ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 778

สรุปบท ตอนที่ 778 วางเพลิงที่สวน: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 778 วางเพลิงที่สวน จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 778 วางเพลิงที่สวน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เรื่องที่ทำให้เหลิ่งชิงเหยาหวาดกลัวได้เกิดขึ้นแล้ว ปลาดังกล่าวเกิดอาการคลุ้มคลั่งและกระแทกอยู่ในอ่างไปมา สุดท้ายหัวก็กระแทกเข้ากับอ่างอีกทีและลอยขึ้นมาบนผิวน้ำตายไป

ในยามีพิษจริง ๆ ด้วย! เหลิ่งชิงเหยาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงยังปลอดภัยอยู่ทั้ง ๆ ที่กินยาติดต่อกันนานขนาดนี้ได้ แต่ในอ่างนี้ใส่เข้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ปฏิกิริยาของปลารุนแรงได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ

เธอถูกทำให้ตกใจกลัวจนเหงื่อออกท่วมร่างกาย ถึงกับเก็บเอาไปฝันร้ายทั้งคืน ฝันถึงการตายอย่างน่าสังเวชของปลาตัวนั้น

พระชายาเฮ่าให้ท่านหมอทำอะไรกับตัวเองกันแน่? ตอนนี้ตัวเองถูกวางยาพิษแล้วใช่หรือไม่?

นางจึงนึกถึงเหลิ่งชิงฮวนขึ้นมาอีกครั้ง

ในใจของนางเหลิ่งชิงฮวนเป็นพี่สาวคนโตคนหนึ่งที่พึ่งพาได้ ถึงขนาดที่ว่าพึ่งได้มากกว่าอี๋เหนียงที่ไม่มีความรู้มากนักของตัวเองเสียอีก

ถ้าหากเหลิ่งชิงฮวนอยู่ที่นี่ด้วย แค่มองปราดเดียวก็เห็นปัญหาได้อย่างแน่นอน นางมีทักษะทางการแพทย์ที่สูงส่ง ฉลาดหลักแหลม และดูแลพี่น้องในจวนอย่างดี ดังนั้นจะต้องเรียกร้องความยุติธรรมแทนตัวเองได้อย่างแน่นอน

แต่ครั้งสุดท้ายตัวเองกลับพูดกลับคำและยังย้อนแว้งกัดนาง เพราะคิดว่านางอิจฉาที่ตัวเองตั้งครรภ์ ตนเองได้ปิดหนทางหนีรอดทั้งหมดไปแล้ว เหลิ่งชิงฮวนจะช่วยตัวเองโดยไม่คำนึงถึงเรื่องในอดีตหรือไม่?

ต่อให้นางจะช่วยได้ เช่นนั้นตัวเองจะติดต่อกับนางได้อย่างไร?

เหลิ่งชิงเหยาเหมือนลูกแกะที่ถูกฝูงหมาป่ารุมล้อมเอาไว้ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เจอทางรอด เรียกหาใครก็ไม่ได้ พึ่งพาใครก็ไม่ได้ไม่มีหนทางรอดไปได้เลย

นางอยากกลับจวนมหาเสนาบดี อยากเจออ๋องเฮ่า อยากจะหาหมอมาวินิจฉัยว่าในท้องของตัวเองคืออะไรกันแน่?

นางยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว จนตรอกแล้วจริง ๆ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัว

วันนี้ลมแรงเสียด้วย

เหลิ่งชิงเหยาจึงบอกว่ารู้สึกอึดอัดอยากจะออกไปเดินเล่นเสียหน่อย ขอบเขตที่นางสามารถออกไปเดินหายใจได้นั้นไม่ได้กว้างมากนัก อยู่ได้เพียงริม ๆ ทะเลสาบเท่านั้น

แน่นอนว่าพี่เลี้ยงทั้งสองคนต้องอยู่เดินติดตามนางไปทุกย่างก้าวไม่ให้ห่างตัวแม้แต่ก้าวเดียว ตามประกบซ้ายขวาตลอดเวลา

องครักษ์ก็จ้องมองนางอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เพื่อป้องกันไม่ให้นางหลบหนีได้

นี่เป็นหน้าที่ที่ทุกคนในสวนต้องทำ ดูแลเฝ้านางให้ดี ๆ และไม่สามารถละเลยหน้าที่นั้นได้

ตอนที่กำลังจะออกไปข้างนอก นางบอกว่ากระหายน้ำเล็กน้อยจึงหันหลังเดินกลับไปดื่มชา พี่เลี้ยงไม่ได้สงสัยอะไร ยืนรออยู่ที่นอกเรือน

นางจุดเทียนเล่มเล็ก ๆ ที่กำลังหมดวางไว้ในมุ้ง จากนั้นก็ปล่อยมุ่งลงมาครึ่งหนึ่งเพื่อบดบังเปลวไฟจากเทียนจุดขึ้นมาที่เบา ๆ นั้นเอาไว้

จากนั้นก็ปิดประตูห้องและก็ถูกประคองเดินออกไป

พี่เลี้ยงยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูและยังเคยชะโงกหน้าเข้าไปมองในห้องเล็กน้อยด้วย แต่ก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ

ครั้งนี้เหลิ่งชิงเหยาพาพี่เลี้ยงและองครักษ์เดินไปไกลมาก ๆ ไกลพอให้เทียนในห้องของนางลุกไหม้จนหมด เมื่อมีไฟลุกไหม้ขึ้นมา ไม่มีใครในเรือนสังเกตเห็นสักคน

แต่ท่านหมอที่กำลังจดจ่ออยู่กับศึกษาสมุนไพรในห้องของเขา ได้กลิ่นไหม้ ๆ ในอากาศจึงลุกขึ้นมา เปลวไฟได้ไหม้ม่านตรงเตียงอย่างรวดเร็วแล้วเปลวไฟก็ลุกลามพุ่งขึ้นไปบนหลังคา

ท่านหมอตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ

องครักษ์กับพี่เลี้ยงที่มองเห็นว่ามีไฟไหม้จากทางสวน จึงรีบกลับไปอย่างกระวนกระวาย เหลิ่งชิงเหยาประคองท้องเดินไปไม่รีบร้อนและไม่ตื่นตระหนกอะไรใด ๆ

เพลิงไฟโหมไหม้กระหน่ำและไหม้ห้องหลักไปเรียบร้อยแล้ว รอให้องครักษ์หยิบถัง หยิบหม้อใส่น้ำมาดับไฟก็ควบคุมไม่อยู่แล้ว ทำได้เพียงมองดูไฟเผาไหม้โหมกระหน่ำตรงหน้าอยู่แบบนั้น

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเหลิ่งชิงเหยา

สิ่งที่นางต้องการก็คือผลลัพธ์แบบนี้นั่นแหละ ไฟยิ่งแรงยิ่งดี ทางดีที่สุดคือเผาสวนทั้งหมดไปเลยยิ่งดี! เมื่อเป็นเช่นนี้ที่นี่ก็ไม่สามารถอยู่ต่อได้ พระชายาเฮ่าทำได้เพียงต้องรับตัวเองไปอยู่ที่จวนอ๋องเฮ่า หากตัวเองก็มีโอกาสได้เจออ๋องเฮ่า จะขอให้เขาช่วยให้ความเป็นธรรมกับตัวเอง!

พระชายาเฮ่าพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้เหลิ่งชิงเหยากลับมาที่จวนแบบนี้ ยิ่งทำให้เหลิ่งชิงเหยายิ่งอยากกลับไปที่จวนมากยิ่งขึ้น

นางอยากตบตัวเองดัง ๆ สักฉาด ตอนแรกเมื่อได้รับคำเตือนจากชิงฮวน เหตุใดตัวเองจึงทำตรงกันข้ามและร่วมมือกับพระชายาเฮ่าได้ล่ะ?

ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่ากรรมใดใครก่อกรรมนั้นคืนสนอง รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปอย่างมาก

นางตะคอกด้วยความโกรธ “ข้าเป็นถึงลูกสาวของจวนมหาเสนาบดี เป็นพระชายารองของจวนอ๋อง มีอย่างที่ไหนให้ขี้ข้าอย่างเจ้ามาชี้นิ้วสั่งข้าได้? เรือนอย่างนั้นข้าไม่ไปหรอก ตอนนี้ข้าจะกลับไปที่จวนอ๋อง! ไปพูดกับพระชายาของพวกเจ้าให้รู้เรื่อง!”

นางคว้าแส้ม้าของคนขับรถม้าอย่างเดือดดาล แม้ว่าจะขับรถไม่ได้แต่นางก็ต้องแสดงพลังและความมุ่งมั่นที่ควรจะเป็นออกมา

องครักษ์ก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อขวางนางเอาไว้

ในช่วงเวลาที่ตึงเครียดเช่นนี้ เหลิ่งชิงเหยาก็นึกถึงเหลิ่งชิงฮวนขึ้นมาอีกครั้ง หากนางต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นวันนี้ เชื่อว่านางจะไม่เกรงกลัวและไม่สนใจพวกแมลงหวี่แมลงวันเหล่านี้อยู่ในสายตาหรอก

แต่ตัวเองจะไปต่อกรกับพวกเขาได้อย่างไร? ตัวเองอิจฉาอำนาจและตำแหน่งของเหลิ่งชิงฮวน แต่ตัวเองก็ไม่มีความสามารถเหมือนนางแบบนั้น

นางไม่มีหนทางให้ถอยกลับไป ทำได้เพียงก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและดึงปิ่นปักผมออกมา “ถ้าพวกเจ้ากล้าแตะต้องตัวข้าแม้แต่ปลายนิ้ว เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะแทงเข้าไปในท้องทันที? ดูสิว่าพวกเจ้าจะอธิบายกับท่านอ๋องอย่างไร?”

คนที่ค่อยเฝ้าดูทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร

เหลิ่งชิงเหยาเห็นว่าพวกเขาเริ่มกลัวขึ้นมา ราวกับว่านางจะเห็นทางสว่างขึ้นมาแล้ว จึงฮึดฮัดเสียงเย็นชาออกมา “ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ข้าต้องการพบท่านอ๋อง!”

พี่เลี้ยงเหล่มองไปทางอื่นแล้วพยักหน้า “ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เหตุใดพระชายารองจะต้องทำเป็นเรื่องคอขาดบาดตายด้วยล่ะเจ้าค่ะ? ท่านขึ้นรถกลับเข้าเมืองกับพวกหม่อมฉันก็จบเรื่องแล้วเจ้าค่ะ”

“หากข้าขึ้นรถไปก็ไม่เท่ากับว่าต้องเชื่อฟังพวกเจ้าบงการอีกหรอกหรือ? ข้าจะอยู่ที่นี่รอ ถ้าท่านอ๋องไม่มาข้าก็จะไม่ไป!”

พี่เลี้ยงมีสีหน้าเขียวปัดและกัดฟันแน่น นางพยักหน้าให้กับองครักษ์คนหนึ่ง หลังจากนั้นองครักษ์ก็หันหลังขึ้นม้าและมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงด้วยความเร็ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา