ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 790

สรุปบท ตอนที่ 790 รูปแบบแผนการ: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 790 รูปแบบแผนการ – ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล

บท ตอนที่ 790 รูปแบบแผนการ ของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ในหมวดนิยายนิยาย โรแมนติค เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฉลิมพล อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ฮ่องเต้ตะคอกด้วยความโกรธ “ใครลงโทษให้นางคุกเข่า นางเต็มใจคุกเข่าเองต่างหาก”

อวิ๋นเช่อลุกขึ้นจากพื้น ก่อนจะปัดดินบนหัวเข่าและเข้าไปพยุงชิงฮวน “เสด็จแม่ รีบลุกขึ้นเถอะ”

ชิงฮวนแทบจะน้ำตาไหลเพราะลูกชาย ไม่เสียแรงที่เธอเลี้ยงดูเขามา เขาพึ่งพาได้จริงๆ ทำไมเมื่อก่อนเธอจึงเอาแต่ดุและรังแกเขาอยู่ตลอด ในเวลานั้นเธออยากจะจูบใบหน้าขาวอมชมพูเล็กๆ นั้นเพื่อแสดงความรักที่เธอมีต่อเขา ทว่าเมื่อคุณชายน้อยอวิ๋นเช่อเปิดปากพูดอีกครั้ง นั่นทำให้ชิงฮวนต้องร้อนใจ อวิ๋นเช่อเปิดโปงนางอย่างไร้ความปรานี “ท่านแม่ ท่านล้มเลิกแผนการทรมานตัวเองนี้เถอะ แสดงได้ไม่เนียนเอาเสียเลย ท่านปู่ไม่มีวันหลงกลท่านหรอก เลิกเสียเถอะ”

เหลิ่งชิงฮวนเงียบไป

ฮ่องเต้ยกมือขึ้นเคาะโต๊ะพลางมองอวิ๋นเช่ออย่างครุ่นคิด “วันนี้ท่านตาของเจ้าส่งเจ้าเข้าวัง เจ้าเอาแต่ร้องหาอยากจะเจอแม่ ตาของเจ้าสอนมาใช่หรือไม่”

อวิ๋นเช่อกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา “ข้าคิดถึงท่านแม่จริงๆ”

ฮ่องเต้เหล่ตามองพร้อมกับส่งเสียงขู่

อวิ๋นเช่อยังหรี่ยิ้มเป็นรูปสระอิ “ข้าปัสสาวะใส่กาน้ำชาสีม่วงของท่านตาในขณะที่ชาเถี่ยกวนอิมยังร้อนอยู่ ท่านตาโกรธมากจึงส่งข้ามาที่พระราชวัง ท่านตาน่ะขี้เหนียวเกินไป ก็แค่กาน้ำชาธรรมดาๆ อันหนึ่งเท่านั้น ขนาดข้าทำหยกขาวของเสด็จปู่แตกยังไม่โกรธข้าสักนิด”

เหลิ่งชิงฮวนเช็ดหน้าผากอย่างไม่สบายใจ เธอจินตนาการถึงภาพที่พ่อของเธอกำลังจิบชาเถี่ยกวนอิมในกานั้นอย่างมีความสุข ก่อนจะได้ลิ้มรสและโกรธขึ้นมาทันที

ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นเพราะอีกสิ่งหนึ่ง เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าเธอไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลยตั้งแต่ยังเด็ก นั่นทำให้เธอโกรธมาก ทว่าไม่คาดคิดมากก่อนว่าจะถูกปีศาจตัวน้อยปราบเข้าให้ ทั้งห้ามด่าห้ามตี ทำได้เพียงโอ๋เขาเท่านั้น

คำพูดประจบสอพลอของอวิ๋นเช่อไม่ได้เกลี้ยกล่อมฮ่องเต้แต่อย่างใด เขาหัวเราะเย้ยหยันพลางพูดกับชิงฮวนว่า “เห็นแล้วสินะ จิ้งจอกเฒ่าเสนาบดีเหลิ่งรู้ว่าข้าจะมาชำระบัญชีกับเจ้าในวันนี้ เขาจึงส่งลูกชายของเจ้ามาช่วย”

ชิงฮวนเม้มปากโดยไม่พูดอะไร เธอประเมินพ่อของตัวเองต่ำเกินไป เขายังรู้จักปกป้องตัวเอง

เมื่อหวนคิดกลับไป ครั้งหนึ่งเขาเคยพยายามโน้มน้าวเธอด้วยความจริงจัง เขาบอกว่ารากฐานของตนเองไม่มั่นคง จำเป็นต้องได้มีผลงานเหนือขุนนางคนอื่นๆ มากกว่านี้ เพราะเกรงว่าจะถูกทำลาย หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ เธอเชื่อแล้วว่าสิ่งที่พ่อพูดนั้นมีเหตุผล

หากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้เลือกที่จะช่วยเหลือเธอและกล่าวโทษเหล่าบรรดาขุนนาง ในเวลานี้เขาจะต้องรับผลที่ตามมา

ชิงฮวนลูบหัวอวิ๋นเช่อและพูดว่า “พ่อของหม่อมฉันรู้ว่าฮ่องเต้ทรงพระปรีชาและใจกว้าง จะทำโทษชิงฮวนได้อย่างไร ที่ลูกชายของหม่อมฉันมาในวันนี้ก็เพื่อฉีกหม่อมฉันเป็นชิ้นๆ ต่างหาก”

ฮ่องเต้พูดด้วยความโกรธ “หยุดประจบสอพลอเสียที แม้ว่าอวิ๋นเช่อจะอยู่ตรงนี้ข้าจำเป็นจะต้องพูดจาไม่ฟัง การไว้ชีวิตฉีจิ่งอวิ๋นชั่วคราวเป็นการดี แต่ข้ามีเงื่อนไขคือภารกิจบางอย่าง หากเจ้าทำสำเร็จ ข้าจะยอมยกโทษให้อาชญากรผู้นี้ หากทำไม่สำเร็จ...จงให้เขาไปแขวนคอตัวเองหน้าประตูเมืองเป็นตัวอย่างให้ชาวเมืองเสีย”

เมื่อชิงฮวนรู้ว่ามีทางออก เธอจึงยิ้มออกมาทันที “ไม่ใช่แค่ภารกิจเดียว แม้ว่าจะเป็นสิบหรือแปดภารกิจ เขาจะต้องพยายามทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอนเพคะ”

“อย่าเพิ่งรีบพูดจาโอ่อ่าเกินไปเลย” ฮ่องเต้ส่งสัญญาณให้ลู่กงกงพาอวิ๋นเช่อออกจากห้องขัง ก่อนจะมองไปรอบๆ และหันกลับมาพูดอย่างจริงจัง “งานนี้ค่อนข้างยาก ไม่เพียงแต่สำหรับเขาเท่านั้น แต่เป็นการทดสอบกองกำลังของเขาในหนานจ้าวอีกด้วย”

หนานจ้าว? เป็นอย่างที่คิดจริงๆ

“ภารกิจอะไรหรือเพคะ”

ฮ่องเต้ให้ชิงฮวนนั่งลง ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก ก่อนจะจงใจลดเสียงลงเมื่อพูด

“เรื่องราวของน่าจาอี๋นั่วได้แพร่กระจายไปยังหนานจ้าวแล้ว เหตุใดหนานจ้าวจึงส่งทูตมาช้ากว่าปกติ และทูตคนนั้นไม่ใช่คนของราชาหนานจ้าวเจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร”

ชิงฮวนส่ายหน้าเป็นคำตอบว่าเธอไม่รู้

ชิงฮวนมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตระหนักได้ในทันที “ท่านอยากให้จิ่งอวิ๋น...”

“พี่น้องของข้าใช้ความพยายาม 20 ปี สมรู้ร่วมคิดกับโจรต่างชาติ ลักลอบฝึกทหาร ใช้ใต้หล้าเป็นดั่งกระดานหมากรุกเพียงเพราะอยากจะเล่นกับข้า ข้าน่ะไม่ด้อยกว่าใครหรอก ที่ข้าอยู่นิ่งๆ เป็นเพราะจะเปิดวิสัยทัศน์ของตัวเองให้กว้างขึ้น ไม่เพียงแต่รักษาความปลอดภัยภายในเท่านั้น แต่จะได้คำนวณการเดิมพันเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่และอันตราย ข้าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำได้”

เสียงของฮ่องเต้ไม่ดังนัก แต่เขาพูดอย่างหนักแน่นอนราวกับเป็นวีรบุรุษอันดับหนึ่ง พรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ของฮ่องเต้ประกอบกับความสุขุมเยือกเย็นที่สั่งสมมาตามอายุและประสบการณ์ ทำให้สุภาพบุรุษผู้นี้น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

ชิงฮวนพูดด้วยความกังวล “ชิงฮวนเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของท่านพ่อต้องทำให้ใต้หล้าประหลาดใจ และจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ ทว่าคู่ต่อสู้นั้นแพร่กระจายไปทั่วและมีกำลังมหาศาล อาจมีใครบางคนซ่อนอยู่เบื้องหลัง เสด็จพ่อ เรื่องนี้อันตรายยิ่งนัก”

“ข้าเชื่อมั่นในฉีเอ๋อร์! ชนชั้นสูงในฉางอันส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่มั่วเป่ย ฉีเอ๋อร์คุ้นเคยกับที่นั่นดี แม้ว่าในฉางอันจะมีความเสี่ยง แต่ฉีเอ๋อร์จะต้องสามารถพลิกสถานการณ์ได้ ต่อให้มีความช่วยเหลือจากเสด็จอารองก็ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก”

ชิงฮวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เช่นนั้นเสด็จพ่อมีเงื่อนงำเกี่ยวกับบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่”

ฮ่องเต้ส่ายหน้า “ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ชิงฮวน เจ้าต้องจำไว้ว่าหากเจ้ายืนอยู่บนยอดเขา สิ่งที่เจ้าต้องการชื่นชมคือความยิ่งใหญ่ของภูเขาและแม่น้ำใต้ฝ่าเท้า ไม่ใช่แค่จ้องมองใบหญ้า ในทำนองเดียวกัน สิ่งที่ข้ากังวลคือกองกำลังที่เหลืออยู่ของเสด็จอารอง มีเพียงแค่การควบคุมและสังหารพวกมันทั้งหมดเท่านั้น เราถึงจะกำจัดพวกนั้นได้อย่างถอนรากถอนโคน”

เอ่อ...

นี่สินะที่เรียกว่ารูปแบบแผนการ

สิ่งที่เธอพยายามเฝ้ามองมาตลอดคือหญิงสาวผู้ลึกลับคนนั้น คิดว่าการเปิดเผยตัวตนของนางอาจเป็นชัยชนะครั้งสุดท้าย มันมากเสียตนทำให้เธอตาบอดและมองไม่เห็นต่อสถานการณ์โดยรวม วันหนึ่งแม้ว่าหญิงสาวผู้ลึกลับจะตกอยู่ในเงื้อมมือของกฎหมาย บางทีในแง่ของสถานการณ์นางอาจได้รับอำนาจเหนือกว่า ส่วนตัวเธอจะตกอยู่ในการควบคุมของนางแทน

ดั่งคำพูดที่ว่าขิงแก่ย่อมมีรสเผ็ด เธอและมู่หรงฉียังต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ อีกมากมายนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา