ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 694

“ดังนั้นที่องค์ชายอันต๋าตรัสเช่นนี้คือจะไม่ยอมรับอย่างงั้นหรือ?”

“ไม่มีเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน!” องค์ชายอันต๋าพูดอย่างแน่วแน่ “จะต้องมีใครสักคนที่จงใจยั่วยุความสัมพันธ์ระหว่างมั่วเป่ยกับฉางอันอยู่นานแล้วอย่างแน่นอน จงใจสร้างสถานการณ์หลอกลวงเพื่อใส่ร้ายใต้เท้าหลู่! ใต้เท้าหลู่อยู่กับข้าตลอดทั้งกลางวันทั้งกลางคืน จะแยกร่างมาที่ฉางอันได้อย่างไร? ผู้ติดตามข้างกายข้าสามารถเป็นพยานให้ได้!”

“เป็นเช่นนั้นก็ดี ฉีเอ๋อร์ ผู้ติดตามขององค์ชายอันต๋าน่าจะรออยู่นอกวังใช่หรือไม่? ลำบากเจ้าวิ่งออกไปถามดูสักหน่อย ดูสิว่าเป็นองค์ชายอันต๋าที่กำลังปกป้องคนของตนหรือว่าเป็นพระชายาฉีที่จำผิดคน หรือเป็นการเข้าใจผิดกันแน่?”

คำพูดของตาเฒ่าเช่นนี้ ทำให้องค์ชายอันต๋ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ตัวเองก็แค่พูดออกไปเรื่อยเปื่อยเฉย ๆ ไม่คิดว่าตาเฒ่าคนนี้จะให้ไปถามจริง ๆ

ขุนนางทั้งบุ่นบู๊ที่อยู่ในห้องพระโรงต่างก็พาสบตากันไปมา ไม่ค่อยจะเข้าใจว่าฮ่องเต้กระทำเช่นนี้มีจุดประสงค์อะไร ทหารคนสนิทที่องค์ชายอันต๋านำมาล้วนเป็นคนที่มั่วเป่ยไว้วางใจทั้งสิ้น ต่อให้ใต้เท้าหลู่แยกตัวออกจากคณะทูตมั่วเป่ยมาจริง ๆ และแอบมาที่ฉางอัน คนเขาจะพูดอะไรออกมาได้หรือ? ล้วนไม่ใช่คนโง่กันเสียหน่อย

มู่หรงฉีรับคำสั่งออกไปจริงๆ

หลังจากนั้นผ่านไปไม่นานมู่หรงฉีก็กลับมาพร้อมกับคนอีกสองคนที่ตามมาอยู่ข้างหลัง และตรงเข้าไปในห้องพระโรงเพื่อทูลรายงานต่อตาเฒ่าฮ่องเต้

“ทูลเสด็จพ่อ ลูกได้ทำการสอบถามทหารคนสนิทขององค์ชายอันต๋าแล้ว แต่ว่าต่างก็พูดแตกต่างกันออกไป ไม่เหมือนกันสักคน ลูกไม่สามารถตัดสินใจได้ชั่วขณะ จึงคัดสรรมาสองคนจากทั้งหมดมาให้เสด็จพ่อไต่สวนด้วยพระองค์เอง”

ทุกคนมองดูทหารสองคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงบึกบึน คนหนึ่งดูแล้วเหมือนจะไม่ค่อยเท่าไร ดูจากหน้าตาแล้วออกจะทึ่มเล็กน้อย ดูไม่ค่อยฉลาดมากนัก ส่วนอีกคนก็ดูหน้าตาน่าเกลียด เป็นคนธรรมดา ๆ ไม่ค่อยสะดุดตาอะไรนัก

ทหารทั้งสองคนคุกเข่าและก้มหัวลงขนานพื้น “ข้าน้อยฉู่เหลียง ข้าน้อยเฝิงอาลิ่วคารวะฝ่าบาท”

ตาเฒ่าฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย “ข้าถามพวกเจ้าหน่อย หลายวันนี้ใต้เท้าหลู่ของพวกเจ้าได้แยกตัวออกจากคณะทูตของพวกเจ้าหรือไม่?”

องครักษ์ส่วนตัวที่ชื่อเฝิงอาลิ่วพูดก่อนเป็นคนแรก “กราบทูลฝ่าบาท ใต้เท้าหลู่เดินทางอยู่กับพวกกระหม่อมตลอดทางพ่ะย่ะค่ะ ไม่เคยแยกออกไปไหน”

ฮ่องเต้หันพระพักตร์ไปถามองครักษ์ร่างสูงอีกคนที่ชื่อฉู่เหลียง “แล้วเจ้าล่ะว่าอย่างไร?”

ฉู่เหลียงชำเลืองมองไปที่องค์ชายอันต๋าอย่างหวาดกลัว และยื่นมือขึ้นชี้ไปยังเฝิงอาลิ่ว “เมื่อห้าวันก่อนใต้เท้าหลู่ก็ไม่ได้อยู่ในคณะแล้ว คนที่อยู่ด้วยกันกับพวกกระหม่อมตลอดทางเป็นคนที่ปลอมตัวเป็นเขาพ่ะย่ะค่ะ”

“พูดจาไร้สาระ!” เฝิงอาลิ่วโกรธมาก “นั่นมันโทษหลอกลวงเบื้องสูงเชียวนะ เห็นได้ชัดว่าเจ้าต้องการให้ร้ายข้าไม่ใช่หรือ?”

ฉู่เหลียงถูกด่าจนตัวสั่น แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีความขี้ขลาดเล็กน้อย “ถ้าเช่นเจ้าลองบอกข้ามาสิว่า ทำไมสองวันนี้ถึงไม่เห็นเจ้าอยู่ในคณะของพวกเรา เจ้าไปที่ไหนมา?”

เฝิงอาลิ่วเปล่งเสียงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่นาน “นายท่านให้ข้าไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนนะสิ”

ฉู่เหลียงยังคงแสดงสีหน้าความคับข้องใจอยู่ และเอ่ยพูดกับองค์ชายอันต๋า “ข้าน้อยไม่ได้พูดโกหก ท่านให้เขาไปสำรวจทางก่อน แต่เขากลับแอบอู๋งานโดยแอบสวมเสื้อผ้าของใต้เท้าหลู่และนอนอยู่บนรถม้า ปลอมตัวเป็นใต้เท้าหลู่”

องค์ชายอันต๋าร่ำร้องในใจว่าลางไม่ดีเสียแล้ว สัมผัสได้ถึงกลิ่นตุ ๆ บางอย่าง

ตัวเองคิดใคร่ครวญวางแผนเสียอย่างดิบดี แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีคนทรยศแฝงตัวอยู่ในหมู่องครักษ์ส่วนตัวที่ติดตามมาด้วย

เขาไม่เพียงแต่สังเกตเห็นถึงกลยุทธ์จักจั่นลอกคราบของใต้เท้าหลู่เท่านั้น แต่ยังมาเปิดโปงและตบหน้าตัวเองในสถานการณ์แบบนี้อีก

ฮ่องเต้หัวเรา เหอะๆ ออกมา “หากเป็นอย่างที่กล่าวมา เช่นนั้นองค์ชายอันต๋าก็ถูกใต้เท้าหลู่หลอกเหมือนกันแล้วนะสิ? ใต้เท้าหลู่หาคนมาปลอมตัวเป็นตัวเอง จากนั้นก็ใช้กลยุทธ์ลอบตีลับหลังเสียแล้ว แอบลอบเข้ามาในฉางอันของพวกเราก่อน ตั้งใจที่จะลักพาตัวพระชายาฉีไป แต่โชคดีที่พระชายาฉีเป็นคนมีไหวพริบจึงรอดพ้นจากภัยอันตรายได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังจำได้ว่าเป็นใต้เท้าหลู่ มิฉะนั้นหากพระชายาฉีเกิดเหตุเป็นอันใดขึ้นมา ข้าคงนึกไม่ถึงว่าจะเป็นการกระทำของใต้เท้าหลู่จากมั่วเป่ย ตอนนี้องค์ชายอันต๋ายังจะมีอะไรพูดอีกหรือไม่?”

องค์ชายอันต๋าตกใจแค่แวบเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ไม่มีความตื่นตระหนกอีกต่อไป ใบหน้าเหมือนมีชัยชนะอยู่ในกำมือ จากนั้นก็เอ่ยพูดด้วยเสียงดัง “เห็นได้ว่าเป็นเจ้าคนใช้คนนี้ที่พูดจาไร้สาระ ใต้เท้าหลู่คอยติดตามกระหม่อมอยู่ตลอดทาง ไม่มีทางหายตัวไปกลางทางแน่นอน ฝ่าบาทได้เห็นใต้เท้าหลู่ก็จะรู้ว่าสิ่งที่กระหม่อมพูดมานั้นเป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ”

ใต้เท้าหลู่ชำเลืองมองเขาเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้ว่ายังจำเขาได้หรือไม่ ในปากส่งเสียง อู้อี้ ออกมา และน้ำลายก็ไหลออกมามากกว่าเดิม ท่าทางเหมือนกับคนปัญญาอ่อนเลอะเลือนยังไงยังงั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา