ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 687

โฉวซือเส่าหัวเราะเบาๆ “หากใครกล้าแอบดู ข้าจะควักลูกตามันซะ”

เฟิ่งเหล่ยอวี้กระชับคอเสื้อชุดกระโปรงอย่างกระวนกระวายเหมือนกับผู้ร้าย

“ไม่ได้เจ้าค่ะ กลางวันแสกๆ แบบนี้ ข้าอาย” นางร้อนรนจนอยากหนี

โฉวซือเส่าจับเอวนางไว้ “เนื้อมาถึงปากขนาดนี้แล้วยังจะหนีไปไหนได้?”

สิ่งที่ตอบรับเขาคือเสียงของเก้าอี้หวายที่รับน้ำหนักได้ไม่มาก ทั้งสองคนโยกไปมา

เหล่ยอวี้หน้าแดงยิ่งกว่าเดิม “ดังเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”

โฉวซือเส่าตอบรับ “ไพเราะ”

เฟิ่งเหล่ยอวี้ “หากโดนใครเห็นเข้าคงอายน่าดูเลยนะเจ้าคะ”

“เจ้าคนที่อวดเบ่งใส่ข้าในตอนแรกหายไปไหนแล้วล่ะ?”

เฟิ่งเหล่ยอวี้อายจนต้องหลับตา แม้แต่เสียงของนางก็แข็งทื่อ

โฉวซือเส่าเองก็กังวลแต่ก็รู้สึกว่าน่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาจริงใจ ก่อนจะพลิกตัวแล้วประกบริมฝีปากลงไปอย่างดุดัน

เก้าอี้หวายโยกคลอนและสั่นอย่างรุนแรง

เสียงยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ และชัดเจนท่ามกลางลานที่เงียบสงัด

เฟิ่งเหล่ยอวี้กัดหลังมือของตัวเอง ทั้งร่างของเธอแข็งเกร็ง ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นรัวไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ออกมา

“เสียง เสียงดังเกินไป…กำแพงมีหูนะเจ้าคะ”

โฉวซือเส่าไม่พอใจกับการที่นางไม่ตั้งใจ เขายกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย “เปลี่ยนที่”

เฟิ่งเหล่ยอวี้อายจนไม่กล้าลืมตาพยายามพยักหน้า

“โอบข้าไว้”

เฟิ่งเหล่ยอวี้ราวกับถูกให้อภัย นางยกมือขึ้นโอบคอโฉวซือเส่า ซุกใบหน้าแดงจัดลงในเสื้อคลุมที่ร้อนรุ่มไม่ต่างกันของเขา

วินาทีต่อมาโฉวซือเส่าก็โอบกอดนาง ทั้งสองคนลุกขึ้นจากเก้าอี้หวาย ระหว่างที่เฟิ่งเหล่ยอวี้อุทานออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือข้างหนึ่งของนางก็จับไปที่เชือกบนต้นไม้ข้างๆ ก่อนจะนั่งลงบนชิงช้า

ชิงช้าส่ายไปมา

เฟิ่งเหล่ยอวี้ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา นางต้องกอดรัดเอวของเขาไว้เพื่อให้มั่นคงเหล่ยอวี้ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“นี่ นี่มันยิ่งไม่เข้าท่าเท่าไหร่นะเจ้าคะ!”

เฟิ่งเหล่ยอวี้กลัวว่าจะตกลงไปจึงต้องจับเชือกชิงช้า กระโปรงกระจัดกระจาย ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิยิ่งทำให้รู้สึกอาย

โฉวซือเส่ายกยิ้มเจ้าเล่ห์ เอาเขย่งปลายเท้าชิงช้าก็ไกวสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะร่วงหล่นลงมา ยิ่งไกวก็ยิ่งขึ้นสูง

เสื้อผ้าของทั้งสองคนพลิ้วไหวเฟิ่งเหล่ยอวี้ตกใจจนร้องเสียงหลง ก่อนจะกอดรัดลำคอและเอวของโฉวซือเส่าแน่นขึ้นราวกับงู

โฉวซือเส่าชอบความรู้สึกที่ได้กลั่นแกล้งนางเช่นนี้

ริมฝีปากบางของเขายกยิ้มอย่างได้ใจ

อารมณ์ของเฟิ่งเหล่ยอวี้พุ่งสูงขึ้น นั่นยิ่งทำให้นางยิ่งมีสมาธิมากขึ้นและอยากที่จะลองเป็นฝ่ายรุก

มือของนางค่อยๆ อ่อนแรงลงจนจับเชือกไม่ไหว ทำได้แค่โอบรอบคอของโฉวซือเส่าแน่น

ทั้งสองคนเหมือนกับนกนางแอ่นคืนรังในฤดูใบไม้ผลิ ล่องลอยขึ้นบนฟ้าก่อนจะร่วงลงมา

ส่งเสียงร้อง

ดวงใจหนึ่งดวงสั่นระรัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา