อ่านสรุป ตอนที่ 558 ก้มหัวกราบอาจารย์ จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล
บทที่ ตอนที่ 558 ก้มหัวกราบอาจารย์ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฉลิมพล อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
และแกนพลังกู่ที่ถูกเรียกว่าแกนพลังกู่นั้นก็เป็นเพราะว่ามันมีพลังชีวิตที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน
หากเหลิ่งชิงฮวนฆ่าแกนพลังกู่ของน่าจาอี๋นั่ว ถ้าเช่นนั้นน่าจาอี๋นั่วก็จะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเช่นกัน ดังนั้นนางถึงบอกว่าน่าเยี่ยไป๋นั้นโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่สนใจความเป็นพี่เป็นน้องสักนิด
เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ตอบคำถามของนาง พี่น้องสองคนก็พอ ๆ กันไม่ต่างกันมาก พวกเขาทั้งสองคนไม่มีใครไม่คำนึกถึงผลประโยชน์ของตัวเองกันทั้งสิ้น? เพียงแต่ว่าจุดจบของน่าจาอี๋นั่วนั้นน่าสงสารมากกว่าก็เท่านั้นเอง
ศีรษะของน่าจาอี๋นั่วปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ เพราะรู้ว่าครั้งนี้ตนเองได้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
“หยุดมือ!” นางพูดออกมาทีละคำ “ข้ายอมแพ้แล้วข้าจะเรียกแกนพลังกู่ของตัวเองกลับมา”
เหลิ่งชิงฮวนค่อย ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอก็กำลังเดิมพันอยู่เช่นกัน เพราะว่างูกกคอเหล่านี้ได้กลายพันธุ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนรูปร่างเดิมไปเท่านั้น แต่ในร่างกายยังมีสารพิษอีกด้วย สิ่งที่ตัวเองเคยบอกว่า “ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือนั้น” ก็ทำไปเพียงแค่สร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาเท่านั้น เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวยาที่ตัวเองผสมปรุงขึ้นมาจะสามารถฆ่าพญาหนอนพิษกู่ในร่างของจิ่นอวี๋ได้อย่างรวดเร็วหรือไม่
ถึงอย่างไรเสียก็มีเวลาเหลือไม่มากแล้ว
สุดท้ายแล้วน่าจาอี๋นั่วก็ไม่กล้าเอาชีวิตของตัวเองมาเดิมพัน
หัวธูปในตอนนี้มอดไหม้อยู่ครู่หนึ่งแล้วดับไป
การแข่งขันสิ้นสุดลง
ฮ่องเต้และคนอื่น ๆ ที่อยู่นอกกระโจม จ้องมองมาที่กระโจนอย่างตื่นเต้น และตั้งตารอผลของการแข่งขันในครั้งนี้
พวกเขาได้ยินสิ่งที่น่าจาอี๋นั่วและเหลิ่งชิงฮวนพูดอยู่ข้างในไม่ชัดเจน ได้ยินแต่เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดในตอนช่วงท้ายของจิ่นอวี๋เพียงเท่านั้น คิดว่าคราวนี้เหลิ่งชิงฮวนน่าจะแพ้เสียแล้ว
วิชาหนอนพิษกู่ของหนานจ้าวสำหรับพวกเขาแล้วนั้นลึกลับอย่างมาก สิ่งที่พวกเขาไม่รู้และไม่เข้าใจมักจะทำให้จิตใต้สำนึกคิดไปไกลจนสร้างมันให้มีอำนาจขึ้นมา
มีหลายคนทนรอที่จะดูเรื่องตลกของเหลิ่งชิงฮวนต่อไปไมไหว
เหลิ่งชิงฮวนกับน่าจาอี๋นั่วเลิกผ้าม่านเดินออกมา
เหล่ามหาดเล็กรีบเอาผ้าม่านออกไปอย่างรวดเร็ว สายตาของทุกคนก็มองไปที่คนที่มีผ้าขาวคลุมร่างกายอยู่บนเปลหามทันที พวกเขาประหลาดใจจนต้องร้อนอุทานออกมาพร้อมกัน
“ท่านหญิงจิ่นอวี๋!”
เป็นไปได้อย่างไร?
คนส่วนใหญ่ในท้องพระโรงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่จวนอ๋องฉีในปีนั้น รู้สึกสงสัยและตกใจว่าทำไมองค์หญิงที่ถูกส่งไปแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีกับมั่วเป่ยอยู่ ๆ ก็มาปรากฏตัวอยู่ที่หนานจ้าวได้
และเพราะว่าจิ่นอวี๋สูญเสียสารอาหารในร่างกายมากเกินไป ในเวลานี้สภาพจิตใจจึงยังไม่ค่อยดีมากนัก และยังอยู่ในสภาพกึ่งสลบ
น่าเยี่ยไป๋เองก็ดูออกแล้วว่า มนุษย์กู่ที่อยู่บนเปลหามก็คือสาวใช้ที่เกือบจะถูกตัวเองใช้แส้เฆี่ยนจนตายคนนั้น และเมื่อได้ยินทุกคนร้องอุทานขึ้นมา ก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
เหลิ่งชิงฮวนทำการถวายความเคารพกับฮ่องเต้ “โชคดีที่หม่อมฉันไม่ได้ทำให้เสด็จพ่อผิดหวัง ได้กำจัดพิษบนร่างกายของมนุษย์กู่สำเร็จแล้ว และด้วยความบังเอิญ คิดไม่ถึงเช่นกันว่ามนุษย์กู่คนนี้จะเป็นองค์หญิงจิ่นอวี๋ไปได้ นางได้หนีไปที่หนานจ้าวและถูกองค์หญิงอี๋นั่วช่วยเหลือไว้ วันนี้จึงกลับมาที่ฉางอันพร้อมกับพวกคณะทูต”
ช่วงเวลาที่ฮ่องเต้เห็นการปรากฏตัวของจิ่นอวี๋นั้น แม้ว่าท่าทางของพระองค์จะไม่ได้แสดงออกมาว่าตกใจเหมือนคนอื่นๆ แต่ก็ตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
พระองค์เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมถึงให้จิ่นอวี๋มาเป็นมนุษย์กู่
ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ต้องเป็นแผนการที่น่าจาอี๋นั่วเตรียมการมานานแล้วเป็นแน่ เป็นการลงมือโจมตีทางจิตกับชิงฮวน
เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ทำให้ตัวเองผิดหวังจริงๆ
เขามองไปที่เหลิ่งชิงฮวนอย่างชื่นชม ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเมื่อก่อนตัวเองกังวลมากเกินไป แม้ว่าชิงฮวนจะฉลาดและเฉียบแหลม แต่นางก็เป็นคนทำอะไรมีเหตุมีผลและเข้าใจถึงสัจธรรม ไม่แปลกใจเลยที่นางจะทำให้หลายคนประทับใจ
พระองค์ตรัสคำว่า “ดี” ติดต่อกันถึงสามครั้ง
น่าจาอี๋นั่วเป็นฝ่ายเริ่มที่จะก้าวขึ้นไปข้างหน้าและแสดงความเคารพอย่างสุดซึ้ง “เมื่อกล้าเดิมพันก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ได้ พระชายาฉีมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม อี๋นั่วแพ้และเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ ดังนั้นยินดียอมถอนตัวและไม่ไปรบกวนท่านอ๋องฉีอีก”
ฮ่องเต้เฒ่าลูบเคราพร้อมกับหัวเราะ “องค์หญิงอี๋นั่วเป็นคนตรงไปตรงมา กล้าทำกล้ารับ สมกับคำร่ำลือโดยแท้ ช่างเป็นสตรีที่เก่งกาจไม่เป็นรองบุรุษเลย เจ้าวางใจได้ ตอนที่เจ้าอยู่ที่ฉางอัน ข้าจะเลือกลูกเขยที่ดีให้เจ้าอย่างแน่นอน จะเป็นสามีภรรยารักใคร่กลมเกลียวกัน อยู่เคียงข้างกันไปจนแก่จนเฒ่า”
น่าจาอี๋นั่วไม่แสดงท่าทางลังเลแม้แต่น้อย นางขอบคุณอย่างซึ้งใจ “ขอบพระทัยฝ่าบาทมากเพคะ”
เหล่าขุนนางของฉางอันพากันยืดคอหน้าตั้งรอให้นางคุกเข่าก้มหัวคำนับเรียก “อาจารย์” ครั้งนี้เธอไม่ได้ทำเพื่อตัวเองคนเท่านั้น แต่เป็นตัวแทนของหนานจ้าวทั้งหมด
สุดท้ายก็เป็นนางที่ประเมินความสามารถของเหลิ่งชิงฮวนต่ำไป ฮ่องเต้แห่งฉางอันก็เจ้าเล่ห์จนเกินไป ทำให้ตัวเองต้องได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้ และไม่สามารถโต้กลับอะไรได้ รู้สึกอับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
ไม่เพียงแต่จิตใจของนางปั่นป่วน ภายในท้องพระโรงที่นั่งอยู่ที่นี่มีใครบ้างไม่ตกใจ?
นี่เป็นครั้งแรกที่เหลิ่งชิงฮวนออกมาปรากฏต่อสายตาทุกคนหลังจากผ่านไปเป็นเวลาห้าปี และในที่สาธารณะเช่นนี้คาดไม่ถึงว่าจะสามารถปราบฮูหยินรองของเสนาบดีกับองค์หญิงหนานจ้าวได้อย่างอยู่หมัด น่าตกใจเหลือเกิน และยังทำให้พวกเขาทั้งสองคนยอมคุกเข่าก้มหัวคำนับอย่างเชื่อฟัง
สิ่งสำคัญก็คือคนเขาไม่ได้อาศัยอำนาจแต่เป็นความสามารถล้วนๆ
เมื่อก่อนก็เคยได้ยินมาว่าพระชายาฉีคนนี้ไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องด้วยได้ แต่หลังจากห้าปีของการเปลี่ยนแปลง ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเก่งกาจมากขึ้นกว่าเดิม และฉลาดเฉียบแหลมมากขึ้นไปอีก
ต่อไปในภายภาคหน้าหากจะต้องเจอกับผู้หญิงคนนี้อีก ทางที่ดีที่สุดควรที่จะหลีกเลี่ยง อย่าได้แกว่งเท้าหาเสี้ยนเพราะอาจจะไม่รู้ว่าสุดท้ายตัวเองจะตายอย่างไร
ใบหน้าของหลี่ซ่างซูเปลี่ยนจากเขียวเป็นขาวสลับกันไปหลายครั้ง จากนั้นก็จ้องมองไปที่ฮูหยินหลี่ที่อยู่ข้างหลังด้วยความโกรธ หาเรื่องกับใครไม่ดี ทำไมต้องออกตัวเป็นหัวโจกด้วย?
ฮ่องเต้ยืนขึ้นด้วยความพึงพอใจ “วันนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว องค์หญิงอี๋นั่วก็เดินทางมาคงเหนื่อยมาก ขอให้ไปพักผ่อนในที่รับรองกันก่อน พระชายาฉีจะทำการเลือกเวลาที่เหมาะสมเพื่อรักษาโรคหัวใจขององค์รัชทายาทให้ รอร่างกายของเขาแข็งแรงแล้ว การเจรจาอย่างสันติระหว่างสองประเทศก็เป็นไปตามที่ตกลงไว้ หลังจากนี้ข้าก็จะยกจวนให้และทำการคัดสรรลูกเขยให้มาอภิเษกสมรสอย่างยิ่งใหญ่กับองค์หญิงอี๋นั่ว”
น่าจาอี๋นั่วกับน่าเยี่ยไป๋คุกเข่าลงอีกครั้งเพื่อขอบพระทัยฮ่องเต้
ฮ่องเต้ทอดพระเนตรไปที่จิ่นอวี๋ด้วยแววตาแน่นิ่ง “สำหรับสาวใช้ที่อยู่ข้างหน้าขององค์หญิงอี๋นั่ว...”
อี๋นั่วรีบพูดขึ้นมาทันที “เมื่อครู่นี้เพิ่งจะรู้ว่านางคือองค์หญิงจิ่นอวี๋ของพระองค์ อี๋นั่วไม่รู้จึงได้ทำผิดไป ต้องขออภัยที่ล่วงเกิน หม่อมฉันยอมปล่อยนางให้เป็นอิสระและให้กลับมายังพระราชวัง”
ฮ่องเต้ทรงพยักหน้าอย่างพอพระทัย “เช่นนี้ก็ขอบใจองค์หญิงอี๋นั่วอย่างมากที่ดูแลนางมาตลอดหลายปี ใครก็ได้เข้ามาพาองค์หญิงจิ่นอวี๋กลับวัง”
ทันใดนั้นก็มีขันทีก้าวเข้ามาแบกเปลของจิ่นอวี๋ที่ยังอยู่ในอาการกึ่งสลบออกไปจากท้องพระโรง
ทุกคนมองหน้ากันไปมา ต่างรู้ดีอยู่แก่ใจจากที่เห็นวิธีการที่ปรากฏตัวของจิ่นอวี๋ในวันนี้ ก็สามารถจินตนาการได้เลยว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานางคงถูกองค์หญิงหนานจ้าวผู้โหดเหี้ยมคนนี้ทรมานอะไรมาบ้าง
ทุกคนต่างถอยกลับไปอย่างรู้งานและแยกย้ายกันออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...