ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 689

สรุปบท ตอนที่ 689 จิ่งอวิ๋นยังมีชีวิตอยู่จริงรึ!: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 689 จิ่งอวิ๋นยังมีชีวิตอยู่จริงรึ! จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 689 จิ่งอวิ๋นยังมีชีวิตอยู่จริงรึ! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในที่สุดเหลิ่งชิงฮวนก็รู้แล้วว่ามู่หรงฉีได้เรื่องกับเขาอยู่เล็กน้อยเท่านั้น มิน่าล่ะตาเฒ่านั้นถึงได้มองแล้วขัดหูขัดตา

ไหนพูดไว้เสียดิบดีว่าจะกวาดล้างกองทัพนับพันราวให้สิ้นซากทั้งแผ่นดิน เทพเจ้าแห่งสงครามที่น่าเกรงขามที่มีกำลังเกรียงไกรพิชิตใต้หล้าจนยากที่จะต้านทานได้คนนั้นไปไหน? หรือว่าหญิงงามจะเป็นภัยกับวีรบุรุษจนแพ้ทางจริง ๆ งั้นหรือ? ความทะเยอทะยานของเขาถูกตัวเองทำให้ต้องเจอหายนะงั้นหรือ?

เธอถอนหายใจเบา ๆ “ก็แค่พูด ๆ ไปเท่านั้น ท่านกลับเอาจริงเอาจังงั้นหรือ? ไม่กลัวว่าทหารสามเหล่าทัพจะขำจนฟันร่วงงั้นหรือ?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมามู่หรงฉีก็เกิดความกังวลขึ้นมาเล็กน้อยอีกครั้ง “วันนี้ข้าได้มอบหมายกิจธุระทุกอย่างในค่ายทหารเอาไว้อย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว และทำราวกับการสั่งเสียจะจากไปก็ไม่ปาน จนสายตาของทุกคนที่มองมาที่ข้าในตอนนั้น แปลกประหลาดอย่างมากเกือบจะพากันแห่มาส่งกันเสียแล้ว หากพรุ่งนี้ข้ากลับไปด้วยความเศร้าหมองแบบนี้ และถูกพวกเขาถามขึ้นมา ข้าจะอธิบายอย่างไรดี?”

สำหรับเรื่องนี้ เหลิ่งชิงฮวนเองก็อยากจะหัวเราะเสียจริงๆ ไม่ใช่เพราะเธอใจแคบแต่อย่างใด แต่การกระทำของมู่หรงฉีในครั้งนี้ทำให้คนอื่นอยากจะหัวเราะก็ไม่ได้อยากจะจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก

วันนี้ที่เขาบอกกับตัวเองว่าจะมีเรื่องให้ตัวเองต้องประหลาดใจ น่าจะเป็นเรื่องนี้นั่นแหละ

ตาทึ่มคนนี้ทึ่มจนตัวเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี? น่าอึดอัดใจเสียจริงๆ

เหลิ่งชิงฮวนต้องทำราวกับว่ากำลังกล่อมเด็กน้อยก็ไม่ปาน “คนในจวนมีตั้งมากมาย จะมาคอยดูแลเอาใจใส่หม่อมฉันคนเดียวไปทำไม และหม่อมฉันก็เป็นถึงหมอนะเพคะ ท่านยังมีอะไรที่ไม่วางใจอีกงั้นหรือ? ถ้าท่านรู้สึกว่าพรุ่งนี้กลับค่ายทหารไปแล้วจะเสียหน้า เช่นนั้นหม่อมฉันจะกลับไปเป็นเพื่อนท่านก็ย่อมได้”

มู่หรงฉีไม่ยอมหรอก เพราะกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เงอะงะทั้งหลายในค่ายทหารหากได้เห็นนางเข้า ก็จะทำตัวกระดี๊กระด๊าเหมือนได้พบเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยก็ไม่ปาน ถ้าหากเจอกันเข้าจะทำอย่างไร?

“ช่างเถอะ ๆ อย่างมากพวกเขาก็แค่หยอกล้อหัวเราะเล่นกันสนุก ๆ ก็เท่านั้น ข้าก็แค่ต้องเผชิญหน้าสู้ทำเป็นหูทวนลมก็ได้แล้ว”

เมื่อพูดหยอกเล่นจบแล้ว เหลิ่งชิงฮวนก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้

“ตอนที่จิ่งอวิ๋นถูกประหารตามกฎมนเทียรบาล ได้ยินมาว่าเป็นท่านที่ช่วยจัดการธุระเรื่องงานศพให้ใช่ไหมเพคะ?”

มู่หรงฉีพยักหน้า “ทำไมอยู่ ๆ ถึงนึกถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ?”

“จิ่งอวิ๋นไม่อยู่แล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่?”

แววตาในดวงตาของมู่หรงฉีแฝงไปด้วยรอยยิ้มอย่างชัดเจน “นักโทษที่เสด็จพ่อมีพระราชโองการให้ประหารชีวิต เจ้าคิดว่ายังจะมีความหวังว่ารอดชีวิตอยู่อีกงั้นหรือ?”

เหลิ่งชิงฮวนมองตาปริบ ๆ ไปที่เขา ทันใดนั้นในดวงตาก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาที่ส่องประกายออกมา นางก้มศีรษะลงและใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดหน้าเอาไว้ จากนั้นก็หันหน้าหนีและเอนกายพิงเตียงเอาไว้ไม่พูดอะไรสักคำ

เมื่อมู่หรงฉีเห็นนางอยู่ ๆ ก็เสียใจขึ้นมา จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย “ทำไมเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ? เมื่อครู่ยังดี ๆ อยู่เลย ทำไมอยู่ ๆ ถึงเสียใจขึ้นมาล่ะ?”

เหลิ่งชิงฮวนผ่อนคลายไหล่ลงและสะอื้นเบา ๆ “หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ ก็แค่รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยขึ้นมากะทันหัน”

มู่หรงฉีคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนเตียง “ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม่ควรโกรธหรือเศร้าใจ เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลยนะ อย่าได้ร้องไห้ออกมาเป็นอันขาดเชียวนะ”

เหลิ่งชิงฮวนมุดหน้าลงไปในผ้าห่มและร้องไห้ ฮือ ๆ เสียงดังขึ้นมา

“ท่านไม่รู้หรอกว่าจิ่งอวิ๋นเขาน่าสงสารมากแค่ไหน หลังจากที่เขาตายไป หม่อมฉันก็พบสมุดที่เขียนด้วยลายมือของเขาจากบรรดาข้าวของส่วนตัวที่เขาทิ้งเอาไว้ ตัวอักษรข้างในทุกตัวอักษรบันทึกเรื่องราวที่พวกท่านเจอกัน และก็ความรู้สึกขอบคุณของเขาที่มีต่อท่าน ตอนนี้พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็รู้สึกเศร้าใจ แม้เขาจะทำอะไรที่ผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองจนไม่สามารถอภัยให้ได้ด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ แต่ว่าสำหรับท่านแล้วเขากลับให้ความสำคัญกับความรู้สึกที่มีต่อกันและกันอย่างยิ่ง แต่ก็มาถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะแบบนี้ไปเสียได้ พอนึกถึงขึ้นมาก็เลยรู้สึกเสียใจ

เหลิ่งชิงฮวนฟังอย่างเงียบ ๆ และสูดน้ำมูกเข้า “แม้แต่ท่านเองก็ยังไม่แน่ใจหรือว่าคนผู้นั้นใช่จิ่งอวิ๋นหรือไม่?”

มู่หรงฉีส่ายหน้า “ไม่ใช่ว่าข้าตั้งใจจะปิดบังเจ้า แต่ผู้ตายดูเหมือนกับจิ่งอวิ๋ทุกประการ ตอนที่ถูกขังอยู่ในคุกเขามีสภาพกระเซอะกระเซิงมาก มีแต่คนใกล้ชิดเท่านั้นถึงจะสามารถจำได้ ตอนที่ข้าเห็นเขา หมอเจียงได้ช่วยจัดการศพให้อย่างเหมาะสมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหวีผม ล้างหน้าล้างตา และผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แล้ว ข้าจึงสังเกตเห็นถึงความแตกต่างบางอย่างเล็กน้อย

แต่ว่าคนที่ตายไปแล้ว ศพก็คงมีแต่ความอมทุกข์ ใบหน้าย่อมแตกต่างกับตอนที่มีชีวิตอยู่ เวลานั้นแม้แต่รองแม่ทัพอวี๋กับหมอเจียงที่เคยเห็นจิ่งอวิ๋นตั้งหลายครั้งยังแยกแยะเขาไม่ออกไม่มีความสงสัยอะไรเลย สามารถพูดได้เลยว่าต้องเป็นการนำตัวปลอมมาแทนที่เป็นแน่

เรื่องนี้ข้าเองก็เสียใจเหมือนกันและเก็บซ่อนเอาไว้ในใจมานานหลายปี ต่อมาตอนที่ไปที่หนานจ้าว ก็มาได้ยินพวกเจ้าพูดถึงคนลึกลับคนนั้น ในใจข้าก็เต้นตึกตักอย่างรุนแรงขึ้นมา ในตอนนั้นข้าก็คิดแล้วว่าต้องเป็นเขา

ตอนที่ตัวตนของเขาถูกเปิดเผยในตอนนั้น ก็คงคิดจะจับเจ้าไปเป็นตัวประกันเพื่อมุ่งหน้าไปที่หนานจ้าว ถ้าเช่นนั้นตัวเขาจะต้องจัดเตรียมช่องทางการหลบหนีของตัวเองที่หนานจ้าวเอาไว้นานแล้ว ตอนที่สับเปลี่ยนตัวปลอมมาแทนที่เพื่อหนีออกจากเมืองหลวง หนานจ้าวจึงเป็นสถานที่แห่งแรกที่เอาไว้หลบซ่อนตัวของเขา ถ้าเขาจะใช้เวลาห้าปีในการหยั่งรากและขยายอำนาจก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

เหลิ่งชิงฮวนฮึดฮัดเบา ๆ ในที่สุดก็หันหน้ากลับมาได้เสียทีและใบหน้าของนางก็ไม่ได้มีร่องรอยของน้ำตาแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังแสร้งทำ “ว่าแล้วว่าท่านต้องรู้อยู่แล้ว เพียงแต่ปิดบังหม่อมฉันเอาไว้”

มู่หรงฉีตระหนักได้ว่าถูกหลอกเข้าแล้ว อยู่ ๆ ก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออกขึ้นมากะทันหัน เพราะถ้าเป็นอวิ๋นเช่อแสร้งทำเป็นร้องไห้เพื่อหลอกให้เขาเห็นอกเห็นใจก็ว่าไปอย่าง แต่เป็นแม่คนแล้วกลับมาทำตามเสียได้

แต่ว่านางเองก็เป็นทูนหัวตัวน้อยเช่นกัน นอกจากตัวเองจะเทิดทูนและตามใจแล้ว ยังจะทำอะไรนางได้อีกงั้นหรือ?

และยังต้องใช้เสียงเบาเพื่อพูดเกลี้ยกล่อมอีกด้วย “ตอนนั้นข้าก็แค่คิด ๆ ก็เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดอีกยากที่จะพูดออกมาได้ ถ้าทำให้เจ้าดีใจเก้อล่ะจะทำยังไง? ถ้าไม่ใช่ว่าเมื่อครั้งก่อนเจ้าบอกว่ามีคนคอยแอบช่วยแม่ของจิ่งอวิ๋นอยู่ ข้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อหรอก”

“ครั้งก่อนที่ท่านถามหม่อมฉันว่าทางองครักษ์อินทรีมีข้อมูลของกรมอาญาในมือหรือไม่ ในตอนนั้นก็มั่นใจแล้วนะสิ” เหลิ่งชิงฮวนแบะปาก ทำหน้ามุ่ยเหมือนกับเด็ก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา