ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 54

มู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวนต่างมีความกังวลของตัวเอง ทั้งคู่เงียบไม่ส่งเสียงใดๆ ต่างคนต่างกินข้าว

ค่ายทหารยังคงครึกครื้นไม่หยุด ทหารหลายคนกำลังฝึกซ้อมในสนามฝึก ความเศร้าโศกที่เกิดจากอาการบาดเจ็บของรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้มลายหายไปตั้งนานแล้ว ทั้งค่ายทหารเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา

มู่หรงฉีในฐานะที่เป็นนายทหารชั้นสูง อีกทั้งยังเก่งกาจอีกด้วย ดูจากบรรยากาศในค่ายทหารโดยรวม เหลิ่งชิงฮวนสัมผัสได้แบบนั้น แต่น่าเสียดายที่เป็นเพราะกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงบึกบึนกลุ่มนี้ เขาถึงต้องเผชิญกับพวกตำหนักหลังที่สามารถทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงและลาภยศโดยที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี

ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับการขัดแข้งขัดขากันในท้องพระโรง และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เขาจะยืนหยัดได้ไหวหรือไม่? สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้ไม่ใช่พระชายาเอกพระชายารองอะไร แต่เป็นกุนซือที่สามารถวางแผนกลยุทธ์ได้

เมื่อคิดจนเหม่อลอย อยู่ๆ ที่อยู่ข้างๆ ก็กระโจนเข้ามาหานางและร้องอุทานขึ้นมา “ระวัง!”

นางไม่ทันตั้งตัวก็ถูกมู่หรงฉีกระโจนเข้ามาจนล้มลงไปกับพื้น เขากอดนางไว้ในอ้อมแขนแน่น ร่างทั้งสองประสานเข้าหากันอย่างแนบชิด

เหลิ่งชิงฮวนยังไม่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงยังไม่ทันได้ตอบโต้กลับไป แสงแวววับอันเย็นยะเยือกส่องผ่านไหล่ของมู่หรงฉีไปสองสามครั้ง แล้วเล็งเข้าไปในทุ่งหญ้าด้านข้าง

มีคนร้าย!

แม่งสิ ถ้าอยู่กับเจ้าหมอนี่ไม่มีทางเกิดเรื่องดีๆ จริงๆ ด้วย

เหลิ่งชิงฮวนอยากจะตะโกนด่าออกมา แต่อาวุธลอบสังหารระลอกที่สองตามมาติดๆเหมือนดั่งเงา เพิ่งจะถูกมู่หรงฉีเอาเปรียบไป เหลิ่งชิงฮวนที่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้น ก็ถูกเขากอดลงมาอีกครั้งแล้วกลิ้งลงไปบนพื้นหญ้าอีกสองรอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ตอนที่นางยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับ มู่หรงฉีก็เริ่มลงมือเคลื่อนไหวแล้ว เขาหยิบเสื้อคลุมบนพื้นขึ้นมา ตลบแสงเย็นๆ ที่สาดมาละลอกที่สาม แล้วเหวี่ยงกลับไปในทิศทางที่เหวี่ยงมา

ช่วงเวลานี้ถ้วยที่วางระเกะระกะ ส่งเสียงดังกึกก้อง

ภายใต้แสงจันทร์ กลุ่มชายสวมหน้ากากเจ็ดแปดคนที่ถือดาบเอาไว้ในมือ พุ่งกระโจนเข้ามาที่ทั้งสองคน การเคลื่อนไหวของพวกเขาเหมือนดังวิญญาณ แต่ละคนล้วนมีฝีมือดีๆ กันทั้งนั้น

เหลิ่งชิงฮวนเด้งตัวขึ้นมาจากพื้นและลุกขึ้นมายืนอย่างทุลักทุเล มู่หรงฉีปกป้องนางด้วยการบังตัวนางให้อยู่ข้างหลังและเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้

ทั้งสองคนไม่มีอาวุธอะไรเลย และคู่ต่อสู้ก็มีมากมายขนาดนี้ จะไม่เสียเปรียบได้อย่างไร? เมื่อตกอยู่ในที่นั่งลำบากเหลิ่งชิงฮวนยอมเลือกที่จะถอยเพื่อที่จะไม่ต้องเสียท่า จึงรีบส่งเสียตะโกนสุดเสียงทันที “มีคนร้าย!”

น่าจะเป็นเพราะว่าเสียงในค่ายทหารดังเกินไปเป็นแน่? ถึงได้ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

เหลิงชิงฮวนพิงหลังอันกว้างใหญ่และแข็งแกร่งของมู่หรงฉี อยากจะตบไปที่ไหล่เขาและเอ่ยอย่างไร้น้ำใจว่า “พี่ชาย ท่านคุ้มกันไป ข้าจะไปตามทหารมาช่วย”

แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ให้โอกาสนางเลยแม้แต่นิดเดียว แสงกระทบของดาบอันเย็นยะเยือกในมือของพวกเขาส่องมาที่ใบหน้าของพวกเขาทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มู่หรงฉีไม่มีอาวุธในมือ แต่กลับไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย มือหนึ่งปกป้องผู้หญิงตัวเล็กๆ ไว้ข้างหลัง มืออีกข้างรับคมดาบของอีกฝ่าย เหลิ่งชิงฮวนมองการเคลื่อนไหวของเขาไม่ชัดว่าเป็นกระบวนท่าอะไร แต่ก็สามารถแย่งเอาดาบของอีกฝ่ายมาได้หนึ่งเล่ม

สุดยอดไปเลย สมกับที่เป็นท่านอ๋องเทพเจ้าแห่งสงครามจริงๆ ดูเหมือนว่าจะมีวรยุทธ์ต่อสู้ได้จริงๆ เมื่อกี้นี้ที่ฝึกซ้อมแข่งสู้กันในสนามฝึกรบก็ไม่ใช่เพราะว่าทุกคนจงใจที่จะเอาใจเขา ให้เขาได้ใจ เพียงแต่น่าเสียดาย ตอนนี้ตัวนางได้เป็นตัวถ่วงเล็กๆ ที่ตามติดอยู่ข้างหลังเขาเหมือนหมาป่าหางใหญ่ก็ไม่ปาน คงจะเป็นอุปสรรคต่อการแสดงฤทธิ์เดชของเขาเป็นแน่

ยิ่งไปกว่านั้นเหลิ่งชิงฮวนพบสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออย่างหนึ่ง นั้นก็คือเป้าหมายของอีกฝ่ายดูเหมือนจะเป็นตัวเอง? พวกเขาไม่ได้เล็งที่จะลงมือมู่หรงฉี แต่ดาบกลับพุ่งเป้ามาที่ตัวเองงั้นเหรอ? กำลังเล่นงูกินห่างกันอยู่หรือไง?

ตนเองนอกจากจะหาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และทำให้เหลิ่งชิงหลางกับจินเอ้อร์ถูกทำโทษ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เคยหาเรื่องกับบุคคลที่มีอำนาจคนอื่นมาก่อนเลยนะ? ทำไมถึงได้ส่งนักฆ่าฝีมือฉกาจมาลอบสังหารตนเองด้วยล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น นี่มันอยู่ในค่ายทหารเลยนะ ถึงจะเป็นกลุ่มหน่วยกล้าตายก็ไม่มีทางส่งคนมาตายเล่นแบบนี้

มู่หรงฉีที่มีเพียงสองมือจะไปสู้กับกำลังคนที่มีมากมายเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ต้องมาเผชิญหน้ากับการลอบโจมตีพร้อมๆ กันของอีกฝ่าย จริงๆ ก็รับมือได้ไม่ยาก แต่เมื่อต้องมาปกป้องเหลิ่งชิงฮวนด้วย ทำให้รับมือไม่ไหว

เหลิ่งชิงฮวนแบะปาก แม่งเอ๊ย เป็นเสือไม่แสดงพลังออกมาได้ไง รู้สึกว่าจะมองข้าเป็น Hello Kitty งั้นหรือ?

เมื่อนางเห็นโอกาส จึงหยิบเข็มเงินออกมาจากแหวนวงเล็กๆ เป็นเข็มเงินที่ชุบด้วยยาสลบสูตรพิเศษ ดังนั้นล้มหมูสักตัวยังไม่มีปัญหาเลย

มีคนคนหนึ่งพุ่งเข้ามาคนแรกถึงที่อย่างไม่กลัวตาย เขาหลบดาบที่อยู่ในมือของมู่หรงฉีมาได้ เมื่อพบช่องโหว่ จึงมุ่งมาที่ด้านหลังของเขา ดาบยาวๆ ในมือยกขึ้นเหนือหัวใจของเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะอย่างเย็นชา และปาเข็มเงินออกไป พุ่งเข้าใส่รักแร้ที่ด้านล่างอันว่างเปล่าของคู่ต่อสู้

อีกฝ่ายเป็นถึงยอดฝีมือที่เก่งกาจ แต่ไม่ได้ทำการระวังเหลิ่งชิงฮวนเลย เมื่อถูกนางลอบทำร้าย แขนทั้งข้างก็รู้สึกสูญเสียความรู้สึกไปก่อน ปลายดาบสูญเสียความแม่นยำและพละกำลังอ่อนแรง

มือที่เร็วเหมือนดังงูว่ายอยู่ในน้ำของเหลิ่งชิงฮวน โจมตีเข้าไปที่ข้อมือของอีกฝ่ายโดยไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด ดาบยาวๆ ในมือของอีกฝ่ายเปลี่ยนเจ้าของแล้ว จากนั้นนางก็ยกเขาผ่านไหล่ขึ้นมาอย่างงดงาม ร่างทั้งร่างของมือสังหารถูกยกข้ามหัวไหล่ไป หลังของเขากระแทกลงกับ อยู่ที่พื้นอย่างทุลักทุเลแบบนั้น ก่อนที่ดาบยาวจะพาดไปที่ลำคอของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา