ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 574

เหลิ่งชิงฮวนกลับตรงกันข้าม โดยส่วนตัวยังหวังว่าจะเพิ่มเพื่อนให้กับเสี่ยวอวิ๋นเช่ออีกสักคน ไม่เกี่ยวกับอำนาจ แต่อนาคต พี่ชายน้องสาวหรือไม่ก็พี่ชายน้องชายสองคนจะได้ช่วยเหลือกัน

เช่นเดียวกับตนเองและพี่ชาย

พี่น้องสายเลือดเดียวกันตัดกันไม่ขาด และจะเป็นคนที่ทุ่มแรงดึงเจ้าในยามลำบากจนสุดตัว

เหลิ่งชิงฮวนทำเสียงไม่พอใจเบาๆ “หม่อมฉันไม่ทำ”

“ไม่ทำหรือ” มู่หรงฉียิ้มชั่วร้าย “แต่เจ้าเชื้อเชิญข้า ข้าก็เลยทำตามความต้องการของเจ้า”

เหลิ่งชิงฮวนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตนเองตกหลุมพรางของเขาแล้ว เลยเข้าไปกัดไหล่ของเขาด้วยความโกรธ

มู่หรงฉีเจ็บมาก ไม่เพียงแต่ไม่รีบร้อน แต่กลับหัวเราะเบาๆ ด้วย แน่นอนว่าเขามีวิธีทำให้นางเอาปากออกและอ้อนวอนให้ยกโทษให้

ฉวยโอกาสรุกรานตอนอ่อนแรง และลงมือทำทันที

กระแสน้ำทะลักออกมาทันที เกิดเสียง ‘ซ่าซ่า’ และไหลเชี่ยวเล็กน้อย

คล้ายกับมังกรคะนองน้ำที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำกระโดดออกมา และปั่นฟองคลื่นขนาดใหญ่ออกมาได้ทุกเมื่อ

เหลิ่งชิงฮวนเอาปากออกนานแล้ว ยกหัวขึ้น ปิ่นนกกระจอกทองบนมวยผมหล่นลงในน้ำ เส้นผมแสนงดงามร่วงลงมาเหมือนน้ำตก แผ่ขยายบนผิวน้ำ ไหวขึ้นลงตามกระแสน้ำ เหมือนหญ้าทะเลที่กระเพื่อม

คอเรียวระหงอันสง่างามของนางยกโค้งสวย ทำให้กระดูกไหปลาร้าประณีตและเด่นชัดมากขึ้น

ริมฝีปากแดงขนาดเล็กอ้าออกเล็กน้อย ความงามของสีแดง เต็มไปด้วยความยั่วยวนอันไม่รู้จบ

เหมือนกับนางเงือกขาดออกซิเจน ขณะหายใจยังโลภมาก

รอบๆ ทั้งสองคน ไอน้ำปกคลุมอย่างหนาทึบ ลอยเป็นเกลียวเหมือนกับแดนสวรรค์

ชิงฮวนเป็นนางฟ้าที่ร่ายรำอยู่ในแดนสวรรค์ เดี๋ยวสูงขึ้นเดี๋ยวต่ำลง ขมวดคิ้วและกัดฟัน เสียงร้องอ่อนโยนรื่นหู ครวญครางอย่างน่าสงสาร

แขนอันบึกบึนของมู่หรงฉีโอบเอวเล็กบางของนางด้วยมือเดียว หยดน้ำบนผิวสีน้ำผึ้งกลิ้งลงมา และกระเซ็นขึ้นไปใหม่อีกครั้ง รอยฟันที่เรียงเป็นระเบียบบนหัวไหล่ จางหายไปอย่างช้าๆ

ดูเหมือนแรงระเบิดที่ซ่อนอยู่ทั่วร่างกายจะไม่มีสิ้นสุด เหมือนกับขุนเขาถิง และมั่นคงดั่งภูเขาไท่ซาน เป็นเรื่องง่ายที่จะดันนางฟ้ากลางฝ่ามือขึ้น และปัดกวาดคลื่นยักษ์แสนน่ากลัว

คลื่นน้ำค่อยๆ หยุดลง

ปลาสองตัวถูกโอบล้อมด้วยน้ำร้อน จมลงใต้น้ำอย่างช้าๆ รู้สึกเหนื่อยสุดขีด

ขณะนั้นเหลิ่งชิงฮวนยังคิดว่าตนเองเหมือนกับลืมอะไรบางอย่างไป

เหมือนอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับมู่หรงฉี ทำไมตนเองกลับลืมนะ

เหนื่อยมาก รู้สึกอยากนอนอย่างเดียว

สุดท้าย ก็นอนหลับใหลอย่างเบาใจจริงๆ

ขณะสะลึมสะลือ รู้สึกถึงความอบอุ่นภายในข้อพับของมู่หรงฉี ตนเองถูกตักออกมา เหมือนกับเสี่ยวอวิ๋นเช่อเมื่อสักครู่ โดนห่ออยู่ในผ้าห่ม และกอดอยู่บนตั่งยาว

มืออันอบอุ่นกำลังเช็ดผมแสนงดงามที่เปียกชื้นให้ตนเองอย่างนุ่มนวล

เปลือกตาหนักอึ้ง นอนหลับจนถึงวันถัดมา อาหารเย็นยังขี้เกียจกิน

ดวงอาทิตย์อบอุ่นโผล่ออกมาแล้ว หิมะค่อยๆ ละลาย

บนหลังคาซึ่งปกคลุมด้วยหิมะ มีก๊าซหุงต้มลอยเป็นเกลียวขึ้นไป ไม่รู่ว่าคนในห้องครัวขนาดเล็กกำลังตุ๋นซุปอะไรอยู่ กลิ่นหอมหวานตลบอบอวล พอเปิดม่านก็โชยเข้าในห้องทันที

มู่หรงฉีกับอวิ๋นเช่อหันไปโบกมือให้นางอย่างลึกลับ และทำท่าห้ามส่งเสียง

ทั้งสองกำลังใช้กระด้งฟัดข้าวกักตัวนกกระจอกในสวนด้านนอก

นกกระจอกหลังหิมะตกถูกแช่แข็งจนหัวแข็งกระด้าง เมื่อเห็นข้าวฟ่างบนหิมะก็ทะลวงเข้าไปในกับดัก พอดึงเชือก กระด้งฟัดข้างก็กักจอมตะกละด้านล่างเอาไว้

เสี่ยวอวิ๋นเช่อหัวเราะอย่างไม่เกรงใจและกระจายไปทั่ว เสียงหัวเราะเหมือนกับพวงกระดิ่งเงินทำให้ยามเช้าแสนธรรมดานี้เกิดความรู้สึกเช่นเดียวกัน

ทุกอย่างล้วนปกติ กลิ่นของความบริสุทธิ์และไร้การต่อสู้

นี่ก็คือชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองโหยหามาตลอด ทนลำบากแค่ครั้งเดียว สบายไปตลอด เสพสุขสี่ฤดู สง่าผ่าเผย คนนับพันรักและเอ็นดู ร่ำรวยมหาศาล

ควรจะเป็นความปรารถนาของมู่หรงฉีเช่นเดียวกัน : ตลอดชีวิต สองใจผูกกันชั่วนิจนิรันดร์ ครอบครัวสามคน ลานบ้านสี่ด้าน สัตว์ทั้งห้าเจริญรุ่งเรือง ทุกอย่างราบรื่น ภรรยาเจริญขึ้นสามีสูงศักดิ์ เงินทองเข้าแปดด้าน สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ คิดอะไรไร้กังวล สมดั่งความปรารถนา

สมบูรณ์แล้ว

อาหารเช้ายกมาเสิร์ฟพร้อมกัน ทุกคนกินอาหารเช้าด้วยกัน ชิงฮวนวางแผนว่าจะเข้าวังสักหน่อย

ประการแรก กราบทูลเกี่ยวกับการฟื้นฟูร่างกายของน่าเยี่ยไป๋ให้ฮ่องเต้ทราบ และติดตั้งฟันปลอมให้เขาอีกครั้ง ตนเองไม่อยากเห็นเขาทำหน้าบึ้งตึงและไม่พอใจอีก เหมือนกับตนเองติดหนี้เขาหนึ่งแสนสองหมื่นตำลึงอย่างไรอย่างนั้น

ประการที่สอง หลังจากพระสนมฮุ่ยเฟยโดนกู่พิษ ถึงแม้จะปลอดภัยจากโรคภัยอย่างรวดเร็ว แต่ในฐานะลูกหลาน ควรจะเข้าไปทักทายสักหน่อย ดูว่าร่างกายของนางยังมีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า

ประกายที่สาม ต้องพบลี่ว์อู๋ สั่งให้ช่างตัดเสื้อวัดตัวให้นางอย่างดี จะได้ลงมือตัดชุดแต่งงานให้เร็วที่สุด เวลาเร่งด่วนมาก

นางนำตัวอย่างการปัก รวมถึงรูปแบบชุดแต่งงานที่ตนเองออกแบบและปรับปรุงตามรูปแบบชุดแต่งงานสมัยใหม่มาให้ลี่ว์อู๋เลือกด้วยตนเอง

แน่นอนว่าจะขาดเสี่ยวอวิ๋นเช่อไปไม่ได้ เขาเป็นบัตรผ่านเข้าในการออกวังหลวงของตนเอง สมมติว่าไม่พาเขาไปด้วย ไม่แน่ว่าอาจจะโดนฮ่องเต้ปฏิเสธไม่ให้เข้า

รวมถึงราชองครักษ์ตรงประตูทางเข้า สามารถไม่รู้จักเหลิ่งชิงฮวนอย่างนาง แต่พอเห็นเสี่ยวอวิ๋นเช่อล้วนเคารพนบนอบ ถึงอย่างไร อวิ๋นเช่อก็เป็นคนแรกของแผ่นดินที่กล้าขี่คอของฮ่องเต้และดึงหนวดของฮ่องเต้อย่างไม่เคยมีมาก่อน

พอเข้าวัง แน่นอนว่าต้องไปหาฮ่องเต้ก่อน

พอฮ่องเต้เห็นฟันปลอมในมือของนาง ดวงตาก็เป็นประกายทันที

รอคอยอย่างกระวนกระวายมาหลายปี ไม่ง่ายเลย

ติดตั้งฟันปลอมให้ฮ่องเต้เสร็จ เลยพูดเกี่ยวกับการฟื้นฟูร่างกายของน่าเยี่ยไป๋อย่างง่ายๆ ฮ่องเต้ชมนางสองประโยคอย่างหาได้ยาก ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

พอทักทายไทเฮาแล้ว จึงทิ้งเสี่ยวอวิ๋นเช่อเจ้าผลไม้แห่งคนสุขคนนี้ให้อยู่เป็นเพื่อนท่านผู้เฒ่า และชิงฮวนก็ไปยังห้องนอนพระสนมฮุ่ยเฟย

หลายวันมานี้พระสนมฮุ่ยเฟยไม่ค่อยมีความสุข

จิ่นอวี๋ทำให้นางเสียใจมาก

หลังจากนั้น นางได้ยินนางกำนัลพูดถึงปฏิกิริยาของจิ่นอวี๋หลังจากตนเองโดนพิษกู่ หากไม่ใช่เหลิ่งชิงฮวนบังคับและล่อลวงด้วยผลประโยชน์ อีกทั้งยังทุบตีอย่างรุนแรง นางคงจะไม่ยอมบอกวิธีแก้พิษ เจ็บปวดใจเหมือนกับน้ำแข็งเย็นจัด

คิดถึงตนเองในเมื่อก่อน เพราะว่านางห่างเหินกับลูกชายของตน จึงกลั่นแกล้งชิงฮวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังหนุนหลังนางอย่างไม่มีเหตุผล สมน้ำหน้าตนเอง กรรมตามสนองแล้ว

ดังนั้นพอเห็นเหลิ่งชิงฮวน จึงร้องไห้อย่างโศกเศร้า

“ชิงฮวน เสด็จแม่เสียใจ นี่เป็นการเลี้ยงหมาป่าตาขาวไว้ข้างกายอย่างเปลืองแรง ทำไมนางถึงจิตใจอำมหิตแบบนี้ เมื่อก่อนแม่ไม่ควรฟังคำขอร้องกับคำยุยงของนาง ให้นางเข้าไปสอดแทรกระหว่างเจ้ากับมู่หรงฉี นำความลำบากมาให้เจ้ามากมาย…”

กอดคอเหลิ่งชิงฮวน เช็ดน้ำตาและน้ำมูกไปพราง ทุบตีไหล่ของนางไปพราง ท่าทางดูเสียใจ

เหลิ่งชิงฮวนรังเกียจมาก จึงดันนางออกไป และใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดไหล่ “รู้อยู่ในใจตนเองก็พอแล้ว ไม่ต้องแกล้งทำตัวน่าสงสารต่อหน้าหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ได้ตำหนิท่านเลย ลำบากร้องไห้ให้ใครดูหรือ”

ทำไมท่านถึงไม่ทุบตีตนเอง มาทุบตีหม่อมฉันทำไม

พระสนมฮุ่ยเฟยสูดจมูก “เจ้าไม่ตำหนิข้าจริงๆ หรือ”

เหลิ่งชิงฮวนมองค้อนใส่นางอย่างหงุดหงิด “สายตาที่มองคนของพวกท่านสองแม่ลูก ไม่กล้าสรรเสริญเยินยอ หม่อมฉันไม่กล้ามีความคิดเห็นอะไร ปกติ ปกติมากเลยล่ะ”

พระสนมฮุ่ยเฟยได้ยินดังนั้น ยังไม่ยอมรับเล็กน้อย “ทำไมสายตาของพวกข้าสองแม่ลูกจะไม่ได้ หากไม่ดี จะพอใจลูกสะใภ้อย่างเจ้าได้อย่างไร”

เหลิ่งชิงฮวนแบะปาก หม่อมฉันเป็นคนที่พวกท่านสองคนพอใจหรือ ไทเฮาบีบบังคับให้ลูกชายท่านดีหรือไม่ ยังมีสามีเจ้าชู้ที่ท่านเลือกเองซึ่งชอบหักหลังลูกชายเป็นพิเศษคนนั้นอีก ยากจะพูดในประโยคเดียวจริงๆ

เหลิ่งชิงฮวนฟังนางโต้งแย้งกับตนเองด้วยพลังเต็มเปี่ยม ต้องไม่เป็นอะไรแล้วแน่ๆ “เอาล่ะๆ สายตาของพวกท่านดี ข้าเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ หม่อมฉันไปล่ะ จะไปหาลี่ว์อู๋สักหน่อย”

พระสนมฮุ่ยเฟยอิ่มเอมใจเล็กน้อย จึงพึมพำเบาๆ ด้านหลังนางว่า “แน่นอนอยู่แล้ว คิดว่าข้าสายตาเลือนลางตามอายุหรือ ฉีเอ๋อร์ก็จริงๆ เลย เหมือนกับสัตว์จำพวกอีเห็นที่ไม่เคยเห็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ มองดูความคืบหน้านี้ คงจะคาบคอไม่ยอมปล่อยปากเลยสินะ”

เหลิ่งชิงฮวนสะดุดเท้า เกือบจะล้มหัวคะมำแล้ว

นางก้มหน้าลง เมื่อสักครู่พระสนมฮุ่ยเฟยทุบตีไหล่ของตนเองพร้อมกับร้องห่มร้องไห้ ดันดึงคอเสื้อลงมาด้วย จึงเผย…แคะแคะ รอยรูปสตรอว์เบอร์รีออกมาให้เห็น

มู่หรงฉีเป็นนักปลูกสตรอว์เบอร์รีมืออาชีพ ทุกครั้งล้วนผลงานเยอะ

แม่สามีคนนี้ ไม่น่าเคารพจริงๆ อายจะตายอยู่แล้ว!

นางหนีไปด้วยความจนตรอก พระสนมฮุ่ยเฟยมีความสุขอยู่ข้างหลังนาง ต่างกับตอนร้องไห้สำนึกผิดเมื่อสักครู่ราวกับคนละคน

รู้อยู่แล้วว่าแกล้งทำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา