ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 695

พระพักตร์ของฮ่องเต้มีความโกรธอยู่จาง ๆ “เจ้านะเป็นถึงหมอหลวงใหญ่ของสำนักหมอหลวงของข้า เป็นผู้นำหมอหลวงแต่คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีความมั่นใจได้ไง หืม?”

คำพูดของฮ่องเต้ค่อนข้างทำให้ผู้อื่นรู้สึกลำบากใจ หมอหลวงสามารถวินิจฉัยโรคได้ แต่ว่าโรคหลอดเลือดสมองนี้เป็นโรคที่รักษายากและซับซ้อน ใครก็ไม่สามารถรักษาด้วยยาให้หายขาดได้ทันที

ท่านหมอใหญ่เหลือบเปลือกตาขึ้นอย่างระมัดระวังและคุกเข่าลงกับพื้นทันทีด้วยความตกใจ

เสนาบดีเหลิ่งคาดเดาความคิดของฮ่องเต้ออกจึงกล่าวว่า “ความหมายของท่านหมอใหญ่หรือว่าจะหมายถึงว่าสามารถรักษาได้ แต่ว่าโรคนี้ยากที่จะรักษา จำเป็นต้องใช้เวลาใช่หรือไม่?”

ท่านหมอใหญ่ชำเลืองมองเสนาบดีขวาเล็กน้อยและพยักหน้ารัว ๆ “เป็นอย่างที่เสนาบดีเหลิ่งกล่าวจริงๆ”

พระพักตร์ของฮ่องเต้ถึงดูอ่อนลงมาเล็กน้อย “ขอเพียงมีความหวังก็พอแล้ว มากันต้องไกลล้วนเป็นแขกกันทั้งสิ้น แม้จะต้องรักษาใต้เท้าหลู่ผู้ที่เคยกระทำผิด พวกเราควรให้โอกาสคนอื่นได้พูดแก้ต่างดู จะได้ไม่เป็นการใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์

งั้นก็เอาตามนี้แล้วกัน ขอเชิญองค์ชายอันต๋ากลับไปพักผ่อนในที่พักเป็นการชั่วคราวก่อน ส่วนใต้เท้าหลู่ท่านนี้ก็ปล่อยไว้ที่นี่เถอะ...”

สายตาของเขากวาดไปมองที่มู่หรงฉี และสงบอารมณ์ลงก่อนเอ่ย “ให้พักอยู่ที่สำนักหมอหลวง ให้หมองหลวงเป็นคนรับผิดชอบทำการรักษา องค์ชายอันต๋าเห็นว่าอย่างไร?”

องค์ชายอันต๋าพูดอย่างชื่นชม “ฉางอันช่างมีไมตรีดีจริง ๆ สมคำร่ำลือที่ว่าฝ่าบาทเป็นคนใจกว้างและมีเมตตา กระหม่อมรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก”

ตาเฒ่าฮ่องเต้หรี่สายตามอง ในใจรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะจริง ๆ แล้วเขาอยากให้ใต้เท้าหลู่เข้าไปอยู่ในจวนอ๋องฉี ให้เหลิ่งชิงฮวนตรวจอีกที แต่ลองคิดดูอีกทีเพราะทั้งสองคนมีความแค้นต่อกัน ถ้าหากยัยหนูเหลิ่งชิงฮวนคนนี้เกิดใจแคบพยาบาทขึ้นมา แล้วมาซ้ำเติมให้เลยเถิดไปอีกด้วยการรักษาเขาให้ตายไปเลยจะทำอย่างไร?

ตราบใดที่ยังพอมีความหวังอยู่เล็กน้อย ตาเฒ่าก็อยากลองดูสักครั้ง ส่วนองค์ชายอันต๋าผู้นี้นะหรือ ก็โยนเขาไปให้อ๋องเฮ่าอีกครั้ง ให้เขาค่อยอยู่เป็นเพื่อนองค์ชายอันต๋าพาไปกินดื่มให้สนุกและเฝ้าดูเอาไว้ดีๆ

รอให้ตนได้คลายปมของใต้เท้าหลู่ได้ก่อน ค่อยมาวางแผนกันอีกที มิฉะนั้นจะเป็นการคว้าน้ำเหลวไปเสียเปล่า ๆ ไม่ใช่หรอกหรือ?

มู่หรงฉีกลับไปที่จวนอ๋องฉี และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในท้องพระโรงให้เหลิ่งชิงฮวนฟังตั้งแต่ตนจนจบด้วยความหดหู่ใจเล็กน้อย

นี่สิที่เรียกว่ามนุษย์ลิขิตสู้สวรรค์ลิขิตไม่ได้ ตัวเองคิดคำนวณไว้อย่างดิบดี คิดว่าวันนี้จะต้องตั้งข้อหาให้กับใต้เท้าหลู่ได้ต่อให้ไม่ได้ฟัน ฉับ เลย อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาได้รับโทษติดคุก และลงทัณฑ์ทรมานอย่างหนักเพื่อบังคับให้เขาเอ่ยถึงคนที่สมรู้ร่วมคิดกับเขาคนนั้นว่าเป็นใครกันแน่? และทหารม้าที่เหลือของเสด็จลุงรองซ่อนอยู่ที่ไหน?

น่าเสียดายที่ชาวมั่วเป่ยออกอุบายมาทำลายเช่นนี้

เหนือสิ่งอื่นใดก็คือดูจากความตั้งใจของตาเฒ่าที่ยังอยากรักษาใต้เท้าหลู่ให้หาย ถึงขนาดไม่เชื่อใจกระทั่งตัวเองและชิงฮวน เห็นชัด ๆ ว่าความคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ ๆ เกรงว่าต่อให้อาการป่วยของใต้เท้าหลู่รักษาจนหายขาดแล้ว หากต้องการชีวิตน้อย ๆ ของเขา ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อีก

แน่นอนว่าสิ่งที่มู่หรงฉีสงสัยที่สุดก็คืออาการป่วยของใต้เท้าหลู่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จกันแน่? คำตอบของหมอหลวงที่ให้มานั้นก็ดูคลุมเครือ และเขาเองก็ไม่ใช่คนเชี่ยวชาญทางด้านนี้ มองอะไรไม่ออก

ดังนั้นเขาจึงติดต่อสายลับคนที่ชื่อฉู่เหลียงที่กำลังเดินทางไปมั่วเป่ยให้กลับมา เพื่อสอบถามเขาว่ารู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่

ฉู่เหลียงส่ายหัว เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี รู้เพียงแค่ว่าพอมาถึงได้ครึ่งทางใต้เท้าหลู่ก็ล้มป่วยแล้ว ดังนั้นตอนที่เดินทางเขาจึงนอนอยู่แต่บนรถม้าตลอดเวลาและไม่ค่อยปรากฏตัวออกมาให้เห็น

เขาไม่สามารถเข้าไปใกล้ ๆ รถม้าของใต้เท้าหลู่ได้อย่างใกล้ชิดเท่าไร แต่ว่าตอนที่กำลังใกล้เข้าเมืองฉางอัน ก็ค้นพบว่ามีคนหายออกไปจากคณะกว่าสิบคนและยังเป็นยอดฝีมือทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาของใต้เท้าหลู่อีก

เขาตระหนักได้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไป จึงแอบตรวจสอบอยู่ลับ ๆ และเกิดสงสัยใต้เท้าหลู่ที่อยู่ในรถม้า จึงลองหยั่งเชิงดูอย่างระมัดระวัง ถึงได้รู้ว่าเป็นการสลับตัวกัน และใต้เท้าหลู่ตัวจริงน่าจะนำกำลังคนของเขาแยกออกไปเคลื่อนไหวตามลำพัง

ต่อมาคนเหล่านี้ที่เคยหายตัวไปก็โผล่มากะทันหัน ส่วนใต้เท้าหลู่ตัวจริงก็กลับไปอยู่บนรถม้าอีกครั้ง ยังคงบอกว่าป่วยอยู่ไม่สามารถออกจากรถม้าได้

ระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นกันแน่เขาเองก็ไม่รู้ และเชื่อมั่นว่าอาการป่วยของใต้เท้าหลู่เป็นเรื่องหลอกลวงแค่แสร้งทำเท่านั้น

คำพูดของเขากระตุ้นต่อมความสงสัยของชิงฮวนขึ้นมา

ใต้เท้าหลู่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างไร? แม้ว่าจะป่วยจริง ๆ สาเหตุของโรคควรจะเป็นเพราะถูกวางยาพิษเสียมากว่า

ส่วนองค์ชายอันต๋าผู้นั้น ในตอนแรกอาจจะพยายามอย่างหนักเพื่อทำการปกป้องใต้เท้าหลู่ แต่น่าเสียดายที่เรื่องไม่เป็นไปตามที่หวัง แผนการลักพาตัวเองของใต้เท้าหลู่ล้มเหลว และตัวตนของเขาก็ยังถูกเปิดเผยอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา