ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 656

ทั้งคู่อับจนหนทาง ตัดสินใจไปที่จวนมหาเสนาบดี เพื่อปรึกษากับเสนาบดีเหลิ่งว่าเรื่องนี้จะจัดการอย่างไรดี

ในจวนมหาเสนาบดี เสนาบดีเหลิ่งยังไม่กลับมา น่าจะเป็นเพราะวิ่งวุ่นเรื่องชิงเจียวอยู่

บังเอิญเจอกับเซวียอี๋เหนียงเข้าพอดี หรืออาจกล่าวได้ว่า เซวียอี๋เหนียงได้ยินว่าเหลิ่งชิงฮวนแวะมาเยี่ยม ก็เลยตั้งใจออกมาต้อนรับ

เห็นเหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีเคยจัดเตรียมงานมงคล จึงถามอย่างเกรงใจ “พระชายา หม่อมฉันมีเรื่องอยากที่จะขอความช่วยเหลือเพคะ”

มู่หรงฉีเข้าไปหาเหลิ่งชิงเฮ่อเพื่อปรึกษาแผนการรับมือก่อน

เหลิ่งชิงฮวนถาม “มีอะไรเหรอ?”

“บังเอิญวันนี้ชิงเหยากลับมาที่จวนพอดี พักอยู่ที่จวนหลังเล็ก หม่อมฉันอยากให้ท่านช่วยไปดูหน่อย ตรวจดูชีพจรให้นางหน่อยได้ไหม?”

เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงครั้งก่อนตอนที่อยู่ในวังหลวง เรื่องที่อ๋องเซวียนและเหลิ่งชิงเหยาห่างเหินไม่แสดงท่าทีกับตัวเอง นี่เป็นการเอาหน้าร้อนๆไปติดก้นเย็นอย่างแท้จริง เหตุนี้จึงสายหัว “ที่จวนอ๋องเฮ่ามีหมอประจำอยู่แล้ว และมีวิธีการดูแลเป็นของตัวเอง อีกอย่างแต่ละคนมีด้านเก่งไม่เหมือนกัน ข้าเองก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญด้านนี้”

เซวียอี๋เหนียงไม่ยอมหยุด “พระชายาท่านไม่ใช่คนนอก หม่อมฉันจะบอกความจริงกับท่าน เมื่อวันก่อน มีแมงมุมพิษแอบหลุดเข้าไปในห้องชิงเหยาสองตัว นางตกใจ ล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้น

แม้ชิงเหยาจะพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่เป็นอะไร แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องเล็กหรือไง? หม่อมฉันไม่มั่นใจ ท่านดูให้หน่อยเถอะ หม่อมฉันถึงจะวางใจได้”

เหลิ่งชิงฮวนปฎิเสธอีกครั้ง “ดูท่านสิ นี่ไม่ใช่เพราะคิดมากเกินไปแล้วเหรอ? ท่านอ๋องเฮ่าเป็นพ่อแท้ๆของเด็กคนนี้ ย่อมหวงแหนเด็กคนนี้มากกว่าใครๆ หากชิงเหยาร่างกายผิดปกติ จะไม่รักษาให้นางอย่างนั้นเหรอ? ยาย่อมมีพิษสามส่วน ตอนนี้ชิงเหยากำลังตั้งครรภ์ ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ต้องกินยา”

เซวียอี๋เหนียงยังคงมีสีหน้ากังวล “ในฐานะคนเป็นแม่ ย่อมไม่วางใจ อีกอย่าง การที่จวนอ๋องเฮ่ามีเด็กคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จะมีเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด ทำให้พระชายาต้องหัวเราะเยาะแล้ว”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง เหลิ่งชิงเหยาก็รีบเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง ข้างหลังมีหญิงวัยอายุประมาณสี่สิบกว่า หน้าตาดูใจร้าย มองตาก็รู้ว่าไม่ใช่คนใช้ของจวนมหาเสนาบดี

อยู่ห่างออกไปไกล ชิงเหยาก็ถามด้วยน้ำเสียงฮึดฮัด “ข้าบอกท่านตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้ว ว่าข้าไม่เป็นอะไร ทำไมท่านถึงต้องมารบกวนท่านพี่ด้วย?”

เซวียอี๋เหนียงถูกลูกสาวตำหนิ ไม่สนใจแม้แต่น้อย พูดอธิบายท่าทางอึกอัก “ท่านพี่ของเจ้าไม่ใช่คนนอก เจ้าจะกลัวอะไร?”

เหลิ่งชิงเหยาทนไม่ไหว “ทำไมท่านถึงได้เรื่องมากขนาดนี้นะ? ก็แค่ตั้งครรภ์ ดูท่านสิ โวยวายจนคนทั่วทั้งโลกรู้หมดแล้ว ไม่กลัวคนหัวเราะเยาะ ทุกวันท่านพี่งานยุ่งขนาดนั้น ไหนเลยจะมีเวลาว่างเหมือนท่านกันล่ะ?”

มีคำว่ากระอักกระอ่วนเขียนตัวใหญ่อยู่บนหน้าเหลิ่งชิงฮวน

คำพูดของเหลิ่งชิงเหยาเหมือนติดหอกพกกระบอง มีนิสัยแบบนี้ ตัวเองชินมาตั้งนานแล้ว ทว่า นี่สั่งสอนเซวียอี๋เหนียงอย่างแรงต่อหน้าต่อตาตัวเอง ตัวเองยืนมองอยู่ข้างๆ ไม่สบายใจเลยจริงๆ

เอ่ยปากคั่นกลางด้วยความหวังดี “มีประโยคที่ว่าอาศัยว่าตนเองเป็นคนโปรดจึงหยิ่งยะโส เป็นเช่นนี้จริงๆ ข้าในฐานะพี่สาว เห็นเซวียอี๋เหนียงเป็นห่วงเอาใจเจ้าทุกอย่างเช่นนี้ ก็รู้สึกอิจฉาตาร้อน แต่กลับพูดกับแม่ตัวเองอย่างกำเริบเสิบสานแบบนี้อีก”

เหลิ่งชิงเหยาเองก็รับรู้ถึงความผิดปกติของตัวเอง “ต้องขอโทษด้วยนะ ท่านพี่ ข้าไม่ได้มีความหมายอื่นใด ก็คือหลังจากที่ข้าตั้งครรภ์ท่านแม่ของข้าก็ขี้กลัว ระมัดระวังเกินไป ตลอดทั้งวันไม่อนุญาติ นั่นก็ไม่ได้ ข้าแทบจะอัดอั้นตันใจแล้ว ท่านดูสิว่าข้าร่างกายแข็งแรงแค่ไหน เหมือนกับคนผอมเหมือนกระดาษที่โดนลมพัดปลิวเหรอ?”

“ไม่ใช่แม่ที่กระต่ายตื่นตูมไปเอง เป็นสาวรับใช้ที่ปรนนิบัติเจ้าบอกว่าเห็นเจ้านั้นเลือดออก...”

“หุบปาก!” ทันใดนั้นเหลิ่งชิงเหยาก็พูดออกมา ด้วยน้ำเสียงดุดัน

เซวียอี๋เหนียงตกตะลึงทันที หลังจากนั้นขอบตาก็แดงอย่างเห็นได้ชัด แอบยกมือขึ้นปาดน้ำตา

การไกล่เกลี่ยครั้งนี้เหลิ่งชิงฮวนไม่อยากจะทำมันแล้ว

ว่ากันตามกฎแล้ว ตอนนี้เหลิ่งชิงเหยาเป็นพระชายารองจวนอ๋อง แต่เซวียอี๋เหนียงเป็นเพียงแค่ภรรยาน้อยที่ไม่ได้ออกหน้าออกตา เมื่อเห็นเหลิ่งชิงเหยาก็ต้องทำความเคารพ นับประสาอะไรกับการถูกตำหนิ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา