ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 764

ชิงฮวนยอมรับว่าตนอาจจะมีทฤษฏีแผนร้ายอยู่บ้าง บุรุษจะยินยอมมอบสตรีเพื่อแผ่นดินด้วยความเคารพ นั่นมิใช่เรื่องปกติธรรมดาหรอกรึ?

พูดจาหวานๆ หว่านล้อมสาวน้อยที่ไร้เดียงสาคนหนึ่งให้ทุ่มเทกำลังอย่างสุดจิตสุดใจเพื่อตน ชายรูปงามก็มีกำไรมากมาย มีแต่เด็กหนุ่มผู้ซื่อสัตย์อย่างมู่หรงฉีที่จะคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ

ชิงฮวนมิได้คัดค้านคำพูดของเขาโดยตรง และเปลี่ยนเป็นวิธีอื่นแทน “เสด็จอารองคงอยู่ได้มินาน ท่านว่าเขาเสี่ยงเพราะเข้าตาจนเช่นนี้ มิใช่แค่มันจะทำลายชีวิตตัวเองเท่านั้น แต่ยังโดนตราหน้าไปชั่วลูกชั่วหลานด้วย เพราะอะไรกันเล่า? มันเป็นแค่ความทะเยอทะยานที่เรียบง่ายจริงๆ รึ?”

มู่หรงฉีส่ายหน้าช้าๆ “ปัญหานี้ข้าก็เคยคิดมาก่อน รู้สึกว่ามันมิใช่ความทะเยอทะยานของเขาที่ทำให้เขามุ่งแสวงหาการก่อกบฏ แต่เดิมพันมันแทน เป็นไปได้ว่า คงมิค่อยเชื่อใจเสด็จพ่อน่ะสิ”

ชิงฮวนพยักหน้า “จำได้ว่าเขาเคยก็พูดคล้ายๆ กับที่ท่านพูด ต้นไม้หวังที่จะอยู่นิ่ง แต่ลมกลับมิหยุดพัก ตำแหน่งแห่งอำนาจจะช่วงชิงของที่เป็นของเดิมของเขาไป การอยู่ในตำแหน่งนี้ ก็จะถูกแย่งชิงโดยมิรู้ตัว

บางทีการก่อกบฏของเขาก็อาจจะเป็นทางตัน เราอย่าเพิ่งพูดตอนนี้ดีกว่า แต่ก่อนที่เขาจะตาย เขาจงใจจัดวางเราไว้ด้วย เพื่ออันใดกัน?”

มู่หรงฉีทำเพียงรุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างฉับพลัน ด้วยความยากที่จะเชื่อเล็กน้อย

เดิมทีเขาเป็นคนฉลาดหลักแหลม ทว่าจิตใจดี มิเคยเต็มใจที่จะคาดเดาเกี่ยวกับผู้คนมากมายและสถานที่ที่เลวร้ายเลย

ชิงฮวนทำเพียงแค่ถามคำถามที่เรียบง่ายออกไป เขาก็รู้ซึ้งได้ในทันทีทันใด

“เสด็จอารองสร้างภาพลวงตาว่าเจ้าสังหารเขา หากสมมติว่าเสด็จย่าและคนในราชสำนักมิทราบความจริง จะต้องมิพอใจเจ้าเป็นแน่”

มู่หรงฉีพูดเพียงครึ่งเดียว

ฮองไทเฮามิพอใจในตัวนางก็มิเป็นอันใด ทว่าตำแหน่งตรงหน้าชายชราผู้เป็นฮ่องเต้ของมู่หรงฉีก็จะเสื่อมลงเช่นกัน

มันพูดยากสักเล็กน้อย เสด็จอารองใช้ประโยชน์จากความตายของตัวเองทำลายมู่หรงฉี ให้พินาศไปด้วยกัน ทำให้มู่หรงฉีมิมีความหวังที่จะได้ครองบัลลังก์อีกต่อไป

มีเพียงแค่ไทฮองไทเฮาที่เข้าใจสถานการณ์ดี ในตอนที่กำลังจะสิ้นใจ มิเพียงแต่จะมิมีความแค้นใดๆ ต่อชิงฮวนแล้ว แต่ยังกังวลว่าคนอื่นๆ จะทำให้นางลำบาก และขอให้นางอภัย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชิงฮวนก็รู้สึกมิสบอารมณ์อยู่ในใจขึ้นมาทันที

“แม้ว่าเราทั้งคู่จะทำลายงานสำคัญของเสด็จอารองจริงๆ แต่หม่อมฉันมิคิดว่าเสด็จอารองจะโกรธแค้นเราเช่นนี้ จนกระทั่งคิดทำลายท่านกับหม่อมฉันโดยมิเสียดายชีวิต

ก่อนหน้านี้หม่อมฉันก็มิเข้าใจ คิดเยี่ยงไรก็มิเข้าใจเลย แต่ตอนนี้หม่อมฉันเข้าใจแล้ว เขาคงรู้สึกว่ายังไงตนก็ถึงคราวแล้ว ทำสิ่งที่มีมูลค่าที่สุด โดยการกำจัดท่านกับหม่อมฉันเพื่อปูทางให้ผู้อื่นมิดีกว่าหรือ?”

มู่หรงฉีลดเปลือกตาลงเล็กน้อย ชิงฮวนที่อยู่ตรงหน้าเขา มองออกถึงการต่อสู้และความยุ่งเหยิงในใจของเขา เขามิเต็มใจที่จะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย เป็นสิ่งที่คาดเดา ทว่าก็ต้องสงสัย จากนั้นก็ค่อยๆ พินิจวิเคราะห์มัน

“เดิมทีเสด็จอารองยังมีทางรอด เสด็จพ่ออาจจะมิจำเป็นต้องลงโทษเขาถึงตายเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้วางหมากตัวใหญ่เอาไว้ก่อนตาย พลังอำนาจที่อธิบายมิได้ ยังมิได้ออกแรงเท่าที่ควร ทว่าเขายอมตายดีกว่าจะกลับไปเมืองหลวงกับเรา มิยอมเปิดโปงรากเหง้าของเขา และมันก็ต้องมีเหตุผล”

มู่หรงฉีตั้งข้อสงสัยในใจของตน ครุ่นคิดมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามเองและตอบมันเอง

“ในอีกด้านหนึ่งก็เพื่อทำลายข้ากับเจ้า อีกด้านหนึ่งก็เพราะคนของเขาอยู่ในเมืองหลวง เขากลัวว่าหากตนกลับไปที่เมืองหลวง อีกฝ่ายอาจจะรวนกันหมด ที่มิเสียดายทุกอย่างที่ต้องชดใช้เพื่อช่วยชีวิตเขา และล้มกระดาน เขาจึงมิเสียดายที่จะสละชีวิของตนเพื่อปกป้องคนผู้นี้”

“ที่ทำให้เขาเสียสละและช่วยผู้อื่นให้สมปราถนาเช่นนี้ ท่านคิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์แบบไหนกัน?”

มู่หรงฉีมิจำเป็นต้องคิดเลย เพราะมีคำตอบอยู่ในใจตนอยู่แล้ว

ในโลกนี้ นอกจากความรักของพ่อที่เสียสละได้เช่นนี้ จะยังมีเหตุผลอันใดอีกล่ะ?

ทว่าบุตรชายของเสด็จอารองและเสด็จอาสะใภ้รองมิได้อยู่ที่เมืองหลวง อีกอย่าง เสด็จอารองก็มิค่อยโปรดปรานลูกชายผู้นี้ของตนมาตลอดอยู่แล้ว

เอาเป็นว่า เดิมทีแล้วเสด็จอารองกับอ๋องเชียนมีความสัมพันธ์ฉันเครือญาติกัน แม้ว่าอันที่จริงแล้วจะสามารถยืนยันได้ผ่านทางกลวิธี นอกจากมู่หรงฉีแล้ว ใครจะเชื่อ เรื่องที่ไร้มูลความจริง เช่นนี้กันเล่า?

จุดประสงค์มันชัดเจนมาก เสด็จอารองอยากให้ลูกของตนมีสถานะเป็นองค์ชาย เจตนาแสวงหาบัลลังก์ผ่านสถานะนี้ได้อย่างมีเหตุผล

สิ่งที่เขาต้องทำต่อไปก็คือ ใช้ประโยชน์จากอำนาจในวังของตน ช่วยหรงกุ้ยเหรินแย่งชิงความโปรดปรานมา มีตำแหน่งที่ยืนในวัง น้องห้าถึงจะสามารถพาให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ และมีสิทธิในการแย่งชิงบัลลังก์

แต่ในความเป็นจริง หรงกุ้ยเหรินมิได้เป็นที่รู้จัก น้องห้าก็มิได้รู้สึกว่าอยู่ในราชสำนักเลยแม้แต่น้อยเช่นกัน สิ่งนี้ขัดกับแผนร้ายของเสด็จอารอง แม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะเราได้ อยากจะประคับประคองน้องห้าผู้เงียบขรึมให้ได้รับความเห็นชอบจากขุนนางในราชสำนักมันก็มิง่ายเลย”

“ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย เขาจึงรวบรวมกำลังอย่างลับๆ ในเหอซีที่อยู่ไกลออกไป จัดซื้ออาวุธปืน เมื่อฉางอันเปลี่ยนจากเก่าเป็นใหม่ ก็ลงมือพร้อมกันทั้งสองวิธีการ และส่งทหารไปยึดอำนาจ!”

“แต่หลังจากที่เสด็จอารองถูกประหารชีวิตเล่า? หรงกุ้ยเหรินกับน้องห้าล้วนมิได้มีความเฉลียวฉลาดที่ลึกล้ำที่จะสามารถวางแผนกลยุทธ์โจมตีได้เช่นนี้ และนำเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังเหล่านี้ออกไป นิสัยใจคอของน้องห้าเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก มันมิใช่การเสแสร้งแกล้งทำอย่างแน่นอน ต้องมีความเข้าใจผิดบางอย่างในนี้แน่”

มู่หรงฉีพูดอย่างมีเหตุมีผล ชิงฮวนก็รู้สึกเช่นกันว่าอันที่จริงตนอาจจะสงสัยและมีอคติต่ออ๋องเชียนเพราะหมู่เลือดที่ผิดปกติของเขา ประกอบกับความสงสัยที่ทยอยตามมา เมื่อจิตใจรุ่มร้อน ก็ปักใจเชื่ออย่างมิต้องสงสัย

มู่หรงฉีรู้จักอ๋องเชียน รู้จักสถานการณ์ในราชสำนักดีกว่าตนอยู่แล้ว เมื่อพิจารณาคำถามรอบด้านแล้ว ก็ใจเย็นลง

แม้ว่าการคาดคะเนของตนจะสมเหตุสมผลเพียงใด ก็มิได้สนใจธรรมชาติของมนุษย์คนหนึ่งเลย

หรงกุ้ยเหรินผู้นี้เป็นคนแบบไหนกันแน่ ชิงฮวนก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย แม้ว่าช่วงเวลาเหล่านั้นที่อยู่ในวัง หรงกุ้ยเหรินมีสถานะที่ต่ำต้อย และมิเคยเดินนำหน้านางเลย

บางทีตนอาจจะต้องเข้าวังอีกสักครั้ง เพื่อได้พบกับหรงกุ้ยเหรินผู้นี้

ถ้าสมมติว่าความสงสัยของตนถูกต้อง หลายปีที่ผ่านมาขนาดนั้น เป็นไปมิได้เลยที่หรงกุ้ยเหรินจะทำมันได้อย่างไร้ที่ติโดยมิทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้

นี่ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา