ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 613

ฮ่องเต้เฒ่ามักจะคอยระมัดระวังป้องกันพี่น้องที่มีเจตนาไม่ดีคนนี้ของตนเองเสมอ แต่ด้วยความที่เห็นแก่ความเป็นพี่น้อง จึงไม่ได้ลงมืออะไรมาก อย่างมากก็แค่ลงโทษเล็กน้อย และตักเตือนเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดตามมาภายหลังเท่านั้น

แต่ว่าครั้งนี้เสด็จลุงรองสร้างเรื่องวุ่นวายใหญ่หลวง

การไปหาเรื่องกับโฉวซือเส่าก็เท่ากับไปหาเรื่องเหลิ่งชิงฮวน ชิงฮวนไม่มีความสุข ท่านอ๋องฉีก็จะโมโห พอโมโห ตัวการที่ก่อเรื่องชั่วย่อมไม่วันอยู่ได้อย่างสงบสุข

แต่ว่าจิ้นโจวมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้ และเสด็จลุงรองก็อาศัยอยู่ในจิ้นโจวเป็นเวลานานหลายปี ย่อมรู้จักที่นี่อย่างถ่องแท้ หากคิดอยากจะหนีออกไปน่าจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่จำเป็นต้องละทิ้งเงินเหล่านี้ไป

ทางด้านซีเหอ คนในครอบครัวของเสด็จลุงรองถูกควบคุมตัวเอาไว้ทั้งหมด และได้กักบริเวณพวกเขาเป็นที่เรียบร้อย

เหลิ่งชิงฮวนคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ เสด็จลุงรองเป็นคนที่ไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ครึ่งหลังของชีวิตที่เหลือสามารถอยู่อย่างสบายได้ และก็มีพอให้ครอบครัวของเขาใช้ได้อย่างสิ้นเปลือง ทำไมต้องทำให้มันวุ่นวายเช่นนี้ด้วย? หากข่าวที่เสด็จลุงกลายเป็นโจรแพร่กระจายออกไป ไม่น่าอายหรอกหรือ?

และคนในครอบครัวจะทำอย่างไร? หรือว่าเขาไม่คำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของภรรยาและลูกเลยหรือ?

ผู้บัญชาการฟู่ผู้นี้ก็เช่นเดียวกัน สมองน่าจะมีปัญหา ถึงได้คิดอยากจะฆ่าคนปิดปาก

โลภมากลาภหาย เป็นไปตามสัจธรรมที่ว่ามนุษย์โลภในทรัพย์สินจะเป็นเหตุไปสู่หายนะได้

มู่หรงฉีนำกองทัพทหารม้าออกค้นหาเป็นเวลาสองวันสองคืนติด แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเสด็จลุงรอง ราวกับว่ากำลังงมเข็มในมหาสมุทร เงินก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

เหลิ่งชิงฮวนถามอย่างสงสัย “หรือว่าเสด็จลุงรองจะหนีกลับไปที่จวนเหอซีหรือเปล่า? ถึงอย่างไรภรรยาและลูก ๆ ของเขาก็อยู่ในเหอซี แม้ว่าเขาจะสามารถหลบหนีไปได้ แต่ก็คงจะไม่นิ่งดูดายนั่งดูลูกเมียถูกตัดสินโทษได้หรอก”

“เขาไม่คำนึงถึงสถานการณ์ทางเสด็จป้ารองหรอก พวกเขาสองสามีภรรยาดูภายนอกสนิทสนมกันดีแต่ความจริงไม่ใช่ เป็นแค่ในนามกันเท่านั้น”

ทันทีที่ได้ยิน ก็รู้ว่ามีเรื่องราวอื่นแอบแฝงอยู่ด้วยสินะ

เหลิ่งชิงฮวนเริ่มเม้าท์มอย “แม้ว่าจะไม่สนภรรยา แล้วลูกชายล่ะ?”

มู่หรงฉีนิ่งเงียบไป “ในปีนั้น ตอนที่เสด็จปู่กับเสด็จย่าพระราชทานการอภิเษกสมรสให้ ได้ยินมาว่าเสด็จลุงรองมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว พูดอย่างไรก็ไม่มีทางรับปากเขาคุกเข่าอยู่นอกห้องทรงอักษรของเสด็จปู่เป็นเวลาสองวันสองคืนเต็มๆ

ต่อมาเนื่องจากไม่มีทางเลือกจึงต้องอภิเษกสมรสกับเสด็จป้ารอง แต่ว่าไม่เคยย่างเท้าเข้าไปในห้องเสด็จป้ารองเป็นเวลาหลายปี และไม่เคยรับใครมาเป็นนางสนมด้วย”

เหลิ่งชิงฮวนกะพริบตาปริบๆ “บีบบังคับให้คู่รักต้องแยกจากกันนิน่า เสด็จลุงก็ยอมทำตามเช่นนั้น และก็ตัดขาดกับคนรักของเขาไปงั้นหรือ?”

มู่หรงฉีส่ายหัว “น่าจะไม่ใช่อย่างนั้น มีครั้งหนึ่งที่เสด็จย่าเอ่ยตำหนิเสด็จป้ารองที่นางไม่รู้จักวิธีเอาอกเอาใจผู้ชาย ไม่สามารถมีทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูลได้ เสด็จป้ารองก็โกรธขึ้นมา จึงหลุดพูดอะไรไม่คิดต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก บอกว่าเสด็จลุงรองยังคงไม่ลืมผู้หญิงคนนั้น และเกรงว่าน่าจะมีลูกนอกสมรสกันแล้ว จะมาสนใจการสืบทอดเชื้อสายอะไรอีก?

เสด็จย่าโกรธมากเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงเรียกเสด็จลุงรองเข้าวังมาตำหนิหนึ่งรอบ นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ยอมเข้าหาเสด็จป้ารองและทั้งสองคนก็ให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน แต่อย่างไรก็ตาม ใคร ๆ ต่างก็มองออกว่าเสด็จลุงเหมือนจะทำสนิทสนมด้วยแต่ก็ยังดูห่างเหินอยู่ดี แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเหลียวมองจริง ๆ ด้วยซ้ำไป และสำหรับลูกชายของตนเอง เขาเองก็ไม่เคยมีความรักให้ในฐานะพ่อคนหนึ่งเลยสักนิด

ดังนั้นพูดได้เลยว่าถึงแม้เสด็จลุงรองจะรู้ว่าข้ากำลังตามล่าเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่มีทางที่จะคิดถึงพวกเขาสองแม่ลูกและกลับไปที่เหอซีหรอก”

เหลิ่งชิงฮวนแบะปากตัวเองเงียบๆ สิ่งที่คว้ามาได้มีเพียงคนรักที่ไม่อาจแต่งงานด้วยได้ กับคนที่แต่งงานด้วยแต่ไม่ได้รัก เขาจะต้องคิดถึงกันไปชั่วชีวิต ถ้าหากตอนแรกฮ่องเต้เฒ่าพระราชทานให้เขาแต่งงานกับคนที่เขารักคนนั้นจริงๆ ละก็ บางทีตอนนี้เขาอาจจะมองและเบื่อกันก็ได้ คงแต่งผู้หญิงที่มีเสน่ห์อีกมากมายเข้ามา และใช้ชีวิตอย่างอลม่านวุ่นวายก็ได้

น่าสงสารเสด็จป้ารองผู้นี้จริงๆ เอาแต่ลุ่มหลงในรักที่เป็นไปไม่ได้ แต่งงานผิดคน จนทำลายชีวิตทั้งชีวิต

ไม่มีบุญวาสนาที่จะเสพสุข ถึงตอนที่ต้องโทษ ตนเองก็ต้องเข้าไปพัวพันด้วย

“ผู้หญิงที่เสด็จลุงรองชอบคนนั้น ทำไมถึงไม่พานางเข้าจวนแล้วมอบฐานะให้เพื่อจะได้อยู่ด้วยกันล่ะ? หรือว่าจะอยู่หลบ ๆ ซ่อน ๆ ไปตลอดชีวิตเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา