เที่ยงคืน ประตูของตำหนักฉาวเทียนถูกเคาะเสียงดัง เคาะถี่มาก
มู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวนนอนหลับล้วนตื่นตัวอยู่เสมอ พวกเขารีบตื่นนอน รู้ว่าต้องมีเรื่องด่วนแน่
แม่นมเตียววิ่งเหยาะๆ ไปเปิดประตู
ประตูเปิดออกแล้ว องครักษ์ในจวนวิ่งมาอย่างรีบร้อน “มีคนมาจากจวนอ๋องเซวียน บอกว่าเชิญพระชายาไปที่จวนหน่อย”
เหลิ่งชิงฮวนเอาเสื้อคลุมไหล่และลุกออกจากเตียง รวมเสื้อคลุมแน่น และยกม่านผ้าฝ้ายขึ้น “มีอะไรหรือ จวนอ๋องเซวียนเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“คนรับใช้ข้างกายของพระชายาเซวียน บอกว่าองค์หญิงใหญ่ของจวนเป็นโรคฉุกเฉิน อาเจียนและท้องเสีย รบกวนพระชายาไปที่จวนหน่อย”
มู่หรงฉีรู้ว่าช่วยคนเหมือนกับดับเพลิง ไม่ควรจะบ่น แต่อดไม่ได้ที่จะถามว่า “หมอในจวนล่ะ”
“ท่านหมอไม่รู้จะจัดการอย่างไร คนส่งข่าวบอกว่าพระชายาเซวียนไปคุกเข่าขอร้องท่านอ๋องเซวียน ให้เขาไปสำนักหมอหลวงเชิญหมอหลวงมาดูที่จวนสักหน่อย แต่ท่านอ๋องเซวียนเข้านอนแล้ว ไม่เต็มใจเล็กน้อย พระชายาเซวียนจนปัญญา เห็นองค์หญิงแล้วเจ็บปวดใจ จึงสั่งให้คนมาที่จวน และรบกวนพระชายาไปหาหน่อย”
นอนหลับแล้ว เลยไม่เต็มใจอย่างนั้นหรือ
เหตุผลอะไรกัน เป็นพ่อคนได้อย่างไร เจ้าเป็นพ่อยังขี้เกียจเคลื่อนไหว สมควรแล้วหรือที่พวกเราต้องเดินทางไปหา มู่หรงฉีไม่ยินดีเล็กน้อย
ภรรยาใครใครก็รัก ดึกๆ ดื่นๆ ทรมานคนเช่นนี้
เหลิ่งชิงฮวนไม่พูดมาก นางเข้าใจสถานการณ์ของพระชายาเซวียนในตอนนี้ หากไม่ไร้หนทางจริงๆ คงจะไม่มาขอร้องตนเองถึงที่นี่
นางหันกลับไปเอากล่องยา ถึงแม้มู่หรงฉีจะตำหนิอยู่ภายในใจ แต่เขารู้ว่าความปลอดภัยของเด็กสำคัญ จึงรีบแต่งเนื้อแต่งตัว และสั่งให้เตรียมรถทันที
เหลิ่งชิงฮวนพูดขัดขวาง “พรุ่งนี้ท่านยังต้องไปค่ายทหาร อย่าตามไปเลย ให้องครักษ์ไปส่งหม่อมฉันก็พอ”
“ดึกมากแล้ว ข้าไม่วางใจ”
มู่หรงฉีเอากล่องยามาจากมือนาง และตามนางไปยังจวนอ๋องเซวียน
ในจวนอ๋องเซวียน พระชายาเซวียนกำลังร้อนใจเหมือนกับมดบนกระทะร้อน
หมอในจวนต้มยาและกรอกเข้าไปแล้ว แต่ยังคงแก้ปัญหาไม่ได้ เด็กสลบไปแล้ว กัดขากรรไกรแน่น แถมยังชักกระตุกตลอดเวลา
ไม่เห็นพระชายาเซวียนมาหลายวัน ดูซูบผอมเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด แถมผมเผ้าก็กระเซะกระเซิง ใบหน้าสกปรก ต่างจากรูปลักษณ์ในอดีตเป็นอย่างมาก
พอเห็นเหลิ่งชิงฮวน นางเหมือนกับเห็นดาวแห่งการช่วยเหลือ เข้าไปจับมือเหลิ่งชิงฮวนเอาไว้ “เจ้ามาได้ช่างดีจริงๆ! ชิงฮวน ขอร้องเจ้าล่ะ ช่วยซือเอ๋อร์ด้วย!”
ชิงฮวนไม่มีเวลาจะทักทายนาง “ท่านอย่าร้อนใจ ข้าขอดูอาการของเด็กก่อน”
พระชายาร้อนใจจนเทพหกตนหมดปัญญา หลีกทางอย่างรีบร้อน “ซือเอ๋อร์กินข้าวเย็น ก่อนเข้านอนก็บ่นว่าไม่สบายท้อง ข้าคิดว่าเป็นหวัดจากตอนกินอาหารช่วงเย็น จึงสั่งให้คนเอาน้ำร้อนประคบ ไม่เป็นอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ผลสุดท้ายข้าเพิ่งจะนอน นางก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียอย่างรุนแรง “
“ข้ารีบสั่งให้คนไปเรียกหมอในจวนมา บอกว่ากินของเสียเข้าไป เลยสั่งยาต้ม กินลงไปไม่เห็นจะดีขึ้น แถมยังชักกระตุกทั่วตัว เป็นไข้สูง และสลบไป น่ากลัวมาก”
“เดิมทีข้าไม่อยากรบกวนเจ้าตอนดึกดื่นจริงๆ แต่ว่า แต่ว่า…ข้าไม่หมดหนทางจริง”
พระชายาเซวียนหยิ่งยโสมาตลอด สถานการณ์จนตรอกของตนเองในขณะนี้ นางยากจะเอ่ยปากจริงๆ จึงทำการร่ำไห้กับเหลิ่งชิงฮวน นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่ายามโดดเดี่ยว คนแรกที่คิดจะขอความช่วยเหลือ จะเป็นเหลิ่งชิงฮวนที่ตนเองมองเป็นศัตรู”
ชิงฮวนพยักหน้า และปลอบโยนนาง “ท่านไม่ต้องเกรงใจ เด็กสำคัญ”
เข้าไปดูอาการของเด็ก ไม่ใช่โรคลำไส้อักเสบธรรมดาแล้ว ดูเหมือนว่าจะอาหารเป็นพิษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...