ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 569

จินอู่เข้าไปข้างใน ท่าทีเตร่งขรึม ลดเปลือกตาลง และเข้าไปคำนับหรูอี้อย่างลึกซึ้ง “เข้าเฝ้าองค์หญิง”

น้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง

หรูอี้เชิญนั่ง โดยให้เขานั่งลงใกล้กับตำแหน่งของเตาหอมระเหย

ควันธูปหอมลอยเป็นเกลียว กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ทำให้คนขัดแย้งกัน เพราะประสิทธิภาพของธูปหอมสงบอารมณ์ จินอู่เลยค่อยๆ ผ่อนคลายลง เพียงแต่ว่าเขาไม่เคยมองหรูอี้เลยตั้งแต่ต้น

หลังจากหรูอี้คุยเรื่อยเปื่อยสองสามประโยค จึงกล่าวออกมาว่า “วันนี้บังเอิญพบสิ่งที่เปรียบเสมือนของล้ำค่า ได้ยินว่ามูลค่าไม้น้อย เลยเชิญพระราชบุตรเขยมาวิเคราะห์ว่าจริงหรือปลอม”

หรูอี้หันไปมองน่าจาอี๋นั่วซึ่งยืนอยู่ข้างกาย น่าจาอี๋นั่วถือจี้ทรงหยดน้ำตาที่มัดด้วยด้ายแดงเอาไว้ในมือ ก้มศีรษะเดินมาข้างหน้าจินอู่ หยิบจี้ขึ้น และแกว่งไปมาเหมือนกับลูกตุ้มนาฬิกา

จินอู่มองจี้หยกนั่นอย่างแน่วแน่ ค่อยๆ ถูกสะกดจิต เปลือกตาหนักอึ้ง และสะลึมสะลือ ดูเหมือนจะสับสนเล็กน้อย

น่าจาอี๋นั่วหันหน้า “องค์หญิงอยากถามอะไร สามารถถามได้เลย”

หรูอี้แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็เห็นกลับตาตัวเองว่าน่าจาอี๋นั่วไม่ได้ทำอะไรบนร่างกายจินอู่เลย คิดว่าคงจะไม่เป็นไร

นางลังเลเล็กน้อย “สิ่งที่ข้าอยากรู้ที่สุดคือ ทำไมเขาถึงไม่ชอบสตรี”

น่าจาอี๋นั่วเปล่งเสียง น้ำเสียงนั้นทุ้มต่ำมาก อีกทั้งยังยาวนาน คล้ายกับมีความสามารถในการทำให้คนอื่นรู้สึกเช่นเดียวกันที่ยอดเยี่ยมมาก

“ทำไมท่านถึงเกลียดสตรี”

อารมณ์ของจินอู่ผ่อนคลายมาก เขาพูดช้าๆ ว่า “ประมาณข้าอายุสิบสามปี พี่รองบอกว่าข้าโตแล้ว คงจะได้เวลาพาข้าออกไปเปิดโลก ดังนั้นจึงพาข้าไปที่หอนางโลม”

“ที่นั่น ข้าเห็นสตรีประพฤติตนตามใจอย่างไรขีดจำกัดทุกรูปแบบเป็นครั้งแรก มันน่ารังเกียจมาก ข้ากลัวเล็กน้อย จึงหลีกเลี่ยงการคุกคามของพวกนาง พี่รองกับสหายกลุ่มนั้นเลยหัวเราะเยาะ”

“พี่รองจงใจล้อข้า บอกว่าข้ายังเป็นเด็กน้อยไม่เข้าใจอะไรเลย ดังนั้นต้องให้คนมีประสบการณ์โชกโชนมาสอนข้าเกี่ยวกับเรื่องความสุขขั้นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์”

“อย่างไรก็ตาม สตรีนางนั้นแต่งหน้าจัดมาก ซ้ำยังอายุมากแล้ว อายุมากกว่าข้าหลายเท่าด้วย พอนางยิ้ม ชาดบนใบหน้าล้วนร่วงลงมา นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเรือนร่างของสตรีจริงๆ อย่างใกล้ชิด นางผอมมาก กล้ามเนื้อหย่อนยาน และขี้เหร่อย่างยิ่ง แต่กลับแสดงท่าทางกล้าหาญอย่างเปิดเผย อีกทั้งยังแสดงความรู้สึกรักใคร่ที่น่าขยะแขยง”

“ข้าไม่สนุกสนานเลยสักนิด รู้สึกรังเกียจจากก้นบึ้งของหัวใจ เลยหนีเตลิดออกไปท่ามกลางเสียงหัวเราะของพี่รองและเหล่าสหายของเขา ข้าเห็นท่าทางของสตรีที่อยู่ภายในอ้อมแขนและด้านล่างของเขาล้วนมีความสุขมากจนเหมือนกำลังจะตาย เพลิดเพลินมาก และน่าเกลียดมากเช่นกัน”

“เรื่องคราวนี้ กระทบกระเทือนจิตใจของข้าอย่างหนัก ด้านหนึ่งข้าปฏิเสธสตรีทุกคน พอเห็นพวกนางก็รู้สึกอยากอาเจียน อีกด้านหนึ่งข้าก็มีอารมณ์ฮึกเหิมเช่นกัน ภาพสำส่อนของวันนั้นปรากฏขึ้นในสมองอย่างต่อเนื่อง รู้สึกว่าในฐานะสตรี ต้องเพลิดเพลินกับความรักใคร่ของบุรุษเป็นแน่”

“ข้าค่อยๆ ชอบจินตนาการว่าตนเองเป็นสตรี ความคิดแบบนี้ทำให้ข้ารู้สึกละอายและตื่นเต้น ข้าหลงใหลบุรุษทีละน้อย โหยหาความเร้าใจรูปแบบนั้น ไม่สามารถถอนตัวออกมาจากความลุ่มหลงนั้นได้ จนกระทั่งข้าพบว่าตนเองถูกครอบงำอย่างสมบูรณ์ พอเห็นสตรีก็จะเอือมระอา และเกิดความรักใคร่ต่อบุรุษ”

ขณะที่จินอู่พูดอยู่นั้น หางตาเขากลับชุ่มชื้น ท่าทางเจ็บปวดมาก

หรูอี้ค่อนข้างสับสนอยู่ครู่หนึ่ง นึกไม่ถึงว่าความเจ็บปวดภายในใจของสามีตนเองจะมาจากการล้อเล่นครั้งนั้นของจินเอ้อร์

เรื่องราวครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อวิสัยทัศน์ของเขารุนแรงมาก อยากลืมก็ลืมไม่ลง

จินเอ้อร์คนนี้เป็นไม้พลองกวนอุจจาระจริงๆ บุคคลซึ่งเป็นบ่อเกิดของความหายนะแบบนี้ มีชีวิตอยู่ไปทำไม

นางมองไปทางน่าจาอี๋นั่วเพื่อขอความช่วยเหลือ น่าจาอี๋นั่วถามเบาๆ ว่า “เช่นนั้นท่านเบื่อหน่ายองค์หญิงหรูอี้หรือไม่”

จินอู่เงียบไปครู่หนึ่ง “ข้าทำลายช่วงชีวิตของนาง ข้ารู้สึกทุกข์ใจ”

คำง่ายๆ สองสามคำ หรูอี้จิตใจอ่อนไหวมาก น้ำตาไหลพรากทันที แทบจะถามด้วยเสียงสะอึกสะอึ้นว่า “เช่นนั้นท่านอยากมีชีวิตเหมือนคนทั่วไปหรือไม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา