ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 560

ในเช้าตรู่วันต่อมา เหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีเพิ่งรับประทานอาหารเช้า ใต้เท้าหลี่จากกรมพิธีการมาถึงจวนเพื่อขอโทษด้วยตนเอง

เขากล่าวโทษฮูหยินหลี่อย่างตรงไปตรงมาต่อหน้าเหลิ่งชิงฮวน และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าตนเองได้ปลดนางออกจากการเป็นภรรยา โดยหวังว่ามู่หรงฉีจะไม่ตำหนิภรรยาของเขาเพราะความไม่รู้

เหลิ่งชิงฮวนเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมฮูหยินหลี่ถึงถูกทอดทิ้ง

ยกเว้นมู่หรงฉีที่รักและเมตตาต่อเธอ จะมีผู้ชายคนไหนในโลกนี้ที่สามารถทนต่อการถูกสวมเขาได้ หลี่ซ่างซูเป็นคนของฮองเฮา วันนี้เขามาที่จวนเพื่อขอโทษ เขาไม่กลัวฮองเฮาคิดมากเหรอ

ทันทีที่หลี่ซ่างซูจากไป เหลิ่งชิงฮวนแทบรอไม่ไหวที่จะถามมู่หรงฉี “หลี่ซ่างซูก้มศีรษะให้ท่านด้วยความกลัว เขาดูกลัวท่านมากเลย หม่อมฉันคิดว่าสิ่งที่เขากลัวไม่ใช่การที่ฮูหยินหลี่ทำให้หม่อมฉันขุ่นเคือง แต่กลัวว่าท่านจะลงมือทำอะไรเสียมากกว่า”

มู่หรงฉีตอบด้วยท่าทีสบายๆ “เจ้าน่าจะยังจำคดีฉ้อโกงในการสอบข้าราชการเมื่อห้าปีที่แล้วได้ใช่หรือไม่”

จำได้อยู่แล้ว ถ้าเรื่องราวไม่ถูกเปิดเผยแล้วฮ่องเต้โกรธหนัก พี่ชายของฉันจะมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานแบบนี้ได้ยังไงล่ะ “กรมพิธีการมีหน้าที่คัดเลือกผู้มีความสามารถในการสอบข้าราชการ หลี่ซ่างซูต้องมีส่วนในการรับผิดชอบคดีฉ้อโกง แต่ถูกคนของฮองเฮาช่วยเอาไว้ ดังนั้นหลี่ซ่างซูจึงยอมจำนนต่อฮองเฮาหลังจากงานเลี้ยงเมื่อวาน ข้าก็แค่พูดอะไรนิดหน่อยน่ะ”

“นั่นเรียกว่าข่มขู่ ทำไมท่านถึงร้ายกาจและน่ารังเกียจขนาดนี้นะ” เหลิ่งชิงฮวนยิ้ม “ดูสีหน้าของเขาเมื่อครู่สิ หากท่านไอออกมาเขาคงจะฉี่รดกางเกงเลย”

มู่หรงฉีมองเธออย่างสนุกสนาน “เจ้ากับข้าก็พอๆ กันนั่นแหละ แต่ข้าสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่าเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าฮูหยินหลี่ใส่อะไรลงไปในน้ำนั่น”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มกว้าง “เพราะหม่อมฉันรู้ว่าลูกชายคนโตของตระกูลหลี่เป็นลูกของนางกับผู้อื่น นางมีนิสัยร้ายกาจ ดังนั้นนางจะต้องสั่งให้คนแอบทำอะไรลับหลังพวกเราแน่”

“ดังนั้นเจ้าก็เลยสั่งให้เทียนซือแอบติดตามแล้วทำแผนซ้อนแผน?”

“สิ่งที่เทียนซือเห็นนั้นห่างไกลจากความจริงนัก คนของฮองเฮามอบสารส้มให้กับแม่นมต่อหน้าฮูหยินหลี่ โดยบอกว่าทำเพื่อความปลอดภัย ฮองเฮารู้ดีอยู่แก่ใจว่าหยดเลือดนี้ใช้ทดสอบความเป็นญาติพี่น้อง จึงจะใช้กฎไร้สาระเช่นนี้มาบีบเอาความลับจากข้า ไร้ยางอายสิ้นดี”

มู่หรงฉีขมวดคิ้วและพูดเบาๆ “อันที่จริงท่านพี่เซวียนดูเหมือนจะทำตัวเป็นพี่ชายจริงๆ ไม่ได้คิดร้ายอะไร แต่ฮองเฮากับพระชายาเซวียนดูเข้ากันไม่ได้เลย หลายปีมานี้ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ”

ไม่แปลกเลยที่ฮ่องเต้เฒ่านั่นอยากจะควบคุมฉัน ที่แท้ก็มีบทเรียนที่ได้รับจากอดีตนี่เอง

เหลิ่งชิงฮวนพูดเบาๆ “หม่อมฉันรู้ขอบเขตดี ไม่เช่นนั้นคงไม่สั่งให้เทียนซือไม่พูดอะไรมากในงานเลี้ยงแบบนั้น แค่ฮองเฮารู้ตัวเองดีก็พอ”

“ถ้าเช่นนั้น...” มู่หรงฉีลดสายตาลงและมองไปที่ชิงฮวน “เจ้ารู้อดีตของฮูหยินหลี่ได้อย่างไร”

“ข่าวลือที่ได้ยินมาน่ะ แค่ได้ยินมา”

เหลิ่งชิงฮวนตอบมั่วๆ ด้วยความลังเล ไม่รู้ว่าหากเธอบอกกับมู่หรงฉีเธอเป็นคนควบคุมหน้ากากนกอินทรีและความลับที่ฮ่องเต้กำลังมองหาอยู่ในมือของเธอ มู่หรงฉีจะตอบสนองอย่างไร

คงจะไม่จัดการกับญาติพี่น้องอย่างชอบธรรมหรอกนะ

อย่าเพิ่งให้เขารู้เรื่องทั้งหมดเลยดีกว่า เธอหวังว่าจะพึ่งพาเบาะแสเหล่านี้เพื่อตั้งหลักมั่นคงในฉางอัน และทำให้พวกเขายอมจำนนต่อเธอ

หากข่าวลือรั่วไหลออกไปเล็กน้อย ฮ่องเต้จะถือว่าเธอเป็นปัญหาร้ายแรง แล้วจะสารภาพเรื่องนี้กับมู่หรงฉีอย่างไร

ทันทีที่ทูตของหนานจ้าวมาถึง เหลิ่งชิงฮวนก็เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดน่าเยี่ยไป๋

เธอสั่งให้คนปรับปรุงห้องผ่าตัดในวัง ดำเนินการป้องกันไวรัสอย่างครอบคลุมและเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการผ่าตัด จากนั้นจึงพาน่าเยี่ยไป๋ไปที่จวนฉีอ๋อง

เนื่องจากน่าจาอี๋นั่วคิดจะสังหารน่าเยี่ยไป๋เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เธอจึงตัดสินใจดำเนินการผ่าตัดในพระราชวัง และในขณะเดียวกันก็อำนวยความสะดวกในการพักฟื้นหลังการผ่าตัดของน่าเยี่ยไป๋ด้วย

การผ่าตัดไม่ยากมาก ถือเป็นเพียงการผ่าตัดเล็กๆ ในยุคปัจจุบัน

สิ่งที่เหลิ่งชิงฮวนกังวลก่อนหน้านี้คือเงื่อนไขทางการแพทย์ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเธอได้

ขณะนี้มีการสร้างห้องผ่าตัดแล้ว แม้หลายสิ่งจะถูกเตรียมไว้แบบง่ายๆ และยังมีข้อบกพร่องอีกหลายส่วน แต่ก็ไม่เป็นปัญหากับการผ่าตัดครั้งนี้เท่าไหร่นัก

แน่นอนว่าการผ่าตัดมีความเสี่ยง ไม่มีใครรับรองได้เต็มปากว่ารักษาหายได้ 100%

เหลิ่งชิงฮวนอธิบายความเสี่ยง ข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัดต่อทูตหนานจ้าวตามความเป็นจริง พร้อมกับเตรียมแบบฟอร์มยินยอมสำหรับการผ่าตัด

การผ่าตัดเป็นไปด้วยความสมัครใจ หากทำเต็มที่แล้วยังมีเหตุให้ถึงชีวิต แคว้นหนานจ้าวจะมาเอาโทษไม่ได้

น่าเยี่ยไป๋ถูกหมอหลวงตัดสินว่าเสียชีวิตแล้วในคืนนั้น เหลิ่งชิงฮวนเป็นแสงแห่งความหวังเดียวของพวกเขา ถึงจะไม่เต็มใจแต่ก็ต้องยอมรับ

น่าเยี่ยไป๋ย้ายเข้าไปในจวนฉีอ๋อง

ทันทีที่เขาเห็นเหลิ่งชิงฮวน เขากลับไม่ได้ถามถึงความเจ็บป่วยและการรักษาโรคในประโยคแรก แต่ถามอย่างกระวนกระวาย “อี๋นั่วบอกว่าระหว่างที่จิ่นอวี๋หนีออกมา นางถูกขอทานคนหนึ่งทำร้าย นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่”

เหลิ่งชิงฮวนมองเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงใส่ใจเรื่องนี้มาก สิ่งแรกที่เขาพูดคือขอคำยืนยันจากเธอ

เธอพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ มันคือเรื่องจริง”

“ขอทาน?” น่าเยี่ยไป๋ยังคงไม่เชื่อ

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้าอีกครั้ง “ใช่ ขอทาน ขอทานที่สกปรกจนไม่อาจจะสกปรกมากกว่านั้นได้แล้ว เห็นว่าผู้ชายคนนั้นชื่อฮวาจื่อ”

ทันทีที่เธอพูดจบ น่าเยี่ยไป๋ก็อาเจียนทันที เขาเริ่มอาเจียนน้ำที่เป็นกรดอีกครั้ง

ทันใดนั้นเหลิ่งชิงฮวนก็ตระหนักได้ว่าน่าเยี่ยไป๋กำลังลังเลสิ่งใด

รูปร่างหน้าตาของจิ่นอวี๋นั้นทั้งสวยและสง่างาม สิ่งนั้นสามารถหลอกชาวหนานจ้าวและยังทำให้น่าเยี่ยไป๋เข้าใจผิดว่านางบริสุทธิ์ผุดผ่อง เมื่อพบว่านางไม่ใช่สาวบริสุทธิ์จึงถูกน่าเยี่ยไป๋ทุบตีอย่างรุนแรงด้วยความโกรธและเกือบเสียชีวิต น่าเยี่ยไป๋จะทนได้อย่างไรหากรู้ว่านางเคยประสบพบเจออะไรมา เขาคงรู้สึกรังเกียจจนแทบอธิบายออกมาไม่ได้ เหลิ่งชิงฮวนมีความคิดไม่ดีกำลังท่วมท้นอยู่ในใจ

“ข้าเคยได้ยินคนที่เคยเจอขอทานฮวาจื่อบอกว่าเขาน่ะน่ารังเกียจสุดจะบรรยาย มีน้ำมูกไหล 2 ข้าง ฟันเหลือง ผมยุ่งเหมือนเล้าไก่ มีเหาและกลิ่นตัวลอยคละคลุ้งอยู่ตลอด”

“พอได้แล้ว!”

น่าเยี่ยไป๋ขัดจังหวะ เขาหันหน้าหนีและอดไม่ได้ที่จะถอยตัวกลับไป คำอธิบายของเหลิ่งชิงฮวนเป็นภาพที่ชัดเจนมากจนเขารู้สึกคลื่นไส้ เมื่อคิดย้อนกลับไป ครั้งหนึ่งเขาเคยกระจายอาหารอันโอชะไว้บนร่างกายของจิ่นอวี๋และกินมันอย่างเอร็ดอร่อย นั่นทำให้เขาแทบบ้า

เหลิ่งชิงฮวนกอดอกยืนดูเขาอาเจียนด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ ดังคำกล่าวที่ว่าย่อมมีบางอย่างพิชิตได้เสมอ น่าเยี่ยไป๋แทบจะเสียสติ มีผู้หญิงหลายคนถูกทำลายในมือของเขา เกรงว่าคราวนี้เขาคงจะถูกทำลายในจิ่นอวี๋เสียแล้ว

จากนี้ไปมาดูกันว่าเขายังต้องการหญิงสาวหน้าตาดีอีกหรือไม่ แม้ว่าเขาจะพักฟื้นจากการผ่าตัดเต็มที่แล้ว เธอเกรงว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นผู้หญิงจะเกิดเงามืดในจิตใจ และทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป! .

ช่างมีความสุข (อยู่บนทุกข์ของคนอื่น) อะไรขนาดนี้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา