ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 792

ฉีจิ่งอวิ๋นถูกปล่อยออกจากคุกใต้ดินในชั่วข้ามคืนและขี่ม้าเร็วออกจากเมืองหลวงไปยังหนานจ้าวอย่างเร่งรีบ

สถานการณ์ในฉางอันกำลังจะพลิกผัน เขาหวังว่าตนเองจะได้กลับจากหนานจ้าวไปต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเสิ่นหลินเฟิงและเหลิ่งชิงฮวนที่ฉางอันให้เร็วที่สุด

ข่าวนักการทูตหนานจ้าวถูกคุมขังถูกรายงานกลับไปยังหนานจ้าวเมื่อนานมาแล้ว

กองทัพหนานจ้าวที่พักแรมอยู่ชายแดนฉางอันทำการรวมพลแลเคลื่อนทัพไปยังฉางอันทันที

สถานการณ์ในหนานจ้าวตอนนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ฉีจิ่งอวิ๋นบอกกับเสิ่นหลินเฟิงว่าข้อพิพาทภายในหนานจ้าวทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราชาหนานจ้าวแก่ชราจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้อีกต่อไป

รวมทั้งการส่งทหารไปเมืองฉางอันก็ไม่ได้มาจากความตั้งใจราชาหนานจ้าวเช่นกัน เขาผู้ซึ่งรักบุตรชายของตนหวังให้ทั้งสองประเทศอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ทว่าข่าวการเสียชีวิตของ น่าจาอี๋นั่วได้แพร่กระจายกลับไปยังหนานจ้าว ทำให้ข่าวนั้นถูกใช้ปลุกระดมความโกรธของผู้คนมากมาย

ต้องบอกก่อนว่าน่าจาอี๋นั่วนั้นมีอิทธิพลอย่างมากในหนานจ้าว ทุกคนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับราชาหนานจ้าวภายใต้การโน้มนำของเสด็จลุง ประชาชนทำให้เรือลอยขึ้นได้ ก็ย่อมสามารถทำให้เรือจมลงได้เช่นกัน สังหารองค์หญิงด้วยความเข้าใจผิด ข่มขู่ขุนนาง ความรุนแรงที่ฉางอันกระทำทำให้ราชาหนานจ้าวต้องเปิดศึกการโจมตี เพื่อปลอบโยนความเศร้าโศกของผู้คนในประเทศ

เสด็จลุงหนานจ้าวใช้โอกาสนี้ยึดอำนาจทางทหาร แต่งตั้งคนสนิทของเขาเป็นแม่ทัพ ผู้ดูแลเสบียงอาหารและหญ้าต่างตกเป็นเป้าของเสด็จลุงหนานจ้าว

ฉางอันกำลังเผชิญกับปัญหาในมั่วเป่ย จึงส่งทหารและเหล่านายพลชนชั้นสูงทั้งหมดอย่างมู่หรงฉีกับแม่ทัพอวี๋ไปยังมั่วเป่ย ทำให้ฉางอันขาดทหารผู้มีฝีมือ หนานจ้าวจึงประเมินศัตรูต่ำไป

ราชาหนานจ้าวสั่งให้น่าเยี่ยไป๋ดูแลกองทัพและอำนาจทางทหาร ถือเป็นการสร้างคุณูปการและบารมีในกองทัพฐานรากของประชาชน

น่าเยี่ยไป๋ที่อยู่ในสงครามก่อน เขากลัวมู่หรงฉีจนแทบหมดสติ เอาแต่โหยหาเสื้อผ้าและอาหารชั้นดีของราชสำนัก มีสาวใช้หน้าตางดงามอยู่ข้างกาย เขาปฏิเสธที่จะออกไปร่วมรบโดยอ้างเหตุผลว่าป่วย ราชาหนานจ้าวจึงด่าทอด้วยความโกรธว่า “เสียแรงที่ชุบเลี้ยงมา”

เมื่อฉางอันได้รับข่าว ทุกคนในราชสำนักจึงถกเถียงกัน ต่างพากันเดาว่าฮ่องเต้จะส่งใครไปร่วมรบ

จวนกั๋วกงซึ่งห่างหายจากสนามรบไปนาน เอาแต่ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองจนไม่สนใจสงครามอีกต่อไป

แม้ว่าจะมีนายพลหลายคน แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะยืนหยัดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้ยินว่าคนของหนานจ้าวเก่งเรื่องการใช้กู่พิษ และอาจนำมาใช้ในยามศึกสงคราม ทุกคนจึงพากับเงียบนิ่ง

ความฉลาดเฉลียวของมู่หรงฉีนั้นสะดุดตาเสียจนบดบังคนอื่นๆ ดังนั้นในระหว่างที่บางคนกำลังเตรียมพร้อมและบางคนกำลังล่าถอยในช่วงศึกสงคราม ทุกคนต่างคาดเดาว่าจักรพรรดิกำลังคิดอะไรอยู่

สายตาเคร่งขรึมของชายชราค่อยๆ กวาดไปยังฝูงชนพร้อมกับชี้ไปที่คนผู้หนึ่ง

ทั้งราชสำนักพากันตกตะลึง

เนื่องจากคนที่ฮ่องเต้เลือกนั้นอยู่เหนือความคาดหมาย

อ๋องเซวียน

กล่าวได้ว่ามีองค์ชายหลายพระองค์ที่เก่งในด้านวรรณกรรมและศิลปะการต่อสู้ พวกเขารู้ทักษะการใช้ม้า ทั้งยังคุ้นเคยกับบทกวี หนังสือและศิลปะแห่งสงคราม ทว่าอ๋องเซวียนนั้นกลับไม่รู้เรื่องอะไรทำนองนี้เลย

เขาเคยอ่านเพียงทฤษฎีในกระดาษ แต่กลับส่งเขาออกไปรบ?

ทุกคนจ้องมองอ๋องเซวียนเป็นตาเดียวกัน

ดูเหมือนว่าเขาจะตกใจอยู่บ้างเช่นกัน

ก่อนจะน้อมรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ดังอย่างยินดี

เหล่าข้าราชบริพารต่างพากันกระซิบว่าฮ่องเต้กำลังพยายามส่งเสริมอ๋องเซวียนหรือไม่ พระองค์ทรงเลอะเลือนไปแล้วหรือเปล่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา