ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 686

สรุปบท ตอนที่ 686 เจ้าจะร้อนใจหน่อยไม่ได้หรือ?: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

อ่านสรุป ตอนที่ 686 เจ้าจะร้อนใจหน่อยไม่ได้หรือ? จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล

บทที่ ตอนที่ 686 เจ้าจะร้อนใจหน่อยไม่ได้หรือ? คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฉลิมพล อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

โฉวซือเส่าเปิดเปลือกตาของเขาและมองไปที่สาวงามทั้งสองอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งสองคนรู้สึกว่าปากแห้งและตื่นตระหนกราวกับหัวใจจะกระโดดออกมา

“แล้วทำไมท่านอ๋องของเจ้าถึงรักพระชายาล่ะ?”

ทั้งสองคนไม่รู้ แต่พวกนางแค่คิดว่ามังกรที่กล้าหาญและสง่างามในหมู่มนุษย์เช่นมู่หรงฉีจะหลงใหลในตัว เหลิ่งชิงฮวนได้อย่างไร? ซ้ำยังไม่ให้สตรีอื่นเข้าใกล้?

“สิ่งนี้เรียกว่าเอาเกลือแต้มเต้าหู้ มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”

โฉวซือเส่ามองทั้งสองคน “แล้วเต้าหู้ของพวกเจ้าใช้อะไรแต้ม?”

คำพูดเหล่านี้เป็นการยั่วยุอย่างเห็นได้ชัด ความสุขในดวงตาของพวกนางทั้งสองไม่สามารถปกปิดได้ พวกนางหัวเราะตัวโยน “ที่แท้ฝีปากของท่านโฉวก็โหดร้ายถึงเพียงนี้”

“ไม่ใช่ว่าสตรีชอบคนเลวหรือ ดูมู่หรงฉีที่ปกติแบบนั้นพวกเจ้ายังไม่กล้าทำตัวแบบนี้ต่อหน้าเขาเลย”

“พวกเราต้องมีความกล้าด้วย ข้าได้ยินมาว่าชายารองตายอย่างน่าอนาถ”

มุมฝีปากของโฉวซือเส่าโค้งขึ้นเล็กน้อย เฟิ่งเหล่ยอวี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกถึงความเย็นที่ริมฝีปากของเขา ปกติแล้วเวลาที่เขายิ้มแบบนี้อีกฝ่ายจะรู้สึกทรมาน

เจ้าสามและเจ้าสี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่รู้ พวกนางยังคงเกี้ยวพาราสีและแอบมองเขาอยู่

โฉวซือเส่าชี้นิ้วไปที่ทั้งสองคน “มานี่”

ทั้งสองรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างดีใจ คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนหนึ่งอยู่ทางขวา ผลักเฟิ่งเหล่ยอวี้ไปด้านข้าง ท่าทางสะดีดสะดิ้งพร้อมกับรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย

“อนาถหรือ? อนาถแค่ไหน?”

ทั้งสองแสดงความเห็นอกเห็นใจเกินจริง “โดนทรมานจนไม่เหลือสภาพ โดนทุบตีจนตายแบบนี้ยังไม่เรียกว่าอนาถอีกหรือ?”

โฉวซือเส่ายกตัวขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของเขา เขาพูดอย่างเย็นชากับทั้งสองคน “ข้าอยากจะบอกพวกเจ้าว่า หากพวกเจ้าคิดจะแย่งชิงของของเหล่ยอวี้ ข้าจะทำให้พวกเจ้าตายอนาถเสียยิ่งกว่า!”

มือของสาวงามทั้งสองแข็งค้าง พวกนางยังไม่ทันได้เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ โฉวซือเส่าถึงปล่อยรังสีสังหารออกมาเช่นนี้

เมื่อกี้เขาก็หยอกร้อต่อกระซิกกับพวกนางอยู่ไม่ใช่หรือ?

โฉวซือเส่าเห็นว่าทั้งสองคนยังไม่ขยับไปไหน เขาจึงยกริมฝีปากขึ้นอย่างเย็นชาอีกครั้ง “ออกไป! หรือต้องให้ข้าไปส่งพวกเจ้า?”

จากนั้นสาวงามทั้งสองก็เข้าใจความหมายของคำพูดของโฉวซือเส่า

เดิมทีพวกนางคิดว่าไม่สามารถเข้าถึงมู่หรงฉีได้ แต่ก็คงไม่เท่ากับโฉวซือเส่าที่น่าจะเกี้ยวพาได้ง่ายกว่า

นอกจากนี้ยังได้ยินว่าเฟิ่งเหล่ยอวี้เป็นเพียงเด็กรับใช้ ที่ฉวยโอกาสปีนขึ้นไปบนเตียงของเจ้านาย เปลี่ยนนกกระจอกให้กลายเป็นหงส์

พวกนางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเฟิ่งเหล่ยอวี้ จะต้องมีโอกาสแน่ๆ

ดังนั้นจึงใช้ประโยชน์จากมิตรภาพของเฟิ่งเหล่ยอวี้ครั้งแล้วครั้งเล่า และใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกรูปแบบ แต่ใครจะรู้ว่าพวกนางจะเจอกำแพง

ทั้งสองคนสีหน้าไม่สู้ดีก่อนจะเดินจากไป

โฉวซือเส่าเอ่ยเรียก “เดี๋ยวก่อน”

ทั้งสองคนชะงัก รู้สึกมีความหวังอีกครั้ง

โฉวซือเส่าเน้นคำพูด “ข้าลืมบอกไป พวกเจ้าไม่สามารถแย่งของเหล่ยอวี้ได้ ขณะเดียวกันก็กลับไปบอกพกน้ำเต้าเหล่านั้นว่าคนที่ชิงฮวนชอบก็ด้วย ข้าจะฆ่าใครก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของข้า”

เห็นได้ชัดว่าคำพูดเหล่านี้เอ่ยออกมาช้าๆ แต่ทั้งคู่ก็เหงื่อแตกและหนีไปด้วยความตื่นตระหนก

เฟิ่งเหล่ยอวี้ยืนอยู่ข้างๆ กัดริมฝีปากล่างของนางอย่างงุ่มง่าม รู้สึกหนักใจอยู่พักหนึ่ง รู้สึกราวกับว่านางทำอะไรผิดไป

โฉวซือเส่าเหล่ตามองนาง “คนอื่นอยากได้ผู้ชายของเจ้า แต่เจ้าก็ยังต้อนรับ นี่คิดจะมอบข้าให้พวกนางงั้นหรือ?”

เฟิ่งเหล่ยอวี้ส่ายหน้าอย่างประหม่า “ไม่เจ้าค่ะ”

“ถ้าเป็นพวกชิงฮวนก็คงจะมาช่วยกันหามเจ้าโยนออกไปแล้ว เจ้าเห็นไหม พอพวกนางแย่งมู่หรงฉีไม่ได้ก็วิ่งแจ้นไปแย่งของคนอื่น เจ้าจะร้อนใจหน่อยไม่ได้หรือ?”

เฟิ่งเหล่ยอวี้เงยหน้าที่แดงระเรื่อขึ้น ราวกับมีดอกไม้ผลิบานบนใบหน้านาง นางรีบพยักหน้า “เจ้าค่ะ”

โฉวซือเส่ายกมือขึ้นแตะดั้งจมูกของเธอ “ลูกชายจะมีชื่อเสียงและสง่างามเหมือนข้า ลูกสาวจะน่ารักเหมือนเจ้า”

เฟิ่งเหล่ยอวี้ส่ายหน้า “เหมือนท่านทั้งหมดดีกว่าเจ้าค่ะ ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะเทียบท่าได้ ข้าภูมิใจมาก”

โฉวซือเส่าลูบผมของนาง จับศีรษะของนางและกดริมฝีปากของเขาเข้ากับริมฝีปากของนางด้วยความรู้สึกท่วมท้น

ปลายนิ้วของมืออีกข้างหนึ่งเลื่อนลงมาปลดสายเข็มขัดของนางเบาๆ

ภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น ผิวของเฟิ่งเหล่ยอวี้เปล่งประกายแวววาวละเอียดอ่อนราวกับกระเบื้องเคลือบสีขาว จากนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นชั้นสีแดงเลือดนก

พวกเขาโอนเอนไปมาบนเก้าอี้ราวกับเรือลำน้อยที่ฝ่าคลื่นลม

กลีบดอกซิ่งปลิวว่อนลงมาจากต้นไม้ ตกลงบนผมและแผ่นหลังสวยราวกับหยกของเฟิ่งเหล่ยอวี้ มีสีสันราวกับหยาดฝน

ลูกกระเดือกของโฉวซือเส่าเลื่อนขึ้นลง เขาโอบคนในอ้อมแขนแน่นขึ้นจนแทบจะหายใจไม่ออก

ดวงตาของเฟิ่งเหล่ยอวี้พร่ามัว เสียงของนางติดๆ ขัดๆ ไร้เรี่ยวแรง “ที่นี่…ไม่ดีเจ้าค่ะ”

โฉวซือเส่าเงยหน้าขึ้นก็เห็นเพียงกลีบดอกซิ่งสีขาวและสีชมพูร่วงหล่น บนกิ่งก้านยังเหลือเกสรสีเหลือง มีใบสีเขียวอ่อนโผล่มาแทนที่ดอกแก่แล้ว

คนในอ้อมแขนของเขาเป็นเหมือนสุราชั้นดีที่กลมกล่อมและมึนเมามากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ดีตรงไหนกัน?

นอกจากเหลิ่งชิงฮวนคนนั้นที่ชอบปีนกำแพงเพื่อดูเรื่องสนุก

ตอนนี้อย่าว่าแต่ปีนกำแพงเลย แค่ลุกออกจากเตียงของมู่หรงฉีก็ยังต้องระวัง

ตอนนี้ ปลอดภัยแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา