มู่หรงฉีชะงักไป จากนั้นบนใบหน้าของเขาก็มีประกายความโหดเหี้ยมอันน่าสยดสยองแวบขึ้นมา จากนั้นเขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง”
“ไสหัวออกมา!”
องครักษ์ที่อยู่ภายในลานบ้านต่างพากันชะเง้อคอมอง
ภายในห้องมีเสียงดังกุกกัก จือชิวจัดเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเรียบร้อย เธอหน้าแดงเดินออกมาจากในห้องและกำลังก้มหน้าหงุด เธอเข้ามาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของมู่หรงฉีอย่างตัวสั่นด้วยความกลัว
“ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วยเพคะ บ่าวไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะมา ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย!”
มู่หรงฉีมองดูเธอด้วยใบหน้าที่มืดครึ้ม ดวงตาของเขาราวกับมีพายุที่โหมกระหน่ำราวกับจะฆ่าคนได้พร้อมกับแผ่กลิ่นอายของการฆ่าฟันออกมา คนที่เติบโตขึ้นมาในพระราชวัง มีลูกไม้อะไรบ้างที่เขาไม่เคยเห็นถึงจะได้มองไม่ออกถึงละครโรงเล็กๆ ตรงหน้าที่จือชิวกำลังเล่นอยู่ล่ะ
เขายอมตามใจให้กับเหลิ่งชิงหลางได้ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมตามใจผู้หญิงคนอื่นด้วย
“คิดว่าข้าเป็นคนโง่หรือ?” มู่หรงฉีเหลือบตามองต่ำลงไป คำพูดของเขานั้นราวกับจะบาดลึกเข้าไปในกระดูก “ทุกวันในเวลานี้ข้าจะมาเยี่ยมรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เจ้าจงใจเลือกเวลานี้ ไม่ใช่เพราะว่าคำนวณเอาไว้แล้วหรือ”
จือชิวเงยหน้าขึ้น ใบหน้างดงามของเธอนั้นมีน้ำตานองมาตั้งนานแล้ว “บ่าวถูกใส่ความ เมื่อครู่นี้บ่าวไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ รู้สึกแต่ว่าร่างกายร้อนวูบวาบไปหมดจนทนไม่ไหว แล้วมึนหัวไปหมดเหมือนกับว่าควบคุมตัวเองไม่ได้เลยสักนิด บ่าวถึงได้ฝืนตัวเองเข้าไปเอาผ้าชุบน้ำที่อยู่ในอ่างล้างหน้า ท่านอ๋องโปรดไตร่ตรองด้วยเพคะ ท่านอ๋องเพคะ ในเวลานี้ท่านอ๋องก็...”
มู่หรงฉีแค่นยิ้มออกมาเสียงเย็น “ถ้าเป็นแบบที่เจ้าพูด งั้นเจ้าก็คงโดนใส่ร้าย?”
“บ่าวถูกใส่ความจริงๆ เพคะ!” จือชิวพูดออกมาอย่างร้อนรน หน้าของเธอยังคงแดงก่ำ “แม้แต่ท่านรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่หมดสติไปจนยังไม่ฟื้นนั้น บ่าวเองก็เรียกท่านไปหลายหนแล้วท่ายก็ยังไม่รู้สึกตัวเลยเพคะ”
มู่หรงฉีอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เขาเดินผ่านจือชิว จากนั้นผลักประตูเข้าไปในห้อง แวะเดินไปยังด้านหน้าของรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เขาตะโกนร้องเรียกอยู่สองสามครั้ง เปลือกตาของท่านรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังคงปิดแน่นไม่ไหวติง
เขาเริ่มลนลานขึ้นมาในทันที “ใครก็ได้เข้ามาที่ ไปตามหมอมา ไม่สิ ไปตามพระชายามา”
เหล่าองครักษ์ต่างทยอยกันวิ่งออกไป
มู่หรงฉีรู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที ผู้หญิงคนนี้นั้นเป็นคนที่ชื่นชอบความทุกข์ยากของผู้อื่นมาโดยตลอด ครั้งนี้เป็นตัวเขาหรือเปล่าที่กำลังหาเรื่องเข้าตัว
หลังจากนั้นไม่นานเหลิ่งชิงฮวนก็ได้รู้ข่าว เธอจึงรีบมาและเห็นว่าจือชิวกำลังคุกเข่าอยู่ในลาน ทำราวกับว่าเธอจะให้การดูแลรักษาพยาบาลให้กับท่านรองนายพลสูงสุดไม่ดีจนทำให้เขาเป็นลมล้มพับไป เธอไม่พูดอะไรมากก็เข้าไปข้างเตียงของท่านรองนายพลสูงสุดเพื่อดูอาการ
มู่หรงฉีถอยหลังไปก้าวหนึ่งเพื่อหลีกทางให้เธอ เขารู้สึกผิดเล็กน้อย
เหลิ่งชิงฮวนตรวจดูอยู่นานก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เธอจึงนิ่วหน้าถามอย่างสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะเพคะ”
มู่หรงฉีมีท่าทีอึกอัก เหลิ่งชิงฮวนจึงร้อนใจขึ้นมา “จือชิว เข้ามา!”
จือชิวลุกขึ้นและเดินก้มหน้าเข้าไปด้านใน
“ท่านรองแม่ทัพสูงสุดเป็นอะไรไป ที่ข้ามาเมื่อตอนบ่ายเขายังดีอยู่ไม่ใช่หรือไง”
ตอนนี้บาดแผลของเขาอาการคงที่แล้วและไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรอีก ตามหลักแล้วเขาคงไม่เป็นลมล้มพับไปโดยไม่มีสาเหตุหรอกนะ
จือชิวหน้าแดง เธอเหลือบตาขึ้นมองมู่หรงฉีแวบหนึ่ง “วันนี้หลังจากที่ท่านรองนายพลดื่มยาแล้วก็ล้มตัวลงดรแล้วหมดสติลงไปทันทีเลยเจ้าค่ะ บ่าวเองก็รู้สึกเพียงร่างกายร้อนวูบวาบจนทนไม่ไหว และรู้สึกไม่ค่อยได้สติเท่าไรนัก รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติไปเจ้าค่ะ บ่าวก็เลยพยายามเขย่าตัวเขาอยู่สองครั้ง แต่เขาก็ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดเจ้าค่ะ”
“เมื่อตอนเที่ยงเจ้ากินอะไรไป”
“แม่จ้าวเอาซุปไก่กับข้าวสวยมาให้บ่าวสองชุดเจ้าค่ะ บ่าวกับท่านรองนายพลสูงสุดกินกันไปนิดหน่อย”
“ซุปไก่?” เหลิ่งชิงฮวนขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “เจ้าแน่ใจนะว่าหลังจากที่กินสิ่งนั้นเข้าไปแล้วถึงได้มีอาการผิดปกติ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
โอ๊ยยยยยยย ปวดตับ น้ำตาท่วมเลยยยยย ฮือออออออ😫😫...
แอดน่ารักที่ซู๊ดๆๆๆๆๆๆ...
นางเอก บ้า วันๆ ทำแต่เรืองไร้สาระ...
ปญอ. พระเอกนางเอก ทะเลาะกันทั้งเรื่อง...
เมื่อไหร่จะหย่าซะที ได้แต่พูด เบื่อ...
แอดกลับจากพักร้อนแล้ว ดีใจจัง จุ๊ฟๆๆๆ...
แอดขา...ตอนนี้กำลังจะเริ่มพิธีทางไสยศาสตร์เพื่อตามแอดกลับมาอัพต่อแล้วนะคะ..แอดอยู่หนายยยย..จุ๊กกรู๊ๆๆๆๆๆๆ😅😄🤗😊...
แอดดดดดดด ลูกบ้านให้อภัยแล้ววววว กลับมาเร็วๆ...
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวอีกแล้ว สงสารเถอะ อัพหน่อย...
ไหงตัดจบกันแบบนี้🙄🙄...