ลี่ว์อู๋ได้ยินมาว่าเหลิ่งชิงฮวนเข้าวังก็ระงับความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ นางจึงไปรออยู่ที่หน้าประตูตำหนักของพระชายาฮุ่ยเฟย
เหลิ่งชิงฮวนนำตัวอย่างงานปักต่างๆมาให้กับลี่ว์อู๋เลือกและแย่งเตาอังเท้าที่นางอุ้มเอาไว้อยู่
วันนั้นลี่ว์อู่เองก็แค่เปรยขึ้นกับเสิ่นหลินเฟิงอย่างไม่เป็นจริงเป็นจังนัก ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะใส่ใจอีกทั้งยังหาทางทำมันให้สำเร็จเพื่อนาง นางรู้สึกตื่นเต้นจนพูดออกมาไม่ออกแล้วกอดที่แขนของเหลิ่งชิงฮวนอย่างที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี นางดูราวกับเด็กน้อยที่กำลังดีใจ
มีคนคนหนึ่งที่ไม่ระวังจนทำกระดาษร่วงลงไปบนพื้นและถูกลมพัดกระจัดกระจาย
ลี่ว์อู๋รีบก้มตัวลงเพื่อเก็บ
ที่ด้านหลังของนางมีคนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ใครกันที่บังอาจกล้าส่งเสียงดังในวังหลังกัน ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้าสองคน”
น้ำเสียงนี้คุ้นหูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดอย่างเจ็บแสบนี้ก็ยังเหมือนเดิม ให้ความรู้สึกเหมือนกับแต่ก่อน
เหลิ่งชิงฮวนหันหน้าไปก็เห็นเป็นหรูอี้จริงๆ ด้านข้างของนางตามมาด้วยราชบุตรเขยอย่างจินอู่ ทั้งสองคนยืนอยู่อีกด้านหนึ่งมองดูแล้วราวกับเป็นคู่สร้างคู่สมกัน
มีกระดาษแผ่นหนึ่งปลิวไปตกลงตรงเท้าของนาง
หรูอี้เหลือบสายตามองลงไปมองที่ปลายเท้าอย่างใจเย็นแล้วเก็บมันขึ้นมาจากนั้นเธอก็ตกใจขึ้นมา
“ทำไมถึงได้ไม่บอกข้ากันล่ะว่านี่คือชุดแต่งงานของลี่ว์อู๋ หน้าตาประหลาดนัก”
ลี่ว์อู่พยักหน้าและไม่ถือสาท่าทีที่แปลกประหลาดของนาง “ชุดคลุมเจ้าสาวทั่วไป การเย็บปักนั่นถูกปักอย่างน่าเบื่อและปักหนา ไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงความพริ้วไหวของผ้าต่วนหลิวอวิ๋นได้ อีกทั้งชุดแต่งงานนี้ที่ออกแบบโดยพี่สะใภ้สามไม่เพียงแต่ออกแบบมาอย่างประณีตรับกับเรือนร่าง อีกทั้งชายกระโปรงยังถูกออกแบบเป็นชั้นทับๆกันยาวกรอมพื้นบวกกับไข่มุกและอัญมณีอื่นๆ ราวกับออกมาจากจากภาพฝัน พอนึกถึงมันแล้วข้าแทบรอไม่ไหวเลย”
หรูอี้ยิ้มหยันออกมา “ใช้ผ้าต่วนหลิวอวิ๋น? เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้กำลังล้อเล่นอยู่? เจ้าอยู่ในวังเกรงว่าคงไม่รู้ว่าตอนนี้ผ้าต่วนหลิวอวิ๋นตอนนี้นั้นหาได้ยากนัก มีเงินก็ซื้อไม่ได้ เจ้าไปซื้อมาจากไหนกันล่ะ รูปทรงของกระโปรงเป็นชั้นๆทับกันเช่นนี้ไม่รู้ว่าต้องเสียผ้าไม่รู้กี่พับ มันช่างเลวร้ายมาก”
ลี่ว์อู๋นั้นไม่รู้ว่าผ้าต่วนหลิวอวิ๋นนั้นหาได้ยากขนาดไหน เมื่อนางฟังหรูอี้พูดแล้วฟังดูไม่เหมือนกับล้อเล่น นางก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเหลิ่งชิงฮวน
เหลิ่งชิงฮวนยิ้มออกมาน้อยๆ “ยังดีนะ ที่ข้าสามารถหาซื้อมาได้ ดังนั้นองค์หญิงหรูอี้ไม่ต้องเป็นกังวลใจไป”
หรูอี้ยิ่งเย้ยหยันออกมามากกว่าเดิม “เพื่อดึงอ๋อรุ่ยและจวนกั๋วกงมาเป็นพวก พระชายาฉีทำได้อย่างไม่เลือกวิธีการจริงๆเลยนะเพคะ”
เหลิ่งชิงฮวนไม่ยอมถอยให้กับนาง “เดิมทีลี่ว์อู๋ก็เป็นน้องสาวของหม่อมฉัน เสิ่นหลินเฟิงเองก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของหม่อมฉัน ในฐานะที่หม่อมฉันเป็นพี่สะใภ้การแต่งงานของทั้งสองคน ไม่ถือว่าหม่อมฉันเปลืองแรงอะไรเลยเพคะ องค์หญิงหรูอี้คิดมากไปแล้ว”
“ข้าเองก็หวังว่าข้าจะคิดมากไปเอง”
หรูอี้บังริมฝีปากของนางและยิ้มเยาะออกมา “เจ้าอย่าคุยโวเพื่อดึงคนอื่นมาเป็นพวกเลย พอใกล้ถึงเวลางานแต่งของลี่ว์อู๋แล้วเจ้าไม่มีชุดแต่งงานผ้าต่วนหลิวอวิ๋นคงไม่ประดักประเดิดหรือ ได้ยินมาว่าวันแต่งงานคือเวลาสิบวันหลังจากนี้ ในเมื่อเจ้าไปใช้ชีวิตอยู่ที่เจียงหนานห้าปีอีกทั้งยังมีที่พึ่งเป็นตระกูลโฉว การไปกลับเป็นระยะเวลาสิบวันไม่แน่ว่าอาจจะทำชุดแต่งงานออกมาไม่ได้”
เมื่อลี่ว์อู๋ได้ยินว่าผ้าต่วนหลิวอวิ๋นหาได้ยากเช่นนนี้ เพื่อไม่ให้เหลิ่งชิงฮวนประดักประเดิดนางจึงรีบพูดปัดไปว่า “พวกเราแค่พูดไปเช่นนั้นแหละ ชุดแต่งงานก็สวมเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น การจะใช้ผ้าต่วนหลิวอวิ๋นนั้นจะมากเกินไปหน่อย”
หรูอี้พูดเยาะออกมาว่า “เด็กสาวอายุยี่สิบกว่าปีและขายไม่ออกมาโดยตลอด ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีคนไม่รังเกียจเจ้า เจ้าควรจะแต่งตัวให้ดีๆหน่อย”
เมื่อต้องเจอกับการถากถางของหรูอี้ เหลิ่งชิงฮวนที่มีนิสัยโผงผางก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่และมีครั้งเดียวในชีวิต ข้าย่อมต้องให้ความสำคัญและละเลยไปไม่ได้ ถ้าหากว่าไปขอให้ช่วยผิดคนจะมาเสียใจก็สายไปเสียแล้ว ข้าคิดว่าองค์หญิงหรูอี้น่าจะมีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งนะเพคะ”
สีหน้าของหรูอี้เปลี่ยนไป จากนั้นนางก็แค่นหัวเราะออกมา “เกรงว่าจะทำให้พระชายาฉีผิดหวังแล้ว ข้ากับราชบุตรเขยรักใคร่สมัครสมานและรักกันดี ข้าไม่มีความรู้สึกแบบเจ้าจริงๆ”
นางหันไปกวักมือเรียกจินอู่ จินอู่รีบเดินเข้ามาอย่างเชื่อฟังและยืนอยู่ด้านหลังหรูอี้แล้วใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวบางของนางเอาไว้
หรูอี้ซบศีรษะลงไปบนบ่าของจินอู่แล้วใช้นิ้วเรียวของนางไล้ไปบนหน้าอกของจินอู่จากนั้นก็พูดอย่างออเซาะว่า “พวกนางหัวเราะเยาะข้า พูดจาแบบมีอะไรแอบแฝงคงกลัวว่าเจ้าจะรักข้าไม่มากกระมัง”
จินอู่แค่นหัวเราะออกมา “เจ้าเป็นของสำคัญของข้า ข้ารักข้าก็ทะนุถนอมเจ้า ข้าก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นดู เจ้าได้สัมผัสถึงมันได้ก็พอ ทำไมเจ้าต้องไปมีอารมณ์กับพวกนางด้วยล่ะ”
หรูอี้เชิดหน้าและพูดเสียงดังขึ้นว่า “ถ้าหากว่าข้าอยากทำให้คนอื่นเห็นล่ะ?”
จินอู่ก้มหน้าลงแล้วประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของหรูอี้เบาๆ จากนั้นก็พูดเอาใจนางอย่างนุ่มนวล “เสด็จแม่กำลังรออยู่ พวกเรารีบไปถวายพระพรเสด็จแม่กันเถอะ”
หรูอี้เหลือบมองเหลิ่งชิงฮวนกับลี่ว์อู๋ทีหนึ่งอย่างภูมิใจ “งั้นพวกเราไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนจากไปด้วยท่าทางแนบชิดกัน
เหลิ่งชิงฮวนที่หวานเลี่ยนกับทั้งสองคนก็เหม่อมองด้านหลังของทั้งสองที่เดินจากไปและยังคงไม่ได้สติกลับมาทันที
ได้ยินมาว่าราชบุตรเขยคนนี้นั้นเป็นพวกรักร่วมเพศ เขาไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย หรูอี้แต่งเข้าตระกูลจินไปห้าปีแล้ว ทำไม ทำไมที่ได้ยินมาถึงได้ไม่ถูกต้องกัน
ทั้งสองคนนี้เข้าขากันได้ดีและหวานเลี่ยนกันจนทำให้คนอื่นขนลุกขนชันได้ หวานเลี่ยนกันเสียยิ่งกว่าคู่ข้าวใหม่ปลามันเสียอีก
เธอจึงหันไปถามลี่ว์อู๋อย่างสงสัยว่า “จินอู่เปลี่ยนเพศแล้วหรือ”
ลี่ว์อู๋อึกอักและขยี้ตาอย่างตกใจ “ไม่หรอกเจ้าค่ะ? ได้มาว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นแข็งทื่อมาก จินอู่เองก็ไม่เคยเข้าไปในห้องของหรูอี้เองสักครั้ง และก็ไม่เคยมาเป็นเพื่อนหรูอี้เพื่อถวายพระพรฮองเฮาเลยสักครั้ง วันนี้ วันนี้หรือว่าเขาจะผีเข้ากัน?”
เหลิ่งชิงฮวนเห็นแล้วว่าจินอู่นั้นไม่ได้กำลังแสดงละครอยู่ ถ้าหากว่าเขารังเกียจหรูอี้ ทุกการกระทำของของเขาสามารถปรับได้แต่สายตานั้นปลอมแปลงกันไม่ได้
หรือว่าความจริงใจเลยทำให้เขาเปิดใจขึ้นมาจริงๆ ในที่สุดจินอู่ก็ซึ้งใจกับหรูอี้?
หรือว่ารสนิยมทางเพศนี้สามารถเปลี่ยนเล่นไปมาได้?
หรูอี้พากจินอู่ไปยังตำหนักของฮองเฮา ฮองเฮานั่งอิงอยู่บนเตียง บนศีรษะของของนางมีผ้าวางเอาไว้ นางกำลังปวดหัวอยู่
ภายในห้องจุดธูปหนิงเสินเอาไว้ ข้ารับใช้ภายในวังต่างพากันกลั้นหายใจ ไม่มีใครกล้าออกมาข้างหน้า
หรูอี้กับจินอู่หลังจากที่ได้รับการประกาศแจ้งการมาถึงแล้วก็เข้าไปด้านในเพื่อถวายพระพร หลังจากนั้นฮองเฮอาจึงได้ให้ทั้งสองคนนั่งลงตามสบาย
หรูอี้เปิดประเด็นอย่างตรงไปตรงมาว่า “ได้ว่ายินมาว่านางแพศยาเหลิ่งชิงฮวนนั่นทำร้ายเสด็จแม่จนทำให้ตราประทับหงส์หายไปหรือเพคะ”
ฮองเฮาแหลือบมองจินอู่ที่อยู่ด้านข้าง และมองหรูอี้อย่างไม่พอใจเพื่อแสดงให้เห็นว่าอย่าได้พูดจาปากไม่มีหูรูดต่อหน้าจินอู่
หรูอี้โบกมือให้สัญญาณมือให้ข้ารับใช้ในวังทั้งหมดถอยออกไป จากนั้นก็พูดกับฮองเฮาด้วยใบหน้าเขินอายว่า “ในที่สุดลูกก็ทำให้จินอู่กลับมาได้แล้วเพคะ ตอนนี้เขาดีกับลูกมากเหมือนกับว่าเชื่อฟังลูกทุกอย่าง เสด็จแม่วางพระทัยเถิด”
ฮองเฮามองไปที่จินอู่อย่างแปลกใจ และมองไปยังหรูอี้ที่เขินอายอีกครั้ง ในฐานะที่นางอาบน้ำร้อนมาก่อนนางจึงเข้าใจความหมายของหรูอี้ แล้วถามอย่างประหลาดใจระคนดีใจว่า “จริงหรือ?”
จินอู่ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นว่า “เมื่อก่อนจินอู่ไม่ดีที่ไม่เห็นแก่ความรู้สึกขององค์หญิง หลังจากนี้กระหม่อมย่อมควรที่จะดีกับองค์หญิง เสด็จแม่โปรดวางใจ”
การแต่งงานของหรูอี้นั้นเป็นความรู้สึกผิดครั้งเดียวในชีวิตของนาง เมื่อเห็นว่าในที่สุดเคราะห์กรรมก็หมดไปแล้ว นางก็ภูมิใจมากจึงยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หางตา
หรูอี้จึงถามขึ้นอีกครั้งว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่เพคะ? เสด็จแม่ใช้วิธียืมมือฆ่าคนกับเจ้ามารหัวขนนั่นแล้วหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
โอ๊ยยยยยยย ปวดตับ น้ำตาท่วมเลยยยยย ฮือออออออ😫😫...
แอดน่ารักที่ซู๊ดๆๆๆๆๆๆ...
นางเอก บ้า วันๆ ทำแต่เรืองไร้สาระ...
ปญอ. พระเอกนางเอก ทะเลาะกันทั้งเรื่อง...
เมื่อไหร่จะหย่าซะที ได้แต่พูด เบื่อ...
แอดกลับจากพักร้อนแล้ว ดีใจจัง จุ๊ฟๆๆๆ...
แอดขา...ตอนนี้กำลังจะเริ่มพิธีทางไสยศาสตร์เพื่อตามแอดกลับมาอัพต่อแล้วนะคะ..แอดอยู่หนายยยย..จุ๊กกรู๊ๆๆๆๆๆๆ😅😄🤗😊...
แอดดดดดดด ลูกบ้านให้อภัยแล้ววววว กลับมาเร็วๆ...
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวอีกแล้ว สงสารเถอะ อัพหน่อย...
ไหงตัดจบกันแบบนี้🙄🙄...