ณ ตำหนักเจียนเจีย
ชิงฮ่วนเข้าไปหาฮุ่ยเฟยในพระราชวังเพื่อแอบลอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับหรงกุ้ยเหริน นางวางแผนเริ่มจากประสบการณ์ชีวิตของอ๋องเชียนก่อน ลองดูว่าระหว่างหรงกุ้ยเหรินกับเสด็จอารองนั้นมีความลับอะไรที่มิอาจเอ่ยให้ผู้ใดล่วงรู้ได้อยู่หรือไม่
ฮุ่ยเฟยรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เหตุใดช่วงนี้ถึงจู่ๆ ก็สนใจหรงกุ้ยเหรินขึ้นมาเล่า?”
“ในตอนที่อ๋องเชียนเชิญชวนทุกคนดื่มกินกันในงานเทศกาลตวนหวู่ จู่ๆ นิสัยก็เปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปมากอย่างบ้าระห่ำ หม่อมฉันคิดว่านี่อาจจะจัดอยู่ในอาการป่วยทางจิตชนิดหนึ่ง จึงใคร่รู้ว่า ตกลงแล้วเรื่องอันใดกันแน่ที่ทำให้เขามีท่าทีเยี่ยงนี้?”
ฮุ่ยเฟยส่งเสียงฮึเบาๆ “หรงกุ้ยเหรินผู้นั้นน่ะบินเองมิได้ จึงต้องวางไข่ไว้ในรัง ฝากฝังความหวังทั้งหมดไว้ที่ไข่ใบนี้ หวังว่าไข่ใบนี้จะมีอนาคตที่ยาวไกล โดดเด่นและเหนือกว่าผู้ใด นางเองก็จะได้เป็นแม่ที่เกาะลูกชายบินขึ้นสู่ยอดกิ่งไม้ด้วยอย่างไรเล่า
ด้วยเหตุนี้นางจึงเคี่ยวเข็ญเด็กคนนี้เป็นพิเศษตั้งแต่ยังเล็ก แม้ว่านางจะมาจากพื้นเพที่ต่ำต้อย มิอาจจะชี้ไม้ชี้มือเพื่อเลี้ยงดูองค์ชายได้ ทว่าเบี้องหลังสำหรับอ๋องเชียนนั้น สิ่งนั้นก็มิดี สิ่งนี้ก็มิได้ หากเด็กมิเชื่อฟังเพียงนิดเดียว นางก็จัดการถึงขั้นเจียนตาย แม้ว่าเคยเป็นเด็กดีเพียงใดก็จะต้องถูกลงโทษ”
เมื่อพูดเรื่องของผู้อื่นขึ้นมา ฮุ่ยเฟยก็มักจะพูดฉอดๆ จนน้ำไหลไฟดับอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องความเป็นเลิศของมู่หรงฉี ทำให้นางยิ่งพึงพอใจมากขึ้น
“หรงกุ้ยเหรินผู้นี้มักใหญ่ใฝ่สูงอย่างที่ท่านพูดมาจริงหรือ?”
“อันที่จริงก็มิอาจพูดว่านางเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงได้หรอกนะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ถิ่นกำเนิดและประสบการณ์ความรู้ของนางก็ถูกทิ้งไว้ที่นั่น จะฟุ้งเฟ้อและละโมบเล็กๆน้อยๆ ก็มิได้มีผู้ใดใส่ใจ การแก่งแย่งชิงดีนี้นั้นเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ว่าจะสามารถมีความทะเยอทะยานอันสูงส่งได้สักเพียงใด? ขนาดให้นางเป็นฮองเฮา นางก็ยังมิกล้าเป็นเลย”
“แล้วความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเยี่ยนผินเล่า? ถึงขั้นสนิทชิดเชื้อกันหรือไม่?”
“เยี่ยนผินรึ?” ฮุ่ยเฟยขมวดคิ้ว “แม้ทั้งสองคนจะมาจากพื้นเพอันต่ำต้อยเช่นกันก็เถอะ ทว่าเยี่ยนผินน่ะกลับดูถูกความเห็นแก่ตัวของนาง ส่วนนางก็ดูถูกความเย่อหยิ่งของเยี่ยนผิน ทั้งสองจึงมิค่อยลงรอยกันสักเท่าใด”
“ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นในวันนั้นที่เยี่ยนผินตกลงไปในน้ำ? ตอนนั้นที่เยี่ยนผินโดนฮองเฮาลงโทษ หรงกุ้ยเหรินก็อยู่ตรงหน้านั้นด้วยหรือไม่?”
ฮุ่ยเฟยพูดปฏิเสธอย่างแทบมิต้องคิดให้มากความ “หากพูดถึงบทบาทของนาง จะมีคุณสมบัติพอที่จะไปปรากฏตัวอยู่ในสถานการณ์เยี่ยงนั้นได้อย่างไร? หากพูดถึงตอนที่เยี่ยนผินโดนลงโทษ จำได้ว่าวันนั้นเห็นจะมีเพียงพระสนมหลินเฟยที่คอยพูดจูงใจนาง เจ้าคงมิได้สงสัยหรงกุ้ยเหรินหรอกใช่หรือไม่?”
พระสนมหลินเฟยงั้นรึ? ภายในใจของชิงฮวนเต้นระรัว นึกถึงวันนั้นก่อนหน้าที่เยี่ยนผินจะตกลงไปในน้ำ ตัวนางนั้นไปแต่งหน้าแต่งตัวให้กับลี่ว์อู๋ พระชายารุ่ยเคยบอกกับนางว่า พระสนมหลินเฟยนั้นเคยปลอบใจเยี่ยนผิน และยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เยี่ยนผินอย่างกรุณา แต่น่าเสียดายที่เยี่ยนผินมิเห็นค่า
ทว่า ในช่วงใกล้จะสิ้นปีตอนที่ไทฮองไทเฮาสวรรคต หลินเฟยออกจากตำหนักไปยังสุสานของฮ่องเต้เพื่อเฝ้าศพงั้นหรือ? ตอนที่เกิดเรื่องราวมากมาย นางมิได้อยู่ในวัง
ชิงฮวนมิได้ปิดบัง พร้อมบอกความจริงเพื่อเลี่ยงมิให้พระสนมฮุ่ยเฟยต้องตกไปอยู่ในแผนการของผู้อื่น “ตอนนี้มีเงื่อนงำเล็กน้อยที่ชี้ชัดไปที่นาง”
ฮุ่ยเฟยส่ายหัวอย่างช้าๆ “มิใช่ว่าข้าจะแก้ต่างให้กับหรงกุ้ยเหรินผู้นี้หรอกนะ เอาเยี่ยงนี้ เจ้าไปด้วยกันกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปความรู้จักกับนาง เจ้าตัดสินใจเองเถิด”
“ระวังจะแหวกหญ้าให้งูตื่น”
“พวกเรามองดูอยู่ไกลๆ ก็พอแล้ว”
ฮุ่ยเฟยจึงสั่งให้รีบลงไปทันที จากนั้นก็พาชิงฮวนตรงไปยังตำหนักที่หรงกุ้ยเหรินอาศัยอยู่
ตามที่ฮุ่ยเฟยบอก หรงกุ้ยเหรินนั้นอยู่ในตำหนักกับนางสนมที่มิเป็นที่โปรดปราณ ที่พำนักอยู่ที่ห้องโถงหลักคือเจินผิน อยู่ในสถานที่ห่างไกล ดอกไม้และต้นไม้ที่ประตูทางเข้านั้นช่างดูร่อยหรอเนื่องจากขาดการดูแล
ฮุ่ยเฟยบุ้ยปากไปทางลานกว้าง “เห็นหรือไม่ ผู้ที่เย้ายวนหลอกล่อเป็นนกเขียนคิ้วอยู่ใต้ชายคาระเบียงอยู่นั่นน่ะ คือหรงกุ้ยเหริน
ชิงฮวนจ้องมองเข้าไปก็มองเห็นแค่เพียงใบหน้าด้านข้าง รูปร่างนางที่ปกคลุมอยู่ภายใต้ชุดชาววังลายเกสรดอกซิ่งฮวานั้นดูสมบูรณ์ขึ้นเล็กน้อย ดูมิค่อยเหมาะสมกับอายุอานามในปัจจุบันของนางสักเท่าใด ออกจะดูบ้านนอกไปเสียหน่อย
บนศีรษะเองก็งามสะพรั่งมิแพ้กัน ถูกสวมด้วยเครื่องประดับผมราคาถูกแต่ดูโดดเด่นสะดุดตา มีกลิ่นของความเสื่อมโทรมคละคลุ้งไปทั่วร่างกายอย่างมิเต็มใจนัก
ช่างบังเอิญเสียจริงที่ในลานบ้านนั้นมีเพียงนางแค่ผู้เดียว
ฮุ่ยเฟยส่งสายตาเชิงสัญลักษณ์ให้กับขันทีน้อยที่อยู่ด้านหลัง ขันทีน้อยก็เข้าใจความหมายได้ทันที พร้อมยกถาดที่อยู่ในมือเดินตรงเข้าไปด้านใน
ฮุ่ยเฟยดึงชิงฮวนเข้ามาซ่อนด้านข้าง
ในลานบ้าน เมื่อหรงกุ้ยเหรินได้ยินเสียงฝีเท้า จึงรีบหันใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและริ้วรอยตามวัยของนางในทันที
หรงกุ้ยเหรินอาจจะเสแสร้งก็เป็นได้ ทว่าในตอนที่อยู่เพียงลำพัง นางจะเสแสร้งแกล้งทำไปเพื่อกระไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...