ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 808

เห็นได้ชัดว่าพระชายาเฮ่าที่ต่อหน้ามีท่าทีบอกบางและอ่อนแอลมพัดทีก็ล้มแล้ว แต่ในเวลานี้เซวียอี๋เหนียงกลับรู้สึกถึงพลังกดดันบางอย่างที่อธิบายออกมาไม่ได้ ถึงขนาดที่ทำให้นางหายใจไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกอึดอัด จนแม้แต่สมองก็เบลอไปหมด และพูดโดยไม่รู้ตัวว่าได้พูดอะไรออกไป “เก็บ เก็บเด็กไว้”

พระชายาเฮ่าเงยหน้าขึ้นมาด้วยความพึงพอใจ และชี้ไปยังเซวียอี๋เหนียง จากนั้นก็ค่อย ๆ กวาดสายตามองคนรับใช้ที่อยู่ในเรือนทั้งหลาย “อย่างนี่สิ ถึงเรียกว่าเป็นผู้ที่เห็นส่วนรวมเป็นสำคัญ สมแล้วที่เป็นคนของจวนมหาเสนาบดี เซวียอี๋เหนียงพูดแล้วว่า ถ้าหากต้องเลือกรักษาชีวิตพระชายารองกับคุณชายน้อยได้เพียงหนึ่งคน จะต้องเก็บคุณชายน้อยเอาไว้ ทุกคนได้ยินแล้วใช่ไหม?”

คนรับใช้ในเรือนต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ได้ยินแล้ว!”

เซวียอี๋เหนียงอยากบอกว่า นี่ไม่ใช่ความต้องการจากใจของตัวเอง แต่เพราะไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้ เพราะชีวิตของใครก็ไม่สำคัญเท่ากับลูกหลานเชื้อพระวงศ์หรอก ถ้าตัวเองโต้แย้งไป เช่นนั้นก็จะเป็นการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์และไม่มีคุณธรรม

นางได้ยินเสียงหลิ่งชิงเหยาร้อง “อื้อ ๆ” อยู่ในห้องราวกับว่ากำลังกัดฟันแน่นและก็ดูเหมือนว่ากำลังถูกใครอุดปากเอาไว้อยู่ เหมือนมีเสียงดังออกมาจากทางจมูก

หัวใจของนางเหมือนถูกเข็มทิ่มแท่งลงไป จึงคุกเข่าลงเสียงดัง ตุบ ให้พระชายาเฮ่า “พระชายา หม่อมฉันขอร้องท่านล่ะ ให้หม่อมฉันเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนชิงเหยาเถอะ ได้โปรดเห็นใจหม่อมฉันหัวอกคนเป็นแม่คนนี้หน่อยเถอะเพคะ!”

สำหรับพระชายาเฮ่าแล้วอี๋เหนียงที่ไม่มีหน้ามีตาอะไรเช่นนี้ ปกติแล้วก็จะไม่ไว้หน้าให้อยู่แล้ว จึงเอ่ยปฏิเสธออกมาทันที “ไม่ได้”

เซวียอี๋เหนียงไม่ได้เป็นคนโง่ แค่ความรู้ที่มีอันน้อยนิดของนางจำกัดวิธีคิดของนางก็เท่านั้น เดิมทีนางก็ระแวดระวังพระชายาเฮ่าอยู่ก่อนแล้ว และเพราะพระชายาเฮ่าบี้ถามนางอย่างมีจุดประสงค์ซ่อนเร้นเพื่อต้องการล้วงคำพูดของนาง และยังไม่ให้นางเข้าไปข้างในอีก ทำให้นางมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีมากขึ้นกว่าเดิม

นางคิดว่าพระชายาเฮ่าอิจฉาลูกสาวของตัวเอง และต้องการใช้โอกาสที่คลอดบุตรในครั้งนี้ทำร้ายชิงเหยาเป็นแน่

ด้วยความรักอันแรงกล้าของมารดาทำให้นางไม่สนใจว่าจะกระทำการอะไรที่ล่วงเกินไป นางลุกขึ้นจากพื้นและวิ่งพุ่งเข้าไปในห้องโดยไม่กลัวตาย

พระชายาเฮ่ายืนอยู่ที่หน้าประตู เซวียอี๋เหนียงจึงผลักนางออกไป จากนั้นก็พังประตูเข้าไป

กลิ่นคาวเลือดโชยเข้ามาปะทะหน้า

พระชายาเฮ่าส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา “จะตกตะลึงอะไรกันเล่า? ขวางนางเอาไว้สิ!”

คนรับใช้ภายในเรือนรีบลุกเข้ามาจับเซวียอี๋เหนียงเอาไว้และกดไว้กับพื้น ทำให้นางไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย

“พวกเจ้ากำลังทำอะไร? อย่าทำร้ายเหยาเอ๋อร์ของข้านะ ช่วยด้วย!”

พระชายาเฮ่าพูดอย่างเย็นชา “เซวียอี๋เหนียงมีอารมณ์รุนแรงขึ้นมาเล็กน้อย อย่าได้ให้นางรบกวนพระชายารองได้”

คนรับใช้ขานรับเป็นเสียงเดียวกัน และปิดปากนางเอาไว้จากนั้นก็ลากตัวออกมานอกห้อง

เซวียอี๋เหนียงไม่สามารถพูดอะไรได้ จึงพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง จนทรงผมยุ่งเหยิ่งไปหมด และดวงตาทั้งสองข้างก็ก้าวร้าวราวกับสัตว์ร้าย

นางรู้ว่าชิงเหยาของนางจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน

นางคาดเดาอยู่แล้วว่ามีคนกำลังจ้องทำร้ายลูกสาวของตัวเอง แต่คาดไม่ถึงว่าพระชายาเฮ่าจะกล้าหาญได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่จวนมหาเสนาบดีก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา

ชั่วขณะหนึ่งหัวใจเหมือนถูกมีดกรีดและน้ำตาก็ไหลเหมือนดังสายน้ำ เคียดแค้นพระชายาเฮ่าที่อยู่ตรงหน้าจนอยากจะฉีกเป็นชิ้น ๆ แล้วกินเนื้อแทะกระดูกให้หมด

พระชายาเฮ่ายิ้มอย่างพอใจ และเงยหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้า จากนั้นก็รีบพูดเร่งหมอตำแยที่อยู่ข้างใน “ทำให้มันไว ๆ หน่อย เร็วเข้า”

เสิ่นหลินเฟิงออกจากคุกหลวงมาก็รีบขี่ม้าเร็วออกไป ระหว่างทางพบกับเหลิ่งชิงเฮ่อกับเสนาบดีเหลิ่งบนรถม้าพอดี

เสนาบดีเหลิ่งถามเหลิ่งชิงเจียวเป็นการส่วนตัวว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ดี รู้สึกว่าฝีมือพระชายาเฮ่าต้องไม่ธรรมดา เนื้อในจะต้องมีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกคนอื่นให้รู้ได้ซ่อนเร้นเอาไว้อยู่

เมื่อเกิดเรื่องเร่งด่วนเช่นนี้ สิ่งที่ควรทำไม่ใช่ไปถามหาเอาความผิดจากจวนอ๋องเฮ่า แต่ต้องไปรับตัวเหลิ่งชิงเหยากลับจวนมหาเสนาบดีมาก่อน เพื่อความปลอดภัยของนาง ดังนั้นเขาและเหลิ่งชิงเฮ่อจึงออกไปรับตัวนางทันที เสิ่นหลินเฟิงเองก็อธิบายสถานกาณ์อย่างรวบรัดด้วยคำไม่กี่คำให้เข้าใจ และทั้งสามคนก็รีบออกจากประตูเมืองทางใต้ไป

ในเวลานี้ประตูเมืองได้ปิดหมดแล้ว แต่เพราะตำแหน่งของเสิ่นหลินเฟิงที่สามารถเข้าออกเมืองหลวงได้อย่างอิสระ เขาตะโกนบอกเพียงคำเดียวประตูเมืองก็เปิดออก คนกลุ่มหนึ่งกำลังรีบร้อนไปที่หมู่บ้านชาวนา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา