ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 78

เหลิ่งชิงฮวนกำลังนั่งไขว่ห้างพร้อมกับดื่มด่ำกับรสชาติของผลเชอร์รี่ โตวโตวสาวใช้ผู้ภักดีก็เฝ้าอยู่ที่ด้านหน้า

“วันนี้เป็นข้าที่เป็นเจ้าบ่าวหรือว่าคุณหนูกันเจ้าคะ เป็นครั้งแรกที่เห็นมีคนยักคิ้วหลิ่วตาอย่างมีความสุขให้กับสามีของตัวเอง”

นิ้วเรียวขาวซีของเหลิ่งชิงฮวนกำลังคีบผลเชอร์รี่ไว้และยกมันขึ้น จากนั้นเธอก็อ้าปากขึ้นแล้วน้ำผลเชอร์รี่เข้าไปใกล้ปากของเธอแล้วกัดมัน เธอหลับตาลงเพื่อดื่มด่ำกับรสชาติ

“นี่นับว่ามันเป็นอะไรกัน ข้าไปแอบสืบมาแล้ว ได้ยินมาว่าที่คอกม้ามีหญิงงามหยดย้อยอยู่สองคน อีกทั้งยังเป็นคนที่พระสนมฮุ่ยเฟยประทานมาให้ เดี๋ยวข้าจะไปรับพวกนางกลับมา หลังจากที่ขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยแล้วก็จะส่งไปให้ท่านอ๋องฉีเพื่อตอบแทนบุญคุณที่เขามีต่อข้า ข้าคิดว่าเขาจะต้องเห็นความดีความชอบครั้งนี้ของข้าแน่นอน”

โตวโตวทำอะไรไม่ถูก “คุณหนูไม่ได้ตอบแทนบุญคุณหรอกเจ้าค่ะแต่เป็นแก้แค้นหรือเปล่าเจ้าคะ วันนี้สีหน้าของท่านอ๋องครึ้มยิ่งนัก ท่านเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้พบ บ่าวกล้ารับประกันเลยเจ้าค่ะว่าตัวพวกนางต้องเหม็นกลิ่นฉี่ม้าไปทั้งตัวแน่ และจะกลายเป็นพวกเราที่ต้องเข้าไปนอนในคอกม้าแทน”

“เจ้านี่ไม่เข้าใจสินะ ผู้ชายน่ะล้วนปากไม่ตรงกับใจ แกล้งทำท่าเป็นสุภาพบุรุษกัน ครั้งแรกที่มู่หรงฉีเจอกับเหลิ่งชิงหลาง เจ้าไม่ได้เห็น ดูแล้วเหมือนกับแมลงวันที่กำลังเล็งใครเน่าไว้อย่างไรอย่างนั้น ลองคิดดูสิ ทุกวันนี้สาวงามในเรือนจื่อเถิงมีถึงสองคน แม้จะดูหื่นไปหน่ แต่ว่ากอดไว้ซ้ายคนขวาคน พอคิดดูแล้วเลือดลมคงสูบฉีดน่าดู

สวนทางข้าก็ได้เตรียมยาบำรุงไปไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว คาดคิดไว้ว่าจะคิดหนึ่งพันสองร้อยตำลึงเงินต่อการรักษาหนึ่งครั้ง คาดจะรีดไถเขาให้ดีเชียวล่ะ

เเล้วก็ข้าคิดไว้ทั้งหมดแล้ว ถ้าหากว่านี้ออกไปจากจวนอ๋องนี่ไม่ได้ ข้าก็จะไปเสาะหาสาวงามมาให้เขาอีกและจะสอนเรื่องการดีดฉิน เล่นหมากล้อม อ่านตำรา และการวาดภาพให้กับพวกนาง จากนั้นก็จะสร้างเรือนหรูหราในจวนอ๋อง จากนั้นก็จะคิดราคาเป็นเพื่อนคุยและเพื่อนนอนตามราคาตลาด คาดจะเป็นแม่เล้า และจะเค้นไตเขาให้แห้ง จากนั้นก็ค่อยซื้อยาบำรุงให้เขา ให้มันเป็นวัฏจักรแบบนี้ ลงทุนนน้อยแต่กำไรดี ไม่แย่แต่ก็คงไม่รวย

“หลังจากนั้นพอมีเงินแล้ว เจ้าจะเลี้ยงหนุ่มรูปงามไว้สักโหลก็ยังได้ พวกเขาเห็นแล้วคงแทบทะเลาะตบตีกันเพียงเพื่อน้ำล้างเท้ากะละมังหนึ่ง เจ้าว่างั้นไหม”

เหลิ่งชิงฮวนคิดจะพูดต่อว่าใช่ จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่ไม่ใช่เสียงของโตวโตว จึงรีบลุกขึ้นนั่งตัวตรง

มู่หรงฉียกม่านขึ้นแล้วเดินเข้ามาในห้อง

“พูดก็คือเจ้าพยายามที่จะเล่นสนุกกับข้าจนตาย จากนั้นก็จะเอาเงินของข้าไปหาหนุ่มน้อย ถูกไหม”

พูดอีกก็ถูกอีก เหมือนกับว่าเรื่องมันดำเนินไปตามนั้นจริง

เมื่อโตวโตวเห็นว่าคุณหนูของเธอพูที่ดพร่ำไปเรื่อยนั้นถูกจับได้ เธอก็ตกใจจนตัวสั่น เธอก็คุกเข่า “แหมะ” ลงบนพื้น “ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิต”

สาวรับใช้คนนี้นั้นตาขาวยิ่งนักราวกับกระต่าย

เหลิ่งชิงฮวนยกมือขึ้นปัดเป็นสัญญาณให้เธอถอยออกไป จากนั้นเธอจึงลุกยืนขึ้นแล้วยิ้มกว้างและทำท่าประจบประแจง อย่างไรซีอาร์ตัวเธอก็ได้เสียมารยาทไปชั่วครู่ และได้คุยโวออกมาราวกับได้พูดคำพูดที่ผิดอย่างร้ายแรงออกมากมาย

“หม่อมฉันก็แค่คุยโวไปเรื่อยเพคะ หมกมุ่น หมกมุ่น ท่านเคยได้เห็นมาก่อนไหมเพคะ”

“เจ้าบอกว่าเจ้ากำลังหมกมุ่นในตัวข้า?”

ทำไมการตีความผิดพลาดนี้ถึงได้น่าอึดอัด ต้องโทษตัวเธอที่ใช้คำศัพท์ไม่ถูกต้อง

“แน่นอนว่าไม่ใช่เพคะ!” เหลิ่งชิงฮวนพูดออกมาอย่างหนักแน่น เธอปฏิเสธออกมาว่า “พูดผิด แค่พูดผิดเท่านั้นเพคะ”

พูดผิด? แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าได้นำไปปฏิบัติจริงแล้วนะ ดูท่าว่า พระชายาของข้าจะเกลี้ยกล่อมคนอื่นได้เก่งนะ เดิมทีจือชิวนั้นภักดีกับเหลิ่งชิงหลาง แต่เมื่อครู่ที่ข้าเห็น ใบหน้านอกล้อมลั่นเห็นได้ชัดว่านางรู้สึกขอบคุณเจ้าอยู่ในใจล่ะสิ”

ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแค่ปากของเขาที่มีพิษร้าย แต่สายตาของเขาเองก็ร้ายเช่นกัน

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะ “คิก” ออกมาเสียงดัง เพื่อทำให้เรื่องที่หนักหนานั้นเบาลง “วิธีการนี้ของท่านอ๋องนั้นดีเพคะ ท่านแบบว่าถ้าหม่อมฉันสามารถให้สาวใช้ในจวนออกทั้งหมดนั้นขึ้นมาเชิดหน้าชูตาได้ พวกนางก็จะปลื้มในตัวหม่อมฉันมากไม่ใช่หรือเพคะ”

“เหลิ่งชิงฮวน เจ้าเห็นข้าเป็นอะไรกัน”

ม้าพ่อพันธุ์ไง

เหลิ่งชิงฮวนยักไหล่ “ใจแคบ ล้อเล่นสักนิดก็ไม่เป็นหรือไงค่ะ น้องหญิงบอกว่าท่านนั้นเป็นพวกรักมั่นอีกทั้งยังเป็นพวกเอาใจใส่คนรัก ต่อให้ข้าเอาใจท่านมากแค่ไหน ท่าอ๋องท่านเป็นคนที่มีความมั่นคง ถ้าเองก็จะท่านอ๋องของพวกนางตกหลุมพรางไม่ได้ใช่หรือไม่ นี่ไม่ใช่จือชิวที่ท่านได้ตรวจของแล้ว จะนำกลับมาคืนก็คงไม่เหมาะสมนักนะเพคะ”

ในที่สุดมู่หรงฉีก็ลืมมารยาทของตนไปจนหมด และระเบิดออกมาว่า “ทดสอบของอะไรกัน! เหลิ่งชิงฮวน ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเดาไม่ออกว่า เรื่องนี้มันมีปัญหาตรงไหน หรือว่าการที่ข้ามีผู้หญิงคนอื่นแล้วเจ้าจะดีใจแบบนี้”

เหลิ่งชิงฮว เบิกตากว้างอย่างตกใจ “ก็เห็นอยู่นี้เพคะว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหม่อมฉัน ทำไมท่านอ๋องถึงได้ชอบมาจับผิดหม่อมฉันนักเพคะ ในเมื่อท่านก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมท่านถึงไม่ไปหาเจ้านายของนางเพื่อตรวจสอบและสอบสวนอย่างเข้มงวดล่ะเพคะ”

มู่หรงฉีเดินต้อนเข้าไปหาเธอก้าวหนึ่งอย่างบีบเค้น “ไม่ต้องมาแกล้งทำกลบเกลื่อน ข้ากำลังถามเจ้าอยู่ เจ้าผลักไสข้าไปให้กับคนอื่น เจ้าก็เลยร้อนออกร้อนใจแบบนั้น? และยังอยากให้ข้าราสร้างเรือนหรูหรา และยังคิดที่จะเค้นไตของข้าจนแห้ง ทำไมเจ้าถึงได้ร้ายแบบนี้นะ”

“แค่พูดล้อเล่นกันเท่านั้นเพคะ” เหลิ่งชินเปลี่ยนเรื่อง “อีกอย่างหม่อมฉันเองก็ไม่ได้อยู่ในอ้อมอกของข้าด้วย จะว่าหม่อมฉันผลักไสท่านได้อย่างไรเพคะ”

มู่หรงฉีหรี่ตาของเขาลง จู่ๆ ภายในนั้นก็มีประกายของความอันตรายพาดผ่าน งั้นเขาก็เอื้อมไปคว้าตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอด และยังรั้งเอวบางของเธอเอาไว้แน่น ทำให้เธอแนบชิดกับหน้าอกของเขาในทันที เธอหายใจไม่ทัน จากนั้นเขาก็ปล่อยเธออย่างรวดเร็ว

จากความวู่วามเป็นความพึงพอใจ และเมื่อถึงความว่างเปล่า มันก็เป็นเวลาเพียงชั่วพริบตา

มู่หรงฉียกมุมปากขึ้น และยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “แบบนี้นับว่าเจ้าอยู่ในอ้อมอกของข้าหรือยังล่ะ”

ร่างกายของเขา และยังมีภายในปากของเขาล้วนมีกลิ่นเหล้าจางๆ เพราะว่าอยู่ใกล้กันก็ได้กลิ่นทันที เขาดื่มเหล้ามาแต่เดิมมาไม่มาก ดูแล้วสีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิม ไม่เห็นถึงความเมาเลยสักนิด

เหลิ่งชิงฮวนยิ่งงง จนใจลอย เธอครุ่นคิดว่าเขานั้นดื่มเหล้าอะไรไปกันแน่ หรือว่า ในเหล่านั้นได้ใส่ยาอะไรเข้าไปกัน? ใครๆ ต่างก็บอกกันว่าหลังจากที่ถึงเหล้าเข้าไปแล้วก็จะทำอะไรโดยที่ไม่รู้เรื่อง ที่แท้เป็นเรื่องจริง ทำไมเขาถึงได้จับใครแล้วก็กอดคนนั้นไปทั่วกันนะ

นี่สินะที่เรียกว่าผู้หญิงที่คลอดลูกไปแล้วก็จะโง่ไปอีกสามปี เธอนิ่งไปอยู่นานจึงจะได้สติกลับมาใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำ “มู่หรงฉี ท่านหมายความว่าอย่างไร ไม่ควรเข้าใกล้กัน ท่านกลับก้าวเปรียบหม่อมฉัน”

มู่หรงฉีจ้องไปที่เธออย่างตั้งอกตั้งใจ จากนั้นก็ยิ้มเยาะออกมา “เอาเปรียบเจ้า เหลิ่งชิงฮวน เจ้าห็นว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแล้วหรือ”

เหลิ่งชิงฮวนเหลือบมองไปที่หน้าท้องของตน “เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านอ๋องไม่ต้องคิดมากหรอกเพค ข้าเป็นผู้หญิงอย่างแท้จริง”

“ผู้หญิง? เจ้ายังมีหน้าบอกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงอีกหรือ แม้แต่จือชิวเองก็ยังอ่อนโยนและเอาใจใส่กว่าเจ้า”

ประโยคนี้ทำให้เหลิ่งชิงฮวนมีโทสะในทันที “งั้นก็ไปหานางเสียสิ เล่นให้พออกับทั้งนายทั้งบ่าว ทำพิธีเข้าหอ และร่วมหลับนอนกับพวกนาง ไม่รู้ว่าต้องใช้พลังมากขนาดไหน พอว่างจนเบื่อก็ถึงได้วิ่งมาหาข้าที่นี่”

มู่หรงฉีพยายามจ้องไปที่เธออีกครั้ง “ข้าไม่ไป ข้าจะไม่ทำให้ความปรารถนาดีของพระชายาต้องพังลง”

“งั้นหม่อมฉันขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับท่านอ๋องนะเพคะ พรุ่งนี้ก็รอดื่มน้ำชาคารวะจากพระสนมคนใหม่ น้องหญิงของข้าคนนั้นมองดูแล้วอ่อนแอ แต่เมื่อเห็นท่านอ๋องแล้วก็ราวกับสุนัขจิ้งจอก นางดุร้ายมากเลยค่ะ ถ้าหากว่าท่านกินเข้าไปแล้วไม่ย่อย ข้ายินดีมอบจุดจบให้กับท่าน ลองดูซิว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร แน่นอนว่าถ้าสั่งล็อตใหญ่สามารถขอส่วนลดได้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์”

มู่หรงฉีโมโหจนรูจมูกกระพือ บนหน้าผากของเขามีเส้นเลือด “ปูดโปน” ออกมา เขาหันหลังกลับไปอย่างเย็นชาและเดินออกไปจากตำหนักฉาวเทียน เขาเดินก้าวยาวออกไปทางเรือนจื่อเถิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา