อีกฝ่ายกัดฟันแน่และคว้าข้อมือของเหลิ่งชิงฮวนเอาไว้ได้ หลังจากนั้นเขาก็กระโจนจากไปโดยใช้ดาบยาวค้ำยันเอาไว้เพื่อประคองร่างกาย เขามองไปรอบๆอย่างที่จะพาตัวเองออกไปจากอันตราย
ใต้เท้าหลู่กับคนที่สวมผ้าคลุมหน้าคนนั้นได้หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ชิงฮว่าเองก็ลุกขึ้นมาจากพื้นที่มีควันและร้องออกมาอย่างตกใจว่า “พี่ใหญ่!”
ชิงฮวนที่ยังคงจมอยู่กับการกระโจนตัวออกไปอย่างไม่สนใจร่างกายตัวเองของคนเมื่อครู่ก็พยายามลุกยืนขึ้น “ข้าไม่เป็นอะไร!”
ชิงฮว่าร้องออกมาอย่างตื่นเต้นยินดี “ผู้ยอดยุทธ์ ท่านบาดเจ็บ!”
ชายที่สวมหน้ากากผียืนตรงหน้าเหลิ่งชิงฮวน เปลวไฟที่กำลังลุกโชน เหลิ่งชิงฮวนมองไม่ชัดว่าแผ่นหลังของเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่
“เจ้าได้รับบาดเจ็บ?”
อีกฝ่ายหนึ่งไม่พูดอะไรเขาทำเพียงแค่ค่อยๆยืดตัวตรงราวกับกำลังอดทนต่อความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ที่บริเวณไม่ไกลก็มีเสียงตะโกนดังของคนมากมายดังลอดมา คนของมู่หรงฉีมาถึงแล้ว
เธอได้ยินเสียงตะโกนอย่างกระวนกระวายใจของมู่หรงฉีดังผ่านความเงียบยามค่ำคืน “ชิงฮวน!”
เหลิ่งชิงฮวนตอบรับ “หม่อมฉันอยู่นี่!”
ชายสวมหน้ากากผียกดาบยาวขึ้นแล้วมองเธออย่างลึกซึ้ง จากนั้นเขาก็เดินไปอีกทางอย่างกะโผลกกะเผลก เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่ขา
“ช้าก่อนท่านจอมยุทธ์!” เหลิ่งชิงฮวนลองรั้งเขาเอาไว้ “ข้ารู้จักท่านใช่ไหม ท่านเป็นใครกันแน่”
ชายสวมหน้ากากผีไม่หยุดฝีเท้า เขาได้เดินไปไกลแล้ว และมีเสียงลอยมาจากไกลๆว่า
“เราคือคนธรรมดาทั่วไปที่สามารถทำเรื่องผิดพลาดกันได้”
น้ำเสียงของเขามีความเย็นชาและอ้างว้าง อีกทั้งยังมีความห่างเหิน
เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ตามเขาไป เนื่องจากมู่หรงฉีได้พาคนเข้ามาแล้ว เขากอดเธอเอาไว้ในอ้อมอกราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป
“ชิงฮวน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
ชิงฮวนส่ายหน้า “วางใจเถอะ หม่อมฉันไม่เป็นไร”
โฉวซือเส่าเดินวนไปมารอบทั้งสองคน เขาอยากกอดแต่ไม่มีโอกาส
“เจ้านี่มันเนื้อหอมจริงๆ ลูกโตขนาดนี้แล้วยังมีคนคิดถึงอีก”
“คิดถึงกับผีสิ เจ้าดูตรงไหนว่าเหมือนข้าถูกฉุด ฆ่าปิดปากน่ะสิ ฝุ่นเต็มหัวเต็มหน้าข้าจนแทบรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ เจ้ายังจะมาพูดให้รู้สึกแย่อีก”
โฉวซือเส่าหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ “แต่ละครั้งยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ระเบิดฟ้าคำรณก็ได้ใช้ดูท่าว่าคนที่ลักพาตัวเจ้าครั้งนี้จะไม่ใช่เล่นๆ บอกมาหน่อยสิว่าผู้หญิงอย่างเจ้าต่อให้ถูกลักพาตัวไป คนอื่นก็คงรับใช้ไม่ไหวหรอก อย่างมากสุดก็สองวันก็ต้องเอากลับมาคืนแต่โดยดีแล้ว มู่หรงฉีก็ใจร้อนเกิน เขาทำตัวเหมือนกับมีไฟมาล้นที่ก้น”
มู่หรงฉีไม่สนใจเขาที่พูดไม่หยุด ไม่ใช่แค่เขาที่ร้อนใจ โฉวซือเส่าจะมาแกล้งทำเป็นใจเย็นทำไม?
“ใครลักพาตัวเจ้ามา”
“คนมั่วเป่ย ใต้เท้าหลู่ แต่ว่าหม่อมฉันสงสัยกองกำลังอีกส่วนหนึ่งของพวกเขาว่าน่าจะเป็นคนของเสด็จลุงรองเพคะ”
“ใต้เท้าหลู่? คนแคว้นมั่วเป่ยช่างบังอาจ ถึงกับกล้ามาถึงฉางอันเพื่อลักพาตัวเจ้า?” มู่หรงฉีรู้สึกตกใจเล็กน้อย
ต่อหน้าองครักษ์จำนวนมากเหลิ่งชิงฮวนไม่ได้บอกมู่หรงฉีถึงเป้าหมายที่แท้จริงของใต้เท้าหลู่ มันเป็นการถูกบีบให้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดโดยไร้ทางเลือก
มู่หรงฉีเห็นว่าเธอปลอดภัยดีก็วางใจและจะพาทหารไล่ตามใต้เท้าหลู่กับคนของเสด็จลุงรอง
เหลิ่งชิงฮวนกำขับกับเขาอย่างไม่สบายใจว่า “ฝ่ายนั้นมีปืนและยังมีระเบิดฟ้าคำรณ ตอนนี้มืดขนาดนี้พวกท่านเองก็ไม่คุ้นกับพื้นที่ที่นี่ มันอันตรายมากจะต้องระวังตัวนะ”
มู่หรงฉีพยักหน้า “เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่ให้มันหนีไปได้แน่! ถ้าแค้นนี้ไม่ได้ชำระ ข้าก็ไม่ถือว่าตัวเองเป็นลูกผู้ชาย”
ทั้งสองคนสนใจแต่พูดคุยกัน มีเพียงโฉวซือเส่าที่รู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เขากวาดสายตามองรอบๆแล้วถามด้วยหัวใจที่หล่นวูบว่า “น้องสาวเจ้าล่ะ?”
ทุกคนมองไปรอบทิศทาง เหลิ่งชิงฮว่าอยู่ที่ไหนกัน?
เมื่อครู่นี้ตอนที่มู่หรงฉีมาถึงเห็นๆอยู่ว่าเธอยังอยู่ เธอตัวคนเดียวจะไปที่ไหนได้
ขอแค่เธอไม่ตกอยู่ในเงื้อมมือของใต้เท้าหลู่อีก ที่ตัวเธอยังมีระเบิดฟ้าคำรณเอาไว้ป้องกันตัวเองอยู่อีกหนึ่งลูก น่าจะไม่มีอันตรายถึงชีวติ
น้ำแกงร้อนๆกับข้าวถึงยกเข้ามา เหลิ่งชิงฮวนทำความสะอาดมือและประคองชามข้าวเอาไว้อย่างใจร้อน
ฟ้ากว้างแผ่นดินใหญ่ การกินข้าวเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด มู่หรงฉีที่เห็นเธอเป็นปกติก็วางใจลงและส่งคนให้ไปแจ้งที่จวนมหาเสนาบดีว่าปลอดภัย
อาหารวันนี้น่าจะเป็นเพราะแม่นมเตียวเตรียมมันอย่างรีบร้อน ซึ่งมันถูกทำออกมาอย่างไม่ค่อยน่าพอใจนัก เครื่องเคียงเป็นปลาหมักเหล้า ไก่น้ำลายสอและยังมีผักดองแปดสมบัติ
เมื่อก่อนปลาหมักเหล้านั้นรสชาติถูกปาก วันนี้กินกับโจ๊กแล้วไม่เข้ากันอย่างมาก ข้าวหอมร้อนๆถูกส่งเข้าไปในปากเธอทันใดนั้นกลิ่นเหล้าข้าวกับกลิ่นคาวปลาก็กระจายไปทั่ว เมื่อรวมกันจึงออกมาเป็นรสชาติประหลาดจนขึ้นสมอง
เหลิ่งชิงฮวนพยายามกลืนมันลงไป หลังจากนั้นเธอก็คีบผักดองแปดสมบัติขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อต้องการกลบกลิ่นคาว
อึดใจเดียวเธอก็ทนไม่ไหว ความเปรี้ยวตีรันขึ้นมาทางลำคอ เธอหันไปอาเจียน
“เป็นอะไรไป” มู่หรงฉีถามอย่างเป็นห่วง
เหลิ่งชิงฮวนโบกปัด เธออยากจะบอกว่าไม่เป็นอะไร เครื่องเคียงเองก็กินยากมาก ท้องของเธอปั่นป่วนอีกครั้ง เธอรีบใช้ปลายลิ้นดันไปบนเพดานปากแต่ก็ทำได้แค่ขยับลิ้นไปมาอย่างยากลำบาก
แม่นมเตียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างๆมาโดยตลอดก็รีบรินน้ำชาให้ จากนั้นก็ให้โตวโตวไปเอาอ่างล้างมือมา
เหลิ่งชิงฮวนประคองถ้วยน้ำชาเข้ามาและจะดื่มมันเข้าไป แต่ท้องของเธอก็ปั่นป่วนอีกครั้งจนเธอต้องหันไปอาเจียน
มู่หรงฉีตกใจ เขาเข้าไปลูบหลังให้เธอเบาด้วยใบหน้าร้อนอกร้อนใจ “หมอล่ะ? รีบให้เข้ามาเร็ว!”
ท่านหมอเจียงที่ได้รับคำสั่งก็สะพายกล่องยาเข้ามา
แต่การอาเจียนของเหลิ่งชิงฮวนนั้นไม่สามารถเก็บอาหารได้ ถึงแม้ว่าในท้องของเธอจะว่างเปล่า อาจจะเป็นกรดไหลย้อนเธอจึงอาเจียนออกมาเป็นน้ำเปรี้ยว และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ
“ไม่เป็นไร ก็แค่ปลาหมักเหล้าพอกินไปแล้วคาวไปหน่อย ข้าเลยคุมตัวเองไม่ได้”
แม่นมเตียวที่อยู่ด้านข้างก็ยิ้มออกมาพร้อมตบมือฉาดหนึ่ง “พระชายาเพคะ ไม่ใช่ว่าท่านน่าจะมีอีกแล้วนะเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...