ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 557

หากไม่ช่วยความสัมพันธ์ของตัวเองกับน่าจาอี๋นั่วก็จะตัดกันไม่ขาด ซึ่งอาจจะทำลายอนาคตของมู่หรงฉีได้

แต่หากน่าเยี่ยไป๋ตายไป ก็จะทำให้การเจรจาอย่างสันติทำได้ยาก

ถึงอย่างไรหนานจ้าวก็ได้ยื่นหนังสือยอมจำนนมาแล้ว เพราะนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะต่อต้านได้ เหตุผลหลัก ๆ ก็เป็นเพราะน่าเยี่ยไป๋กลายมาเป็นเชลยของฉางอันแล้ว แต่หากพวกเขาไม่มีอะไรให้ต้องความพะว้าพะวังแล้วล่ะก็ คงไม่มีทางปล่อยให้ฉางอันเข่นฆ่าได้ตามใจ สงครามอาจจะต้องดำเนินต่อไป

สงครามและการบาดเจ็บล้มตายเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเห็น

ในเมื่อน่าจาอี๋นั่วเลือกที่จะทำเช่นนี้ คงต้องเตรียมใจพร้อมที่จะทุบหม้อข้าวหม้อแกงตัวเองเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นฐานะของนางยังไม่เพียงพอที่จะให้หนานจ้าวกังวลจนกลัวที่จะลงมือโจมตีได้

ระหว่างประเทศชาติกับความแค้นส่วนตัว จะเลือกอย่างไรดี?

เหลิ่งชิงฮวนลืมตาขึ้น นางไม่หลงเหลือความสับสนและลังเลใจอีก

ช่วย จำเป็นต้องช่วย และต้องช่วยให้มีชีวิตด้วย

จะต้องไม่ปล่อยให้น่าจาอี๋นั่วมาควบคุมจุดอ่อนของตัวเองได้อย่างเด็ดขาด

เธอเริ่มช่วยเหลือจิ่นอวี๋ต่อ ส่วนคำพูดของน่าจาอี๋นั่วที่พูดมาก็ทำการโยนทิ้งไปไม่ปล่อยให้รกสมองต่อไปอีก

น่าจาอี๋นั่วรู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย นางคิดไม่ถึงว่าเหลิ่งชิงฮวนจะโง่เขลาได้ขนาดนี้ ยังเลือกที่จะรักษาคนที่มีความเคียดแค้นต่อกันอย่างลึกซึ้งกับตัวเองและเป็นคนที่จ้องแต่จะทำร้ายตัวเอง

“ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา จิ่นอวี๋ได้บอกเกี่ยวกับข้อบกพร่องของท่านกับมู่หรงฉีให้ข้าฟัง นางบอกว่าท่านชอบทำสิ่งต่าง ๆ ตามใจตัวเองและไม่กลัวขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคม ข้าคิดว่าครั้งนี้ข้าจะต้องชนะอย่างไม่ต้องสงสัย”

เหลิ่งชิงฮวนพูดอย่างเย็นชา “นางอาจจะยังไม่เข้าใจข้าดีก็เป็นได้”

น่าจาอี๋นั่วส่งเสียฮึดฮัดเบา ๆ “ธูปกำลังจะมอดหมดแล้ว ท่านคงแก้อาการหนอนพิษกู่ของข้าไม่ได้”

เหลิ่งชิงฮวนไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย ถึงขนาดไม่มีข้อมูลอะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกนพลังชีวิตของกู่ที่น่าจาอี๋นั่วพูดถึงมันคืออะไรกันแน่ เธอเองยังไม่รู้แน่ชัด

น่าเยี่ยไป๋ไม่ใช่บอกว่าเป็นตั๊กแตนตำข้าวหรือ?

ทำไมถึงกลายเป็นหนอนได้เล่า?

ตัวเองเชื่อในคำพูดของเขา จึงใช้เลือดเม่นมาทำเป็นตัวยา จึงหลงกลของน่าจาอี๋นั่วซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเช่นนั้นคำพูดของเขาจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนกัน?

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามท่าทีของเธอนั้นยังคงเด็ดเดี่ยวแน่วแน่และยังคงพยายามอย่างเต็มที่ต่อไป จะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย

ในตอนนี้นี้เองจิ่นอวี๋ฟื้นกลับมาหายใจและหัวใจก็เต้นขึ้นมาเบาๆแล้ว นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

ดวงตาของนางว่างเปล่ามาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะเปล่งประกายมีหลากหลายความรู้สึกและดูมีชีวิตชีวา แต่มันไม่ได้เป็นสีเทาขุ่นๆเหมือนแม่หมอร่างทรงวิญญาณในตอนนั้น มันดูปกติมาก ถ้าหากไม่ได้สังเกตดี ๆ ก็จะไม่พบว่านางเป็นคนตาบอดคนหนึ่ง

จิ่นอวี๋ถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ ตอนที่พูดจาดูค่อนข้างอ่อนแรง แต่ยังกัดฟันอดทนราวกับว่ากำลังใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างกายที่มี

“ข้ารู้ว่าเป็นเจ้าเหลิ่งชิงฮวน ข้าไม่สนใจความมีเมตตาของเจ้าและไม่ต้องการให้เจ้ามารักษาด้วย”

“เลิกพูดจาไร้สาระ และหุบปากซะ!” เหลิ่งชิงฮวนพูดอย่างเย็นชา

“ต่อให้เจ้าช่วยข้ามาได้ ข้าก็จะหาโอกาสที่จะฆ่าเจ้าอยู่ดี ข้ากับเจ้าไม่มีวันอยู่ร่วมโลกกันได้”

นี่ก็คือจิ่นอวี๋ ซึ่งแตกต่างจากเหลิ่งชิงหลาง นางยังคงรักษาศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจสุดท้ายของตัวเองไว้อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีชีวิตเป็นเดิมพัน ก็ไม่ร้องขอความเมตตาจากตัวเอง

“เช่นกัน ต่อให้ข้าช่วยชีวิตท่านเอาไว้ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะให้อภัยให้ เจ้ายังต้องชดใช้กรรมในสิ่งที่เจ้ากระทำเอาไว้ในตอนนั้น”

จิ่นอวี๋ไม่ได้พูดอะไรอีก แค่เบิกตาโตอย่างว่างเปล่าและมองไปด้านบนอย่างเหม่อลอย ลูกตาในนัยน์ตาหยุดนิ่งไม่ขยับเขยื้อนดูเหมือนคนไม่มีชีวิต ราวกับว่าตายไปแล้วยังไงยังงั้น

นางเพียงแต่กัดกระพุ้งแก้มแน่นอยู่ตลอดเวลา

ในเมื่อนางได้สติมาแล้ว เหลิ่งชิงฮวนก็จะเริ่มลงมือกำจัดหนอนพิษกู่ในร่างกายของนาง

เมื่อเธอผิวปากจนเสียงดังก้อง น่าจาอี๋นั่วก็ได้ยินเสียงดังหึ่ง ๆ ขึ้นบนเหนือศีรษะ พอลองเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นกลุ่มผึ้งสีดำ เป็นก้อนๆคล้ายก้อนเมฆสีดำ มันเคลื่อนตัวอยู่เหนือศีรษะไม่หยุด

นอกจากนี้ผึ้งเหล่านี้ไม่ใช่ผึ้งธรรมดาแต่เป็นตัวต่อที่มีส่วนหัวแข็งแรงกว่าผึ้งเสียอีก

น่าจาอี๋นั่วเม้มริมฝีปาก แล้วพ่นคำพูดออกมาประโยคหนึ่ง “ใช้เหล็กตัวต่อรักษา?”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ตอบคำถามของนางแต่อย่างใด

“เหล็กในของตัวต่อมีพิษสูงและมีปริมาณมากขนาดนั้น ท่านไม่กลัวว่าจะต่อยนางจนตายไปหรือ?” สีหน้าของน่าจาอี๋นั่วดูไม่ค่อยดีนัก

เหลิ่งชิงฮวนมองแต่ไม่ได้สนใจ ในใจย่อมรู้อยู่แล้ว เมื่อนางโบกมือ ตัวต่อก็กระโจนเข้าหาจิ่นอวี๋ที่อยู่บนเปลหามทันที และพุ่งลงมาบนตัวนางเต็มไปหมด

จิ่นอวี๋ส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดทันที เจ็บปวดจนต้องขดตัวเอาไว้ แต่กลับไร้เรี่ยวแรงที่จะดิ้นรน

เหล็กในที่หางมีพิษ แต่สามารถปรับเลือดลมได้ ทำให้เส้นลมปราณอบอุ่นขึ้น และขจัดสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และพิษกู่ของน่าจาอี๋นั่วก็เป็นสิ่งชั่วร้าย ใช้พิษต้านพิษ หากใช้ในปริมาณที่พอดีสามารถกำจัดและล้างพิษได้

แต่ว่านี่ไม่ใช่ความตั้งใจจริงของเหลิ่งชิงฮวน เพราะเธออยากลองอะไรที่มันกล้าหาญมากกว่านั้น

ธูปจวนจะมอดหมดแล้ว เหลือเพียงความหนาเท่านิ้วก้อยเท่านั้น

น่าจาอี๋นั่วก็เปลี่ยนจากที่มีท่าทีสบาย ๆ และสงบนิ่งในตอนนั้นเปลี่ยนมาเป็นตึงเครียดขึ้นมาทันที

สมมุติว่าหากเหลิ่งชิงฮวนชนะการแข่งขันครั้งนี้ แผนการทั้งหมดของนางที่มีก็จะล้มเหลวลง และยิ่งไปกว่านั้นการกระทำเช่นนี้ของเหลิ่งชิงฮวนทำให้นางเหมือนอยู่ในหมอก นางอ่านไม่ออกจริงๆว่านางกำลังทำอะไร

หลังจากคนถูกต่อยแล้ว พวกมันก็บินวนอยู่เหนือม่านรอบหนึ่งก่อนที่จะพากันตกสู่พื้น หลังจากนั้นก็ดิ้นรนสองสามครั้งก่อนจะตายลง

เหลิ่งชิงฮวนใช้แหนบทางการแพทย์ลอกท้องของต่อออก จนสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้เลยว่า มีหนอนตัวเล็กๆคล้ายเส้นผมกำลังดิ้นอยู่

เธอหัวเราะอย่างเย็นชา “ที่แท้สิ่งที่องค์หญิงอี๋นั่วเลี้ยงเป็นหนอนพิษกู่ตัวตนจริงๆก็คืองูกกคอนั้นเอง แต่มันกลายพันธุ์วิวัฒนาการเปลี่ยนรูปเป็นอย่างอื่นแล้ว”

น่าจาอี๋นั่วรีบเด้งตัวขึ้นมาทันทีและก้าวถอยหลังไปสามก้าว “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ท่านรู้ได้อย่างไร?”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองด้วยซ้ำ แต่ทำการผสมยาไปพลางและพูดอย่างรวดเร็วไปพลาง “องค์รัชทายาทบอกว่าแกนพลังชีวิตกู่ของท่านก็คือตั๊กแตนตำข้าวตัวหนึ่ง ในตอนนั้นข้าก็สงสัยแล้ว ว่าท่านทำอย่างไรถึงใช้ตั๊กแตนตำข้าวตัวหนึ่งมาควบคุมสติสัมปชัญญะของคนอื่นได้?

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตั๊กแตนตำข้าวเป็นเพียงที่พักอาศัยของงูกกคอเท่านั้น งูกกคอเป็นปรสิตที่อยู่ในตั๊กแตนตำข้าว มันจะกินสารอาหารที่อยู่ในร่างกายของร่างที่มันไปอาศัย ควบคุมร่างที่มันอาศัยให้กลายเป็นศพเดินได้ หลังจากโตเต็มที่แล้ว ก็จะทำให้ร่างที่มันเข้าไปอยู่ลงสู่น้ำและจมน้ำตาย จากนั้นมันก็จะสามารถแตกตัวออกมาวางไข่ในน้ำเพื่อเจริญพันธุ์ต่อ

ยิ่งไปกว่านั้นงูกกคอนั้นแข็งเหมือนลวดเหล็ก พลังชีวิตนั้นแข็งแกร่งมาก ในห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิตแทบจะไม่มีศัตรูตามธรรมชาติเลย ดังนั้นจึงบอกได้เลยว่ามันเป็นหนอนพิษกู่โดยธรรมชาติอยู่แล้ว

ท่านใช้ตั๊กแตนตำข้าวเลี้ยงเป็นอาหารและทำให้งูกกคอปรสิตกลายพันธุ์ จากนั้นก็นำมันไปฝังเข้าในร่างกายของจิ่นอวี๋ ทำให้นางขาดสารอาหาร และเมื่อตัวต่อของข้าเอาเหล็กต่อยเข้าไปในร่างกายของจิ่นอวี๋ พิษของเหล็กในของตัวต่อที่ฉีดเข้าไปจึงเป็นสารอาหารใหม่สำหรับพวกมัน

และสัตร์จำพวกไม่มีกระดูกสันหลังทุกชนิดสามารถเป็นร่างของงูกกคอปรสิตนี้ได้ทั้งสิ้น พวกมันจึงฉวยโอกาสบุกเข้าไปในร่างต่ออย่างบ้าคลั่ง ตัวต่อไม่สามารถทนรับได้ ดังนั้นพวกมันจึงตายลงทันทีหลังจากที่ได้รับพาหะมา มันก็ง่ายๆอย่างนี้แหละ

ดังนั้นแกนพลังหนอนพิษกู่ของท่านก็คืองูกกคอที่น่ากลัวเหล่านี้ ตอนนี้ลูกกู่ที่เพาะพันธุ์อยู่ในร่างเดิมคงถูกดูดออกมาโดยฝูงผึ้งทั้งหมดนี้แล้ว เหลือเพียงแกนพลังกู่ดั้งเดิมของท่าน หากกำจัดมันสำหรับข้าแล้วมันง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ

น่าจาอี๋นั่ว ท่านแพ้แล้ว คนที่มีคุณธรรมย่อมได้รับความช่วยเหลือมากมาย คนที่ไม่มีคุณธรรมย่อมไร้ซึ่งคนช่วยเหลือ แม้แต่พี่ชายแท้ๆของท่านก็พยายามทำลายท่าน แผนการของท่านถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องล้มเหลว”

น่าจาอี๋นั่วกัดฟันแน่นพูดอย่างเคียดแค้น “เขาบอกเรื่องนี้กับท่านด้วยงั้นหรือ!”

แกนพลังชีวิตกู่ของนางก็คืองูกกคอจริงๆนั่นแหละ หรือที่เรียกว่าหนอนไส้เดือนฝอย เมื่อหนอนไส้เดือนฝอยที่นางเพาะพันธุ์เอาไว้เข้าสู่ร่างกายมันก็จะเติบโตเต็มวัยมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะครอบครองอวัยวะภายในของผู้ที่โดนกู่และควบคุมความคิดของคนผู้นั้น

จนกระทั่งท้ายที่สุด เมื่อสารอาหารในร่างกายของเหยื่อถูกดูดซึมจนหมดสิ้น หนอนพิษกู่ก็แทบจะอดทนรอไม่ไหวที่จะทะลวงตัวออกมาจากร่างกาย และมองหาสารอาหารใหม่ที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองดำรงต่อไปได้ โดยการชักจูงเหยื่อให้ฆ่าตัวตาย

เหยื่อที่โดนหนอนพิษกู่จะสูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง เมื่อดึงหนอนไส้เดือนฝอยนี้ออกมาจากคอ คนนอกมองมาก็เหมือนกับดึงด้ายออกมาอย่างต่อเนื่อง ดึงยังไงก็ดึงไม่หมด เมื่อรอจนถึงท้ายที่สุด อวัยวะภายในของเหยื่อก็จะว่างเปล่าไม่มีอะไรเหลือ

นี่คือหนอนไส้เดือนกู่ที่ชาวหนานจ้าวคนไหนที่ได้ยินก็ต้องตกใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา