ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 576

ฮองเฮาขบกรามแน่น “แม้แต่เจ้าก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้ต่อให้ข้าจะแก้ตัวอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อแล้ว ทางฝ่าบาทเองก็เกรงว่าจะเกลียดข้าเสียแทบแย่แล้ว เจ้าเสี่ยวอวิ๋นเช่อนั่นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเลยนะ!”

“เสด็จแม่ทำใจให้สบายเถอะ เสด็จพ่อแค่ทำไปเช่นนั้นเพื่อให้พระสนมฮุ่ยเฟยกับเหลิ่งชิงฮวนดูเท่านั้นแหละ ผ่านไปสักสองสามวันพอข่าวลือผ่านไปแล้ว ตราประทับหงส์ก็จะกลับมาเพคะ ตำแหน่งของท่านเองก็จะไม่สั่นคลอนแล้ว”

ฮองเฮายกมือขึ้นมานวดระหว่างคิ้วของนาง “ที่จริงแล้วสองวันนี้แม่คิดอยู่ตลอดว่าเรื่องนี้ใครเป็นคนวางแผนขึ้นมากันแน่”

“ไม่มีใครหรอกเพคะ ก็เป็นพระสนมฮุ่ยเฟยกับเหลิ่งชิงฮวนร่วมมือกันไง?”

“เหลิ่งชิงฮวนไม่มีทางล้อเล่นกับลูกตัวเองเช่นนี้ อีกทั้งเรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนใช้วิธียืมมือคนอื่นฆ่าคนอยู่ จากนั้นก็โยนความผิดมาให้กับแม่ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”

“หลายปีมานี้วังหลังภายใต้การปกครองของเสด็จแม่ เหล่าบรรดานางสนมก็ล้วนเชื่อฟังดี ใครจะกล้ากันเล่าเพคะ อีกทั้งในบรรดาพวกนางมีไม่กี่คนที่สามารถเชิดหน้าชูตาได้ ”

“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ บางคนนั้นมองดูแล้วเชื่อฟังแม่หรือไม่ก็ไม่แย่งชิงความโปรดปราน แต่ใครจะรู้เล่าว่านางอาจจะมีความคิดชั่วร้ายอะไรอยู่”

หรูอี้นั่งลงด้านข้างของฮองเฮา “ไม่ว่าจะพูดออกมากี่รอบก็ไม่ใช่ว่าเพราะพี่สะใภ้ใหญ่ให้กำเนิดบุตรชายไม่ได้หรือเพคะถึงได้ทำให้คนพวกนี้มีความคิดไม่ดีขึ้นมา ไม่อย่างนั้นพี่ชายข้าอยู่จะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านได้เช่นไร”

เมื่อพูดถึงฉาเอ๋อร์ฮองเฮาก็ปวดใจยิ่งกว่าเดิม “ใครให้พี่ชายเจ้าไร้วาสนากัน? ให้กำเนิดบุตรออกมากี่คนล้วนแต่เป็นบุตรสาว แม่เองก็เฝ้าคอยมาหลายปีแล้วแต่ทุกครั้งก็ชวดไป”

หรูอี้จึงพูดเสียงเบาลงว่า “หม่อมฉันได้ยินมาว่าที่แคว้นหนานจ้าวมียาตำรับลับอยู่ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะทำให้สามารถตั้งท้องบุตรชายได้”

สีหน้าของฮองเฮาเย็นชาขึ้นทันที “เจ้าไปได้ยินใครพูดมา? วิชาแมลงกู่ของแคว้นหนานจ้าวนั้นชั่วร้ายมาก ถ้าไม่ได้เห็นเองก็เคยเห็นกับตาข้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่ควรไปมีเรื่องกับผู้หญิงแคว้นหนานจ้าว เจ้าไม่ควรไปติดต่อยุ่งเกี่ยวกับคนของแคว้นหนานจ้าว”

เสียงของหรูอี้หยุดไปชั่วคครู่ “เป็นเพราะชั่วร้ายถึงสามารถใช้ประโยชน์ได้เช่นไรเพคะ ท่านว่าพี่สะใภ้กินยาไปมากมายหลายตำหรับแล้วมีครั้งไหนบ้างที่ได้ผล อีกทั้งหม่อมฉันเองก็ไม่เคยได้ยินมาว่ามีหมอคนไหนที่มีความสามารถเช่นนั้น ไม่สู้ลองใช้วิธีที่ต่างออกไปแล้วลองมันดู”

ฮองเฮาขมวดคิ้วมองหรูอี้ “ไม่ได้ เสด็จพ่อของเจ้าไม่พึงใจกับวิชาแมลงกู่ของแคว้นหนานจ้าวมาก หากเอ่ยขึ้นมาจะต้องทรงพิโรธแน่”

“ถ้าพวกเราไม่พูดใครจะรู้กันล่ะเพคะ หรือว่าพวกเราจะนั่งรออยู่เช่นนี้ ถ้าหากว่าเสด็จพี่ใหญ่ไม่มีทายาท ในอนาคตตำแหน่งฮ่องเต้ ท่านคิดว่าจะยังมีที่พึ่งอยู่หรือเพคะ”

ใจของฮองเฮาสั่นไหว

“คนที่เจ้าหามานั้นเชื่อใจได้หรือ ยามั่วซั่วเช่นนั้นข้าไม่วางใจจะให้พี่เจ้าดื่ม ใครจะรู้กันละว่ามันจะมีปัญหาไหม”

หรูอี้ขยับกายเข้าไปใกล้ “ถ้าหากว่าเสด็จแม่ไม่วางใจ ที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากเพคะ ง่ายมาก หม่อมฉันจะพูดตรงๆเลยนะเพคะว่าคนที่ปรุงยานี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่คือองค์หญิงแคว้นหนานจ้าว ง่ายๆเลยคือเราจะให้เสด็จพี่แต่งนางเข้ามาเป็นพระชายารอง ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้แคว้นหนานจ้าวมาสนับสนุนเสด็จพี่ อีกส่วนหนึ่งนั้นในตัวของน่าจาอี๋นั่วนั้นมีวิชาลับอยู่ การจะให้กำเนิดบุตรชายสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องยากใช่ไหมเพคะ”

“น่าจาอี๋นั่วติดต่อเจ้ามาเองหรือ” ฮองเฮามองหรูอี้อย่างพิจารณา

หรูอี้ส่ายหน้า “ไม่ใช่เพคะ เป็นหม่อมฉันที่วางแผนขึ้นมาเอง”

สีหน้าของฮองเฮามืดครึ้มขึ้นทันที “โง่เง่า!”

หรูอี้ประหลาดใจ “ทำไมกันล่ะเพคะ”

“แม่เองก็เคยมีความคิดเรื่ององค์หญิงอี๋นั่วมาก่อน อีกทั้งยังเคยเปรยต่อหน้าเสด็จพ่อของเจ้าอย่างอ้อมๆมาแล้ว แม่จึงถูกพ่อของเจ้าสั่งสอนมา ตอนนั้นแม่คิดว่าองค์หญิงคนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพี่ชายของเจ้า

แต่ว่าหลังจากที่เกิดเรื่องของพระสนมฮุ่ยเฟยแล้ว ตอนนี้มันก็สายเกินไปที่จะสงสัยกันแล้ว ถ้าหากว่าเปรยจะให้นางมาเป็นพระชายารองด้วยตัวเอง แม่เกรงว่าความผิดนี้คงล้างออกจากตัวไม่ได้แล้ว อีกอย่างเจ้าลองคิดดูสิ ต่อให้น่าจาอี๋นั่วให้กำเนิดบุตรชายให้กับพี่ชายเจ้าได้ ด้วยฐานะของนางแล้วเสด็จพ่อของเจ้าอยากจะเฝ้ารอลูกของนางกับพี่ชายเจ้าถือกำเนิดมาหรือ”

หรูอี้พูดอะไรไม่ออกในทันที

ยังไม่ทันได้พูดแทนคนอื่นไปจบ จากความหมายของฮองเฮาแล้วนางไม่อนุญาตอย่างหนักแน่น

นางจึงยิ้มออกมาน้อยๆ “หม่อมฉันแค่พูดไปเช่นนั้นเท่านั้นเพคะ ทำไมเสด็จแม่ต้องตื่นตูมเช่นนี้ด้วยเล่า ไม่แต่งก็ไม่แต่งเพคะ หม่อมฉันจะดูว่าในบรรดาเสด็จพี่ใครกันที่จะมีวาสนานี้”

ฮองเฮาถอนหายใจออกมาเบาๆ ยังรู้สึกเสียใจเล็กน้อยราวกับว่าเนื้อก้อนใหญ่อยู่ตรงหน้าแล้ว แต่มันลอยเข้าไปในชามของคนอื่นแทน

แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

วันถัดมาเหลิ่งชิงฮวนนำแบบของชุดแต่งงานของลี่ว์อู๋ที่คิดเอาไว้ไปหาเจ้าของร้านผ้าไหมและสั่งเขาให้เหล่าช่างเย็บปักทำงานด่วนเพื่อตัดชุดแต่งงานออกมา

ยังไม่ทันที่เธอจะได้ออกไปไหน ที่แท้ก็เป็นผู้ดูแลภัตตาคารอาหารหงปิดมาขอพบเธอ

ไม่ได้พบกันหลายปีเขาก็เสียมารยาทมาเยี่ยมที่บ้าน เขาต้องมีเรื่องด่วนแน่

ชิงฮวนสั่งให้คนเชิญเขาเข้ามา

ในมือของผู้ดูแลภัตตาคารมีจดหมายฉบับหนึ่ง เขาส่งมันให้เหลิ่งชิงฮวน “ผู้สืบทอดของร้านเราส่งจดหมายมาขอรับรับ พระชายาโปรดทอดพระเนตร”

นับๆดูแล้วโฉวซือเส่าก็จากไปนานแล้ว นับว่าเขายังมีใจถึงได้ส่งให้คนส่งจดหมายมา

เธอจึงคลี่มันออกก็เห็นตัวหนังอยู่ไม่กี่ตัว : ถึงลูกชายและมารดาของเขา ให้เจียงหนานยืมองครักษ์อินทรี

ทั้งสองคนมีรหัสลับต่อกัน เฟยอิ้งหมายถึงตราประทับสารขององครักษ์อินทรี

โฉวซือเส่ามีดาบซ่อนอยู่ภายใต้เงื้อมมือของเขาซึ่งโดยมากจะอยู่ที่ยุทธภพ ส่วนองครักษ์อินทรีนั้นส่วนมากจะเน้นอยู่ที่สืบข่าวต่างๆในพระราชวัง ทั้งสองกลุ่มนั้นต่างคนต่างอยู่

ส่วนฐานะของเหลิ่งชิงฮวนนั้นก็เหมือนกับฉีจิ่งอวิ๋นในตอนแรกที่เป็นปริศนาเป็นอย่างมาก

ที่เจียงหนานมีผู้ควบคุมองครักษ์สีเงินโดยเฉพาะ ถ้าหากว่าเหลิ่งชิงฮวนต้องการคอยโอกาสและสถานที่ในการรอรับคำสั่ง เช่นนั้นก็สามารถให้พวกนางยืมป้ายคำสั่งไปติดต่อผู้ควบคุมองครักษ์สีเงินได้

ความหมายของโฉวซือเส่าคืออยากที่จะเคลื่อนไหวองครักษ์อินทรีในเจียงหนาน?

เหลิ่งชิงฮวนขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ การที่จะทำให้โฉวซือเส่าเคลื่อนไหวส่งข้อสารมาได้ย่อมเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ในเมื่อเขาไม่สามารถทำตัวเหนือกว่าคนอื่นที่เจียงหนานได้ นั่นเป็นตัวตนที่มีอำนาจ มีเรื่องอะไรกันถึงทำให้เขาต้องเปลี่ยนเป็นองครักษ์อินทรีกันนะ

“เขาได้สั่งอะไรอีกไหม”

ผู้ดูแลภัตตาคารส่ายหน้า

เหลิ่งชิงฮวนครุ่นคิด เธอยังไม่วางใจและมอบตราประทับขององครักษ์อินทรีให้กับผู้ดูแล้ว อีกทั้งยังกำชับกับผู้ดูและภัตตาคารให้ส่งมาเร็วไปที่เจียงหนานเพื่อดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

ผู้ดูและภัตตาคารรับคำ เขาหันไปเห็นผ้าต่วนหลิวอวิ๋นที่เหลิ่งชิงฮวนวางเอาไว้บนโต๊ะก็ร้องออกมาอย่างตกใจเล็กน้อย “หรือว่านี่คือผ้าต่วนหลิวอวิ๋นจากหอหนีฉางกันขอรับ”

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า

ผู้ดูแลจึงพูดออกมาอย่างตามใจว่า “เมื่อวานนี้ได้ยินมาว่ามีคนเข้ามาที่ร้านผ้าไหมในเมืองเพื่อขอซื้อผ้าต่วนหลิวอวิ๋นในราคาสูง ได้ยินมาว่าอยากจะทำชุดหงส์ให้กับไทเฮา จึงได้มอบหมายให้กับร้านผ้าไหมให้แอบขายออกไปเอง”

เหลิ่งชิงฮวนเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “ทำชุดหงส์ให้ไทเฮาออกคำสั่งไปที่เจียงหนานก็ได้แล้วนี่ ทำไมถึงต้องเปลืองแรงไปรีดไถที่ร้านผ้าไหมด้วย พวกข้ารับใช้อยากจะเอาใจหรือ”

ผู้ดูแลยังพูดออกมาอีกว่า “อีกอย่างไม่รู้ว่าทำไมเรื่องที่ท่านทำชุดให้องค์หญิงโดยใช้ผ้าต่วนหลิวอวิ๋นถึงได้แพร่กระจายออกไป ผู้คนจำนวนมากกำลังพูดกันถึงเรื่องนี้อยู่ขอรับ”

เมื่อพูดแบบนี้แล้วเหลิ่งชิงฮวนก็ตะลึงงันไปและรู้ว่าใครเป็นคนทำ

นอกจากหรูอี้แล้วก็ไม่น่ามีคนอื่นอีก

ทางด้านหนึ่งนั้นหล่อนก็ได้นำเรื่องที่เธอทำชุดแต่งงานให้กับลี่ว์อู๋กระจายให้คนทั่วไปรู้ไปทั่ว อีกด้านหนึ่งนั้นก็ออกคำสั่งไม่ให้เกิดการซื้อขายผ้าต่วนอวิ๋นหลิว มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการไม่เคารพต่อไทเฮา

เมื่อได้เวลาแล้วไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้และสูญเสียผู้มีอำนาจที่อยู่ข้างเธอไป อีกทั้งจะทำให้ลี่ว์อู๋กับจวนกั๋วกงไม่ได้หน้าไม่ได้ตาไปด้วย

นางนึกว่าเธอจะโง่ถึงขนาดจัไปขอซื้อผ้าต่วนหลิวอวิ๋นจากร้านผ้าไหมแต่ละร้านหรือไง เธอมีความสามารถอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับนางหรอก!

ชิงฮวนทำเพียงแค่ยิ้มออกมา เพื่อทำให้ต้องพบกับความลำบาก หรูอี้ทำได้ทุกทางจริงๆ

จิตใจอันคับแคบของนางผ่านไปแล้วห้าปีมันก็ยังเหมือนเดิม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา