น่าเยี่ยไป๋ถูกเมินเฉยใส่และในที่สาธารณชนเช่นนี้ตนเองยังไม่สามารถควบคุมน้องสาวของตัวเองเอาไว้ได้ ทำให้สีหน้ายิ่งอึมครึมขึ้นไปอีก
“ท่านอ๋องฉีกับพระยาชาฉีเป็นคู่สามีภรรยาที่มีความรักกันอย่างลึกซึ้ง แน่วแน่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ทำไมเจ้าถึงต้องหาเรื่องให้ลำบากใจด้วยเล่า? บุรุษดี ๆ ในฉางอันมีต้องมากมาย พี่ชายคนนี้จะเลือกหาคนดี ๆ ให้เจ้า จะต้องไม่ด้อยไปกว่าท่านอ๋องฉีอย่างแน่นอน”
น่าจาอี๋นั่วพูดจาเหยียดหยันกลับอย่างเจ็บจี๊ด “เมื่อก่อนไม่ใช่ท่านพี่หรอกหรือที่เคยสอนอี๋นั่ว? หากชอบสิ่งใดต้องต่อสู้แย่งชิงมาให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม แม้กระทั่งต้องใช้การบังคับหรือใช้อำนาจบีบก็ต้องเอามาให้ได้ อี๋นั่วจดจำคำสั่งสอนของท่านพี่เสมอมาและยึดถือท่านเป็นแบบอย่าง”
คำพูดนี้ทำเอาน่าเยี่ยไป๋ถึงกลับสะอึกพูดอะไรไม่ออก หากในตอนนั้นเขาไม่ยืนกรานและฟังคำเกลี้ยกล่อมของน่าจาอี๋นั่วและไม่ปฏิเสธที่จะปล่อยเหลิ่งชิงฮวนไป หายนะในครั้งนี้ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น
เหลิ่งชิงฮวนก้มศีรษะลงหัวเราะแปลก ๆ
บางทีคนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่เธอรู้จักความสัมพันธ์ของพวกเขาสองพี่น้องนี้ดีกว่าใคร ๆ น่าจาอี๋นั่วเปรียบเสมือนแม่ไก่ที่เพิ่งฟักลูกไก่ออกมา แม้ว่าจะเสี่ยงชีวิตเฉียดตายแค่ไหนก็จะปกป้องน่าเยี่ยไป๋ให้ปลอดภัยให้ได้ แต่วันนี้กลับไม่ไว้หน้าสักนิดดูเหมือนว่าจะเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นเสียแล้ว
น่าจาอี๋นัวมองไปที่เหลิ่งชิงฮวนอย่างท้าทายพร้อมเอ่ยออกมาทีละคำ “มาแข่งกับข้า ถ้าสมมุติว่าท่านชนะข้า ข้าจะเป็นฝ่ายถอยออกมา แต่หากสมมุติว่าข้าชนะท่าน ท่านต้องเป็นฝ่ายถอยไป เป็นอย่างไร?”
“ไม่อย่างไรหรอก?” เหลิ่งชิงฮวนปฏิเสธโดยไม่คิดสักนิด “ที่นี่คือฉางอัน กฎของเกมไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะเป็นคนกำหนดได้ และท่านอ๋องฉีก็ไม่ใช่ของที่ข้ากับท่านมาใช้เดิมพันไม่แต่งก็คือไม่แต่ง ไม่ลงรอยกันก็คือไม่ลงรอย ต่อให้ท่านเก่งกาจแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา ทำไมข้าต้องยอมรับคำท้าทายจากท่านด้วย?”
“ท่านกลัวหรือ?”
เหลิ่งชิงฮวนยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ในเมื่อองค์หญิงอี๋นั่วมีความมั่นใจเช่นนี้ เหตุใดต้องมาขอให้คนฉางอันอย่างข้ารักษาโรคหัวใจขององค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์กันเล่า? เจ้าก็รักษาอาการป่วยให้หายดีด้วยตนเองไปเลยสิ”
น่าจาอี๋นั่วสะอึกทันที “ทุกคนมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง เหตุใดต้องมาพูดเหมารวมด้วย?”
“ในเมื่อองค์หญิงอี๋นั่วเข้าใจในจุดนี้ ทำไมต้องมาแข่งขันหาคนเก่งกว่าด้วยเล่า? ต้องขออภัยที่ไม่อาจเข้าร่วมด้วยได้”
เสี่ยวอวิ๋นเช่อถอนหายใจอย่างเศร้าใจ “ท่านแม่ของข้าเคยกล่าวเอาไว้ว่า นางไม่ชอบเด็กที่ชอบเถียง ดังนั้นข้าจึงไม่อยากได้ท่านเป็นภรรยาแล้ว เพื่อที่จะได้ไม่มาทำให้ท่านแม่ของข้าโมโหและพาลมาโกรธเคืองใส่ข้าด้วย มิน่าล่ะทำไมท่านถึงแต่งไม่ออกเสียที”
ฝีปากที่คมคายเหมือนดั่งมีดของเจ้าหนูน้อยของตัวเองพัฒนามากขึ้นใช้ได้เลยทีเดียว? เหลิ่งชิงฮวนลูบศีรษะของเขาและยิ้มอย่างเอ็นดู “เด็กดี เดี๋ยวแม่จะหาคนที่เข้าใจผู้อื่นและมีเหตุมีผลให้เจ้าแต่งงานด้วย”
น่าจาอี๋นั่วไม่มีทางยอมแพ้จึงหันหน้าไปทางฮ่องเต้ที่กำลังชมละครอยู่และทูลให้ทรงทราบ “น่าจาอี๋นั่วขอให้ฝ่าบาทช่วยตัดสินพระทัยให้ด้วยเพคะ หม่อมฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์จากพระชายาฉี ฝ่าบาทคงจะไม่ตระหนี่ใช่หรือไหมเพคะ?”
ในที่สุดฮ่องเต้เฒ่าก็มีโอกาสเสียที เขาดูคึกคักไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจสักนิด “ขอเพียงปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง จึงจะสามารถขัดเกลาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกได้ หากสามารถเติมเต็มจุดด้อยของกันและกันได้ ข้าคิดว่าทำอย่างนั้นย่อมได้”
น่าจาอี๋นั่วทนต่อไปไม่ไหวรีบเอ่ยออกมาในทันที “ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท”
ฮ่องเต้หันพระพักตร์ไปมองชิงฮวน “เห็นแก่ที่องค์หญิงอี๋นั่วยอมที่จะมาขอเจ้าเป็นอาจารย์เช่นนี้ พระชายาฉีก็จงฝืนใจทำเสียหน่อยเถอะน่า ช่วยกางแขนรับลูกศิษย์คนนี้เอาไว้เถอะ?”
......
เหตุใดฮ่องเต้ท่านนี้ถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้? องค์หญิงเขาบอกว่าอยากจะศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ทำไมคำพูดที่พระองค์ตรัสออกมาถึงได้กลายเป็นกราบไหว้เป็นอาจารย์ไปได้ล่ะ?
น่าจาอี๋นั่วรู้สึกไม่มีอะไรจะพูดกับพฤติกรรมที่เล่นลิ้นของฮ่องเต้ที่ทำเพื่อปกป้องคนของตนเอง ดังนั้นจึงได้แต่ฝืนกลืนความโมโหลงคอแล้วพูดว่า “สมมุติว่าพระชายาฉีสามารถเอาชนะอี๋นั่วจนทำให้อี๋นั่วยอมเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจได้ ถ้าเช่นนั้นอี๋นั่วยินดีจะเคารพกราบพระชายาฉีเป็นอาจารย์”
ลูกศิษย์คนนี้เหลิ่งชิงฮวนไม่กล้ารับเอาไว้ มิฉะนั้นวันใดวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วอาจจะถูกลูกศิษย์ปีนเกลียวทำลายล้างบรรพจารย์ได้ ดูตัวอย่างเช่นครั้งนั้นที่นางกระทำการล้มล้างลักธิของนักบุญหญิง
ฮ่องเต้ตัดสินใจด้วยตัวเองทันที “เรื่องนี้ก็เอาตามนี้ ทักษะทางการแพทย์มีไว้เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร์ พระชายาควรเผยแพร่แบ่งปันออกมา ไม่ควรจะเก็บกักเอาไว้เช่นนี้ ถ้าสมมุติว่าเจ้าเป็นฝ่ายชนะขึ้นมา น่าจาอี๋นั่วย่อมต้องก้มหัวลงกราบเคารพเจ้าเป็นอาจารย์ หากเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ขึ้นมา เรื่องการแต่งงานของฉีเอ๋อร์ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของข้าแล้ว”
เหลิ่งชิงฮวนถึงกับพูดอะไรไม่ออก ตัวเองที่เป็นเจ้าของเรื่องยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเลย ทำไมเรื่องนี้ถึงสรุปไปแล้วล่ะ? มีสิทธิ์อะไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...