ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 544

เพราะป่วยเข้าขั้นวิกฤติจึงไปหาหมอมั่วๆ น่าเยี่ยไป๋พยักหน้าโดยไม่ต้องคิด “ตกลง เราจะเริ่มการรักษาได้เมื่อไหร่”

“ทูตของหนานจ้าวจะมาถึงเมืองหลวงในอีกสองวัน หลังจากการเจรจาสงบศึก ข้าจะเริ่มทำการรักษาให้”

น่าเยี่ยไป๋ยิ้ม “รัชทายาทมองคนไม่ผิดจริงๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องมีวิธี”

เหลิ่งชิงฮวนกะพริบตา “เจ้ายั่วยุให้เกิดสงครามระหว่างสองแคว้นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งส่งผลให้ทหารจำนวนมากเสียชีวิต ต้องสูญเสียหลายเมืองในหนานจ้าวไปเพื่อรักษาราชวงศ์และที่อยู่อาศัยของชาวหนานจ้าวเอาไว้ น่าเยี่ยไป๋ เจ้าไม่สำนึกบ้างเลยหรือ?”

เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาของเหลิ่งชิงฮวน น่าเยี่ยไป๋ก็ไม่ได้สนใจ “หนานจ้าวเป็นของตระกูลข้า ขอเพียงแค่ข้า น่าเยี่ยไป๋ยังอยู่ดีมีสุข จึงจะสามารถปกป้องพวกเขาและปกป้องแคว้นได้ การเสียสละทั้งหมดนั้นคุ้มค่า”

น่าเยี่ยไป๋ไม่ปกปิดความเห็นแก่ตัวของเขา และรู้สึกว่าการเสียสละของหนานจ้าวนั้นคุ้มค่า

เหลิ่งชิงฮวนไม่รู้จะพูดอะไรซ้ำสอง จึงจ่ายยาไว้ให้เขาก่อนจะกำชับเรื่องการเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดแล้วออกไป

ถ้าเธออยู่ต่อคงไม่อาจช่วยชีวิต แต่เธออาจจะทนไม่ไหวจนต้องฆ่าคน

เจ้าน่าเยี่ยไป๋กวนโอ๊ยเสียจริง

สองวันต่อมา ราชทูตของหนานจ้าวก็มาถึงเมืองหวง

ฮ่องเต้จัดงานเลี้ยงในตำหนักหมิงเต๋อในพระราชวังเพื่อต้อนรับราชทูต

เนื้อหาของการเจรจาสันติภาพได้รับการเจรจาในศาล และมีการเรียกร้องค่าเสียหาย หน้าที่นี้จึงตกเป็นของเสนาบดีเหลิ่งและเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนไม่รู้ว่าเธอมีคุณธรรมและความสามารถอะไรให้ฮ่องเต้จดจำเธอได้เด่นชัดเช่นนี้ เธอเดาว่าสิ่งเดียวที่เธอทำได้ดีคือการแกล้งบ้า ดังนั้นการเจรจาในครั้งนี้การตบโต๊ะชี้หน้าด่าทออีกฝ่ายคงเป็นหน้าที่สำคัญของเธอ

เธอไม่รู้ว่าราชทูตที่หนาวจ้าวส่งมาครั้งนี้จะเป็นใคร หากเป็นคนจำพวกเดียวกับน่าเยี่ยไป๋ที่ทั้งอ้อนแอ้นและเสแสร้ง เธอคงจะไม่ต้องแสดงละครอะไร เพราะเธอคงเก็บสีหน้าที่แท้จริงไว้ไม่ไหว

หลังจากที่คณะทูตเข้าสู่เมืองหลวง สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำคือเข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่พระราชวัง เพื่อดูพลังที่ยิ่งใหญ่และฝีปากที่เก่งกล้าของฉางอัน

หลังจากการว่าราชการจบลง ฮ่องเต้ก็ย้ายไปที่ตำหนักหมิงเต๋อ และจัดงานเลี้ยงต้อนรับทูต งานนี้จัดเต็มทั้งน้ำใจและการตบหน้าอย่างนุ่มนวล

แม้ว่าเหลิ่งชิงฮวนจะต้องเผชิญหน้ากับอันตราย แต่โถงนี้ไม่ใช่สถานที่ที่เธอเข้าออกบ่อยๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ชายชรามอบหมายให้เธอพาเสี่ยวอวิ๋นเช่อมาที่นี่ เธอก็คงจะตรงไปที่โถงแล้ว

ทันทีที่เสี่ยวอวิ๋นเช่อเข้าไปในพระราชวัง เขาก็ถูกฮองเฮาตัดขาดจนเกือบจะถูกสี่กงกงพาตัวไป

ระหว่างทางเหลิ่งชิงฮวนได้พบกับเพื่อนเก่า คนที่อยู่ห่างออกไปโบกมือให้เธออย่างตื่นเต้น ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ และวิ่งเข้าหามาหาเธอ

จนกระทั่งนางเข้ามาใกล้ เหลิ่งชิงฮวนจึงจำได้ว่าเป็นชายารองของอ๋องเฮ่า น้องสาวคนที่สามของเธอ เหลิ่งชิงเหยา

เหลิ่งชิงเหยาไม่ได้เปลี่ยนไปมากจากเมื่อห้าปีที่แล้ว แม้ว่านางจะเกล้าผมเป็นมวย ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย แต่คิ้วและดวงตาของนางก็ยังมีความคมชัดอยู่

หลังจากที่เหลิ่งชิงฮวนกลับมาที่เมืองหลวง เธอก็ยังไม่เคยพบหน้าชิงเหยา เพียงแค่ได้ยินฉู่รั่วซีเอ่ยถึงนาง หลังจากที่เหลิ่งชิงเหยาแต่งเข้าจวนอ๋องเฮ่า นางกับพระชายาอ๋องเฮ่าก็เข้ากันได้ดี ทุกๆ ปีนางจะเตรียมของขวัญและพาเหลิ่งชิงเหยากลับไปเยี่ยมเยียนที่จวนมหาเสนาบดี

ผนวกกับความรู้ความสามารถของอ๋องเฮ่า ทำให้เสนาบดีเหลิ่งพอใจกับลูกเขยคนนี้มาก เซวียอี๋เหนียงเองก็ใช้ประโยชน์นี้ แม้ว่านางจะเป็นเพียงสนมและอำนาจในจวนก็ตกเป็นของฉู่รั่วซี แต่ตำแหน่งของนางในจวนนั้นกลับยังมั่นคง

และเสนาบดีเหลิ่งก็ไม่ได้แต่งใครเข้ามาในจวนอีก นางจึงโดดเด่นอยู่เพียงผู้เดียว

แต่ว่าสิ่งเดียวที่ไม่น่าพอใจคือ เหลิ่งชิงเหยาแต่งกับอ๋องเฮ่ามานานแล้ว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีทายาทสักที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา