ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 639

มู่หรงฉีคอยอยู่ทางด้านนอกตลอด ไม่สะดวกเข้าไปในห้อง พอได้ยินอ๋องเซวียนพูดจาไม่เหมาะไม่ควร จึงต้องเข้ามา และลากอ๋องเซวียนออกไป

อ๋องเซวียนกล่าวโทษที่พระชายาเซวียนสร้างปัญหาอย่างไม่พอใจ ซือเอ๋อร์ซึ่งนอนอยู่บนเตียงถูกรบกวนจนตื่น พอได้ยินทั้งสองคนทะเลาะกัน จึงตกใจจนร้องไห้

พระชายาเซวียนเข้าไปกอดลูก กลั้นน้ำตากล่อมลูกเข้านอน

อาการของซือเอ๋อร์ดีขึ้นมาก ไม่ปวดท้องแล้ว จึงนอนหลับไปด้วยความง่วงอีกครั้ง

พระชายาเซวียนเช็ดน้ำตา และกัดขากรรไกรแน่น “เจ้าเห็นหมดแล้ว ข้าไม่มีอะไรที่ไม่กล้าพูด มู่หรงเซวียนถูกทำให้สติเลอะเลือน เดิมที เขาชอบแสวงหาความสุขจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรล้วนมีความพอดี”

“แต่ตอนนี้ เจ้าไม่รู้หรอกว่าน่าจาอี๋นั่วคนนี้เล่นลูกไม้อะไรที่เหลือทนภายในจวน ข้ายากที่จะพูดจริงๆ พูดแค่คำเดียวปากข้าล้วนสกปรก ปัจจุบันนี้คนรับใช้ภายในจวนล้วนแอบวิพากษ์วิจารณ์อยู่ลับหลังว่า จวนอ๋องเซวียนยังเทียบหอนางโลมไม่ได้ แต่มู่หรงเซวียนกลับหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น ไม่มีอารมณ์ทำสิ่งต่างๆ เอาแต่คลุกอยู่กับน่าจาอี๋นั่วและพวกนางสนม เสียงโลหะภาษาหมาป่า ช่างแสลงหูนัก”

“ข้ากลับพูดไม่ออกสักคำ คำเตือนที่หวังดีมักขัดหู คงเอือมระอาข้าจนทนไม่ไหวมานานแล้ว แต่ก่อนขัดขวางเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ ภายในวังคราวก่อนข้าสร้างความเดือดร้อน เขาเลยยิ่งมีเหตุผลทอดทิ้งข้า น่าจาอี๋นั่วคนนี้ ทำลายเขาหมดแล้วจริงๆ!”

พระชายาฉีพูดไม่ยั้งปาก เทความทุกข์ใจออกมาตรงหน้าเหลิ่งชิงฮวนอย่างหมดเปลือก

ความจริง ถึงแม้พระชายาเซวียนไม่บอก เหลิ่งชิงฮวนก็รู้ว่า พวกอุบายที่น่าเยี่ยไป๋ทำลายสตรี น่าจาอี๋นั่วได้ได้ยินได้เห็นบ่อยๆ จะไม่แตกฉานหรือ อ๋องเซวียนที่ปฏิบัติตามกฏตลอดมา จู่ๆ ได้พบเห็นกลอุบายที่เร้าใจและสดใหม่เหล่านี้ ต้องต้านทานไม่ไหวแน่

ได้แต่ฟัง ตนเองไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย

แต่ทว่า สำหรับวิธีการของน่าจาอี๋นั่ว ในใจกลับยิ่งสับสนและหาคำตอบไม่ได้

หากพิจารณาน่าจาอี๋นั่วตามบรรทัดฐานของคนธรรมดา นางทำแบบนี้ ไม่มีอะไรเลยเถิดจนต้องตำหนิ ถือว่าปกติมาก อย่างไรเสีย หลังจากสตรีคนไหนแต่งงานกับสามีแล้ว ไม่ใช่พยายามขอความรักจากอีกฝ่ายด้วยวิธีต่างๆ หรือ

แต่ทว่า น่าจาอี๋นั่วแตกต่างออกไป นางไม่ใช่สตรีธรรมดา ในใจของนาง ความแค้นของชาติสำคัญมากกว่าความรักระหว่างชายหญิงพวกนี้ นางมีความปรารถนาอันแรงกล้า ฉลาดและมองการณ์ไกล

นางทำการแพร่ข่าวออกไปเช่นนี้ ทำให้อ๋องเซวียนมัวเมาอยู่กับนารี จนสูญเสียปณิธานอันแน่วแน่ ไม่กลัวฮ่องเต้จะโกรธเคืองจนตำหนิและลงโทษนางหรือ

นางคงจะไม่ใช้วิธีการแบบนี้ มายั่วฮ่องเต้ให้เกิดโทสะ และส่งตนเองกลับหนานจ้าวกระมัง

ขณะที่เหลิ่งชิงฮวนกำลังมึนงง ด้านนอกมีคนวิ่งเข้ามาในลานบ้านของพระชายาเซวียน และร้องตะโกนอย่างกระสับกระส่าย

“ท่านอ๋อง พระชายา แย่แล้ว จวนของพวกเราเกิดไฟไหม้แล้ว!”

คนพูด คือคนขับรถม้า

เหลิ่งชิงฮวนลุกขึ้นด้วยความตกใจ พลันพุ่งออกไปด้านนอกประตู มู่หรงฉีสาวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และถามอย่างร้อนใจว่า “เกิดอะไรขึ้น”

คนขับรถม้าเป็นกังวลจนหอบหายใจแรง “คนจากจวนมารายงานว่า ห้องครัวเกิดไฟไหม้กะทันหัน สถานการณ์รุนแรงมาก แถมไฟยังลุกไหม้ขึ้นมาด้วยแรงลม!”

ดูเวลา ล่วงเลยเที่ยงคืนไปแล้ว ท้องฟ้ากำลังจะสว่าง ไฟภายในห้องครัวใหญ่ล้วนปิดสนิท อยู่ดีๆ เกิดไฟไหม้ได้อย่างไร

ทั้งสองคนไม่มีเวลาถามรายละเอียด แม้แต่กล่องยายังไม่มีเวลาหยิบ วิ่งออกจากจวนอย่างเร่งรีบ กระโดดขึ้นรถม้า และมุ่งหน้าไปยังจวนฉีอ๋อง

เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อ๋องเซวียนไม่อาจเมินเฉย สั่งให้คนรหยิบกล่องยา และตระเตรียมม้า ติดตามทั้งสองคนไป

ทั้งสองเร่งเดินทางกลับจวนฉีอ๋อง สถานการณ์เพลิงไหม้ถูกควบคุมแล้ว เต็มไปด้วยกลิ่นไหม้เกรียม

ใบหน้าของรองแม่ทัพอวี๋ดำสนิท เห็นเพียงตาขาวสองข้าง สั่งการให้องครักษ์ดับไฟและกอบกู้สิ่งของอย่างเสียงดัง

“เกิดอะไรขึ้น” มู่หรงฉีขมวดคิ้วถาม

“รายละเอียดของเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร ผู้น้อยยังไม่ทันได้สอบถาม แต่ตอนนี้ยืนยันได้ว่ามีคนจงใจวางเพลิง”

จงใจวางเพลิงหรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา