพูดออกมาได้ไม่ชัด แต่เหลิ่งชิงฮวนนั้นได้ยินอย่างชัดเจน
เหลิ่งชิงฮวนมองไปที่เธออย่างเย็นชา “เจ้าทำให้ข้าผิดหวัง ข้ายังไม่ตายอีกทั้งยังมีชีวิตอย่างดี ลูกของข้าเองก็สบายดี ตอนนี้เขาได้กลับมาแล้วฮ่องเต้เองก็พระราชทานตำแหน่งผู้สืบทอดจวนอ๋องฉีให้กับเขา”
ดวงตาของเหลิ่งชิงหลางแทบจะถลนออกมา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยโคลนของเธอยื่นเข้ามาแล้วพูดว่า
“”ห้าปีแล้ว เจ้ารู้ไหมว่าห้าปีมานี้ข้าต้องรับโทษอะไรบ้าง
เหลิ่งชิงหลางพูดออกมาอย่างยากลำบาก แต่ละคำที่เธอพูดออกมาเหลิ่งชิงฮวนฟังออกว่าเธอกำลังก่นด่าและมองออกถึงความไม่เต็มใจและความเกลียดชังของเธอ
“ข้าถูกมู่หรงฉีทำเหมือนสุนัขล่ามเอาไว้ที่นี่เกือบห้าปี ข้าต้องตากแดดตากลม ทนต่อลมหนาววที่พัดมาและทนต่อความหนาวเหน็บจนเกือบตายไม่รู้กี่ครั้ง! ทำไมเจ้าถึงได้ยังมีชีวิตอยู่ สวรรค์ไม่ยุติธรรม!”
เหลิ่งชิงฮวนคิดไม่ถึงว่าเธอจะเกลียดตัวเองแบบนี้ เห็นๆอยู่ว่าคนที่ทำร้ายคนอื่นคือเธอ โทษที่เธอได้รับนั้นก็สมควร เป็นผลของการที่ทำตัวเองแต่เธอกลับเอาความไม่ดีที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาโยนให้กับเธอ
นี่คือความหลงผิด
เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะออกมาเสียงเย็น “เหลิ่งชิงหลาง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเจ้าทำร้ายผู้คนไปมากมาย วันนี้เจ้าลงเอยเช่นนี้นั้นเป็นโทษที่สมควรได้รับ”
“พูดมั่วๆ ทั้งหมดนี้เจ้าบีบให้เกิดขึ้น! ถ้าหากว่าเจ้าไม่ได้แย่งทุกสิ่งที่เป็นของข้าไป ข้าก็จะเป็นพระชายาฉี เรื่องทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร”
เหลิ่งชิงฮวนค่อยๆก้มตัวลงเล็กน้อยมองไปที่เหลิ่งชิงหลางแล้วพูดออกมาอย่างชัดเจนว่า “อย่างแรก เดิมทีแล้วข้านั้นคือบุตรสาวคนโตของจวนมหาเสนาบดี ตอนนั้นจินอี๋เหนียงแย่งลูกเขยไปและพรากท่านพ่อไป
ต่อมาต่อให้เจ้าได้เป็นบุตรสาวคนโต ไทเฮาก็ไม่มีทางเลือกเจ้าเป็นพระชายาฉี เนื่องจากนิสัยและการเลี้ยงดูของเจ้านั้นไม่คู่ควร
สุดท้าย เหลิ่งชิงหลาง อย่าดื้อรั้นเอาแต่หาข้ออ้างให้ตัวเอง มู่หรงฉีไม่ชอบเจ้าก็คือไม่ชอบ ต่อให้เจ้าจะใช้ชื่อของข้าก็เป็นไปไม่ได้
เหลิ่งชิงหลางที่ถูกตัดเอ็นข้อมือและข้อเท้าคลานอยู่บนพื้นราวกับไม่สามารถยยืนตรงขึ้นมาได้ เธอทำได้เพียงแค่เอียงหน้ามองเหลิ่งชิงฮวนที่อยู่สูงหว่าแล้วร้องไห้ฮืออยู่ในลำคอ
“ไม่จริง! มู่หรงฉีเป็นของข้า ข้าอยู่กับเขาที่นี่มาห้าปี เจ้านับเป็นตัวอะไรกัน”
เหลิ่งชิงฮวนไม่อยากพูดอะไรอีก เหลิ่งชิงหลางบ้าไปแล้ว เธอมองออกว่านี่คือคำโกหกที่เธอใช้ปลอบตัวเองในการถูกล่ามไว้ที่นี่และลิ้มรสไปกับมัน
“เหลิ่งชิงฮวน!”
เสียงโซ่ขยับไปมา เหลิ่งชิงหลางกรีดร้องใส่เธออย่างบ้าคลั่ง “ทำไมกัน ทำไมเจ้าถึยังมีชิวิตอยู่ ทำไมลูกของเจ้าถึงได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัย ข้าไม่ยอม ข้าไม่ยอม! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
โอ๊ยยยยยยย ปวดตับ น้ำตาท่วมเลยยยยย ฮือออออออ😫😫...
แอดน่ารักที่ซู๊ดๆๆๆๆๆๆ...
นางเอก บ้า วันๆ ทำแต่เรืองไร้สาระ...
ปญอ. พระเอกนางเอก ทะเลาะกันทั้งเรื่อง...
เมื่อไหร่จะหย่าซะที ได้แต่พูด เบื่อ...
แอดกลับจากพักร้อนแล้ว ดีใจจัง จุ๊ฟๆๆๆ...
แอดขา...ตอนนี้กำลังจะเริ่มพิธีทางไสยศาสตร์เพื่อตามแอดกลับมาอัพต่อแล้วนะคะ..แอดอยู่หนายยยย..จุ๊กกรู๊ๆๆๆๆๆๆ😅😄🤗😊...
แอดดดดดดด ลูกบ้านให้อภัยแล้ววววว กลับมาเร็วๆ...
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวอีกแล้ว สงสารเถอะ อัพหน่อย...
ไหงตัดจบกันแบบนี้🙄🙄...