ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 77

มู่หรงฉีที่คิดแบบนี้ เขาเองก็ไม่อยากที่จะขุดคุ้ยเรื่องนี้ต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจือชิวหรือแม่จ้าวใครเป็นฝ่ายผิดหรือถูกกันแน่นั้น มีเพียงนายของพวกนางเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจ

สีหน้าของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “ลุกขึ้นเถอะ เรื่องนี้เจ้าจัดการตามสมควรเถอะ”

เหลิ่งชิงหลางลุกยืนขึ้นจากพื้น มองไปทางจือชิวและขบริมฝีปากของตัวเองเล็กน้อย “จือชิวติดตามข้ามาหลายปี เมื่อครู่นี้หม่อมฉันเองก็อยากจะให้นางได้ดิบได้ดี หม่อมฉันเองก็มีโทสะไปบ้าง แต่เมื่อมองถึงความสัมพันธ์หลายปีของเราแล้ว ในฐานะที่หม่อมฉันเป็นนายก็ต้องอยากจะมอบบ้านที่ดีให้กับนางเพคะ

ถ้าหากว่าท่านอ๋องรับปาก หม่อมฉันจะแบ่งเรือนจื่อเถิงเป็นสองห้อง แล้วให้จือชิวเป็นสาวรับใช้ค้างห้องเพคะ? พวกเราจะได้พบกันทุกวันและอยู่เป็นเพื่อนกัน เพื่อไม่ให้พี่หญิงต้องมาลำบาก”

เบื่อคำพูดประโยคนี้พูดออกมา น้ำตาของเหลิ่งชิงหลางก็ไหลออกมาไม่ขาดสายด้วยท่าทาที่ทั้งปวดใจและแสร้งทำเป็นใจกว้าง

มู่หรงฉีนึกถึงเหลิ่งชิงฮวนที่เพิ่งจะมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น เขาก็เดือดดาลขึ้นทันทีและพยักหน้ารับ “เจ้าจะทำอะไรก็ทำเถอะ”

เหลิ่งชิงหลางเดิมทีเครปที่จะมาลองเชิง และเฝ้าคอยให้มู่หรงฉีปฏิเสธคำขอของเธอ จากนั้นก็ปฏิเสธจือชิวออกไปอย่างแน่วแน่ ใครจะรู้กันละว่าเขาได้ตอบรับตามมา สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกใจสลายในทันทีและร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนายิ่งกว่าเดิม

ตัวเองนั้นได้เป็นพระชายารองและยังไม่ได้รับความโปรดปราน ก็มีสาวใช้ข้างห้องเข้ามาเสียแล้ว นี่จะไม่ได้ทำให้คนอื่นพากันหัวเราะเยาะหรือ

ให้พวกเธอต่างแสดงความรักต่อกันใต้จมูกของเขา เธอทำไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เป็นแม่จ้าวที่เอาแต่เตือนเธอมาตลอดและพูดว่าแทนที่จะให้เหลิ่งชิงฮวนจัดการเรื่องที่อยู่ของจือชิว ลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ งั้นก็เพื่อแสดงความมีเมตตาของตัวเธอเอง สองก็เพื่อให้จือชิวอยู่ในสายตา จำนวนครั้งที่ท่านอ๋องมาที่เรือนจื่อเถิงก็จะมาขึ้นด้วย ถือเป็นวิธีการในการแย่งความโปรดปรานอีกวิธีหนึ่ง

ยกตัวอย่างขยณะเช่นเวลาที่นางจินร่างกายไม่พร้อม นางก็จะแนะนำสาวใช้ข้างห้องที่อยู่ข้างกายนางให้กับเหลิ่งเซียง ภายหลังได้ให้กำเนิดคุณหนูสี่และได้ถูกยกฐานะขึ้นเป็นคุณนายสี่ ซึ่งนางเชื่อฟังนางจินทุกอย่าง

ชั่วขณะหนึ่งเธอเองก็ไม่ได้คิดอะไร อีกทั้งยังมีความผิดที่ปกปิดเอาไว้ มู่หรงฉีไม่เพียงแต่ไม่พูดเอาใจเธอ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธและทำท่าทางถูกอกถูกใจ เธอตกใจจนสติหลุด

จือชิวที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็ลอบดีใจ และรีบโขกหัวขอบคุณ ป็นพัลวัน

มู่หรงฉีไม่มองเธอสักนิด “ถ้าหากว่าอยากจะขอบคุณละก็ เจ้าควรจะไปขอบคุณพระชายาที่ตำหนักฉาวเทียนนะ อย่างไรเสียนางก็เป็นเจ้านายในนามของเจ้า ตอนนี้มีคนเพิ่มเข้ามาในจวนแล้ว เจ้าสมควรที่จะไปโขกศีรษะให้กับนาง”

เหลิ่งชิงหลางคิดที่จะต่อต้าน แต่เธอกลับคือกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไปอย่างฉลาด

เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่เธอจะมาดื้อรั้นเอาแต่ใจ

เธอออกมาจากห้องตำราของมู่หรงฉีแล้ว เหลิ่งชิงหลางก็เดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปยังเรือนจื่อเถิง แล้วสั่งให้คนทำความสะอาดห้องทั้งสองห้อง เพื่อให้จือชิวได้เปลี่ยนชุดกลายเป็นสาวใช้ข้างห้องตามสมญนาม

เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนนั้น เหลิ่งชิงหลางได้สอบถามกับจือชิวอีกครั้ง จือชิวเองก็ยืนกรานว่าหลังจากที่ตนนั้นได้กินซุปไก่เข้าไปก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกร้อนจนต้องตื่นขึ้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่ทุกคนทราบกัน

เหลิ่งชิงหลางไม่ได้บอกว่าเชื่อนาง แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ เธอทำเพียงแค่มองไปด้วยสายตาที่มีความเกลียดชังอย่างปิดไม่มิด

จือชิวรับใช้เธอมาแต่เล็ก ทุกการกระทำของเธอจือชิวเพียงแค่เห็นก็สามารถเดาได้ถึงสิ่งที่เธอคิด

จือชิวครุ่นคิด สำหรับเหลิ่งชิงหลางแล้วตนนั้ ราวกับสุนัขตัวหนึ่งที่ภักดีกับเจ้านาย เธอจะไม่มีทางเชื่อมั่นในตนเองแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว

ดังนั้นเธอจะต้องคิดหาวิธีให้ตัวเองได้รับความโปรดปรานจากมู่หรงฉีให้ได้ ถึงแม้ว่าเธอไม่อาจจะไปได้ดีกว่าเหลิ่งชิงหลางได้ตลอดไปแต่ว่าก็นับว่าเธอยังมีที่พึ่ง

เมื่อขอความยินยอมจากหลิ่งชิงหลางแล้ว เธอก็ไปหาเหลิ่งชิงฮวนเพื่อโขกศีรษะให้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา