ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 614

คนผู้นี้แต่งตัวเหมือนนายพรานทั่วไป แต่ใต้เสื้อหนาวผ้าฝ้ายกลับมีอาวุธที่ส่องประกายแวววับซ่อนอยู่ ตามที่นายพรานคนนั้นวิเคราะห์ คนที่พบรู้สึกจะไม่คุ้นหน้าอย่างมาก ต้องไม่ใช่นายพรานในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแน่นอน

นอกจากนี้นายพรานในพื้นที่ใกล้เคียงต่างก็คุ้นเคยกับพื้นที่บนภูเขาดีมาก โดยทั่วไปจะไม่โง่ทำตัวเองตกลงไปในหลุมหิมะ เพราะอย่างไรหิมะในจิ้นโจวก็ไม่ได้ตกมากขนาดนั้น

เมื่อรายงานจบทหารม้าเหล็กก็ยื่นดาบสั้นในมือส่งให้มู่หรงฉีด้วยความเคารพ “นี่คืออาวุธที่ค้นได้จากตัวผู้ตายขอรับ ลักษณะดูคุ้นตาเล็กน้อย”

มู่หรงฉีถือมาไว้ในมือและจ้องมองอย่างตั้งใจ มันไม่ได้ดูคุ้นตาเพียงเท่านั้น? แต่นี่เป็นดาบสั้นที่ทำออกมาโดยราชสำนักเมื่อสามปีก่อน ต่อมาถูกคัดทิ้งไปไม่เอาไปใช้

ทหารม้าเหล็กน่าจะจำได้ ดังนั้นจึงรู้สึกว่าคนผู้นี้มีตัวตนไม่ธรรมดา จึงรีบกลับมารายงานตัวเองทันที

เบาะแสนี้ดึงดูดความสนใจของมู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวนในทันที

ไม่ต้องเอ่ยถึงตัวตนของคนผู้นี้ชั่วคราว มาคุยเรื่องเพราะเหตุใดเขาถึงขึ้นไปบนเขาขณะที่หิมะตกหนักจนภูเขาถูกปิดทางเช่นนี้ ?

หรือว่าบนภูเขาแห่งนี้มีสมบัติอะไรงั้นหรือ?

มู่หรงฉีอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันที่ตัวเองติดตามเสด็จลุงรองไปวันนั้น เขาก็เอาแต่เที่ยวชมภูเขาชมแม่น้ำเออระเหยอยู่ใกล้บริเวณภูเขาอวี้หลิง และเบาะแสสุดท้ายของเส้นทางขนเงินจำนวนนั้นก็คือตรงขึ้นไปในภูเขาลูกนี้

ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ฉับพลันทันทีว่าเสด็จลุงรองจะต้องเอาเงินซ่อนไว้ในภูเขาอวี้หลิงเป็นแน่ ไม่ใช่แค่เดินผ่านไปอย่างเดียวแน่นอน!

การค้นพบครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาชั่วขณะ เช่นนั้นจึงรีบขี่ม้าไปยังสถานที่เกิดเหตุกับชิงฮวนทันที

ที่ว่าการอำเภอท้องถิ่นของภูเขาอวี้หลิงก็เพิ่งได้รับข่าวสารมาเช่นกัน แต่เป็นพวกมู่หรงฉีที่มาถึงก่อน ที่นั่นมีมือปราบอยู่สองคน เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพหนึ่งคน และยังมีผู้เฒ่าสัปเหร่ออีกหนึ่งคน เมื่อเห็นมู่หรงฉีก็คุกเข่าลงบนพื้นทันทีแม้แต่จะหายใจยังไม่ค่อยจะกล้า

เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพได้ทำการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นแล้ว และยืนยันได้เลยว่าคนผู้นี้ไม่ได้เสียชีวิตจากการฆาตกรรมอย่างแน่นอน หากมู่หรงฉีไม่มา ก็คงจะส่งศพไปที่ป่าช้าเพื่อรอให้คนมารับศพกลับไปแล้ว

มู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวนก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ

คนผู้นี้ตายแล้วอย่างแน่นอน

เขาลุกขึ้นและมองไปรอบ ๆ จากนั้นก็สอบถามไปยังนายอำเภอ “ตอนที่พวกเจ้ามาถึงที่นี่ แถวนี้มีร่องรอยของคนอื่นอีกหรือไม่?”

นายอำเภอส่ายหน้า “ตอนที่คนผู้นี้เข้ามาในภูเขาน่าจะเป็นช่วงเวลากลางดึกแล้ว และหิมะยังคงตกหนักอยู่ ดังนั้นรอยเท้าของเขารวมถึงร่างของเขาจึงถูกหิมะตกทับถมลงมาปกคลุม ไม่รู้ว่าเคยไปที่แห่งใดมาก่อน?”

พื้นที่โดยรอยถูกปกคลุมไปด้วยสีขาว จึงไม่สามารถค้นหาร่องรอยอะไรได้จริงๆ

คนผู้นี้ต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ถึงได้ยอมเสี่ยงเข้ามาบนภูเขาแห่งนี้!

“ถ้าเช่นนั้นแถวนี้พอมีที่ให้ซ่อนบ้างหรือไม่? เช่น ถ้ำหรือเหมืองอะไรทำนองนั้น หรือไม่ก็สถานที่ที่คนไม่สามารถเข้าถึงได้?”

นายพรานส่ายหัว “ข้าน้อยเดินบนภูเขาแห่งนี้เป็นประจำรู้จักพื้นที่นี่ดี โดยปกติจะมีน้อยคนนักที่จะเข้าไปในภูเขาลูกนี้ เพราะหากไปทางตะวันตกจะมีน้ำตกที่มีน้ำลึก มีคนเคยจมน้ำตายหลายคนที่นั่น ชาวเขาบอกว่าในภูเขามีวิญญาณชั่วร้าย จึงพากันสักการะและอยู่ห่างๆขอรับ”

มู่หรงฉีขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นกะทันหันราวกับว่าเข้าใจอะไรขึ้นมาโดยฉับพลัน และก็ค่อย ๆ ยิ้มออกมาอย่างชอบใจและรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา

“น้ำตกนั้นอยู่ห่างจากที่นี่ไกลแค่ไหน?”

นายพรานยกมือขึ้น “อยู่ฝั่งตรงข้ามขอรับ หากยืนอยู่บนไหล่เขานั้น ก็สามารถมองเห็นได้”

มู่หรงฉีคว้ามือเหลิ่งชิงฮวน “ตามข้ามา”

“ไปไหนหรือ?”

“ที่อยู่ของเงินนั้น ข้าคิดข้าเดาได้แล้ว”

“ท่านรู้แล้วหรือว่าอยู่ที่ใด?”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หัวใจเต้นรัวด้วยความดีใจทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา